การพัฒนาสูตรเซรั่มลดริ้วรอยและผิวขาวกระจ่างใส (กระบวนการเย็น)

ถามโดย: jitsupa.narong เมื่อ: June 06, 2021 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำเซรั่มโดยใช้ส่วนผสมดังนี้:

  1. Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera) 35%
  2. Acetyl Hexapeptide-8 (eq. Argireline) 10%
  3. Pal-GHK, Pal-GQPR (eq. Matrixyl 3000) 5%
  4. Repair Activator™ Liquid (Bifida Ferment Lysate) 10%
  5. DMAE (SkinTight MD™) Liquid 5%
  6. Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 10%
  7. Alpha Arbutin (Switzerland) 2%
  8. Activated resorcinol 0.2%
  9. Dimethyl Isosorbide DMI -10%
  10. Natto Gum 5%
  11. Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite 5%

ต้องการเซรั่มที่ช่วยลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดใหม่ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำให้ผิวแข็งแรง ส่วนผสมตามนี้มีสารตัวไหนที่เข้ากันไม่ได้ หรือต้องเพิ่มเติมตรงไหนบ้างคะ หากต้องการนำมาผสมกันโดยไม่ผ่านความร้อน

คำตอบ

จากรายการส่วนผสมที่คุณระบุมา ถือว่ามีส่วนผสมที่ดีสำหรับการทำเซรั่มลดริ้วรอย ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และเสริมเกราะป้องกันผิวค่ะ

นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและข้อควรพิจารณาสำหรับการทำเซรั่มแบบไม่ใช้ความร้อน (cold process) ของคุณ:

ส่วนผสมและประโยชน์:

  • Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera), Bifida Ferment Lysate (Repair Activator™), Natto Gum: สารหมักและสารสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้ดีเยี่ยมสำหรับการปรับสภาพผิว เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ให้ความชุ่มชื้น และอาจมีผลช่วยลดเลือนริ้วรอย
  • Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline), Matrixyl 3000 (Pal-GHK, Pal-GQPR), DMAE: เป็นสารออกฤทธิ์ลดเลือนริ้วรอยที่มีศักยภาพ ช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยและปรับปรุงความกระชับของผิว
  • Niacinamide (Vitamin B3), Alpha Arbutin, Activated Resorcinol (4-Butyl Resorcinol): เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น Niacinamide ยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
  • Panthenol (Vitamin B5): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยมและช่วยปลอบประโลมผิว สนับสนุนความชุ่มชื้นและฟังก์ชันของเกราะป้องกันผิว
  • Dimethyl Isosorbide (DMI): ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและสารเสริมการซึมผ่าน ช่วยให้สารออกฤทธิ์อื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

ความเข้ากันได้และการผสม:

  • ความเข้ากันได้: โดยทั่วไปแล้ว ส่วนผสมที่คุณระบุมาสามารถเข้ากันได้ดี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุด เมื่อผสมสารออกฤทธิ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน เช่น เปปไทด์ วิตามิน (Niacinamide) DMAE และสารปรับสีผิว (Alpha Arbutin, Activated Resorcinol) คือ ค่า pH สุดท้ายของเซรั่ม สารออกฤทธิ์แต่ละชนิดมีช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพ การผสมรวมกันจำเป็นต้องหาค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนใหญ่ หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพหรือการระคายเคืองมากเกินไป ค่า pH ระหว่าง 5.0 ถึง 6.0 มักเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับสูตรที่มีส่วนผสมเหล่านี้ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วผิวสามารถทนได้ดี และยังช่วยรักษาความเสถียรของสารออกฤทธิ์หลายชนิด รวมถึง Alpha Arbutin และ Niacinamide
  • เปอร์เซ็นต์: เปอร์เซ็นต์ที่คุณระบุมา (รวมกันได้ 97.2%) น่าจะเป็นอัตราการใช้ที่แนะนำของวัตถุดิบตามที่ผู้จำหน่ายระบุ ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์สุดท้ายในสูตรเซรั่มของคุณ ในการทำเซรั่ม คุณจะต้องมี ของเหลวที่เป็นเบส โดยทั่วไปคือน้ำบริสุทธิ์ (Aqua) เพื่อเจือจางสารออกฤทธิ์เข้มข้นเหล่านี้ให้อยู่ในความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
  • การผสมแบบไม่ใช้ความร้อน (Cold Process): ส่วนผสมทั้งหมดที่คุณระบุมาเหมาะสำหรับการผสมแบบไม่ใช้ความร้อน ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องให้ความร้อนกับส่วนผสม

สิ่งที่จำเป็นต้องเพิ่ม:

  1. น้ำ (Aqua): จะเป็นส่วนประกอบหลักของเบสเซรั่มของคุณ เพื่อเจือจางสารออกฤทธิ์เข้มข้น
  2. ระบบสารกันเสีย (Preservative System): จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับสูตรที่เป็นน้ำ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ เลือกระบบสารกันเสียที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับช่วงค่า pH ที่คุณต้องการและวิธีการผสมแบบไม่ใช้ความร้อน
  3. สารปรับค่า pH (pH Adjuster): คุณจะต้องใช้กรด (เช่น สารละลาย Lactic Acid หรือ Citric Acid) หรือเบส (เช่น สารละลาย Sodium Hydroxide) เพื่อปรับค่า pH สุดท้ายของเซรั่มให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (เช่น 5.0-6.0) คุณจะต้องใช้กระดาษวัดค่า pH หรือเครื่องวัดค่า pH เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ

ส่วนผสมเพิ่มเติม (ทางเลือก):

  • สารให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเติม (Additional Humectant): แม้ว่า Natto Gum และ Panthenol จะให้ความชุ่มชื้นอยู่แล้ว การเพิ่ม Glycerin หรือ Sodium Hyaluronate ในปริมาณเล็กน้อยสามารถเสริมคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อสัมผัสของเซรั่มได้
  • สารคีเลต (Chelating Agent): ส่วนผสมเช่น Disodium EDTA สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรได้โดยการจับกับไอออนของโลหะที่อาจมีอยู่ในน้ำหรือจากส่วนผสมอื่นๆ

สรุปและคำแนะนำ:

รายการส่วนผสมของคุณมีแนวโน้มที่ดีในการจัดการกับปัญหาผิวที่คุณกังวล กุญแจสู่ความสำเร็จอยู่ที่การผสมอย่างถูกต้อง:

  • ใช้น้ำบริสุทธิ์ เป็นเบส
  • ใส่ระบบสารกันเสียที่เหมาะสม
  • ปรับค่า pH สุดท้ายอย่างระมัดระวัง โดยตั้งเป้าไปที่ช่วง 5.0-6.0 และตรวจสอบด้วยเครื่องวัดค่า pH หรือกระดาษวัดค่า pH
  • ตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำเฉพาะและข้อควรระวังเรื่องความเข้ากันได้ สำหรับวัตถุดิบแต่ละตัวจากผู้จำหน่ายของคุณ พวกเขาอาจให้ช่วงค่า pH ที่เหมาะสมหรือคำแนะนำในการผสมเฉพาะ
  • ระวังความเข้มข้นสูงของสารออกฤทธิ์หลายชนิด หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ควรพิจารณาเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลงสำหรับสารออกฤทธิ์บางชนิด หรือทดสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปบนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อน

การเพิ่มเบส สารกันเสีย และปรับค่า pH จะช่วยให้คุณสร้างเซรั่มที่เสถียรและมีประสิทธิภาพโดยใช้ส่วนผสมที่คุณเลือกด้วยวิธี cold process ได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Natto Gum (Nutto Gum)
Natto Gum (Nutto Gum)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™
เครื่องสำอาง
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
เครื่องสำอาง
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
เครื่องสำอาง
Dimethyl Isosorbide (DMI)
Dimethyl Isosorbide (DMI)
เครื่องสำอาง