การพัฒนาสูตรเซรั่มวิตามินซีและความเสถียร

ตามคำแนะนำของทีมงาน นี่คือข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสูตรเซรั่มวิตามินซีทั้งสองสูตรที่คุณเสนอมาครับ/ค่ะ:

สูตรที่ 1:

• สูตรนี้มีส่วนผสมของ Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum (ID 486) ซึ่งทางทีมงานแจ้งว่าเป็นเบสเซรั่มอยู่แล้ว
• การเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ (Vitamin C (L-ascorbic acid), Phospholipid, Triethanolamine, Vitamin E, Ferulic Acid) ลงในเบสนี้โดยทั่วไปไม่จำเป็น เนื่องจากเบสถูกออกแบบมาให้ใช้ได้เลย
• สามารถเพิ่ม TaraGel™ (ID 2232) ได้ หากต้องการปรับเนื้อเซรั่มให้เป็นเนื้อเจล

สูตรที่ 2:

• สูตรนี้มีส่วนผสมของ Vitamin C (L-ascorbic acid) (ID 134) ซึ่งทางทีมงานชี้แจงอย่างถูกต้องว่า L-ascorbic acid ไม่เสถียรอย่างมากในสูตรที่เป็นเบสน้ำ และจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ทำให้เซรั่มไม่มีประสิทธิภาพ
• แม้ว่าส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรนี้ (Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate), Phospholipid, Ferulic Acid, Vitamin E, Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate), Panthenol, Disodium EDTA, Active Resveratrol™, Light Cream Maker™, Xanthan Gum, Phenoxyethanol, Sodium Hydroxide, Triethanolamine) โดยทั่วไปเข้ากันได้ แต่ความไม่เสถียรของ L-ascorbic acid ในสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำเป็นปัญหาหลักในการสร้างเซรั่มวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพและเสถียร
• สูตรนี้ยังมีวิตามินซีในรูปแบบอื่นอีกสองชนิด (Ascorbyl Tetraisopalmitate และ Ascorbyl Palmitate) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ที่มีความเสถียรมากกว่า นอกจากนี้ยังมีสารปรับค่า pH สองชนิด (Sodium Hydroxide และ Triethanolamine)

คำแนะนำ:

• สำหรับสูตรที่ 1: ใช้ Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum (ID 486) เป็นเบสหลัก คุณสามารถเพิ่ม TaraGel™ (ID 2232) เพื่อทำเป็นเนื้อเจลได้หากต้องการ หลีกเลี่ยงการเพิ่มส่วนผสมแอคทีฟอื่นๆ (2-6) ที่ระบุไว้ เนื่องจากซ้ำซ้อนหรือไม่จำเป็น และอาจส่งผลต่อความเสถียรของเบสสำเร็จรูป
• สำหรับสูตรที่ 2: เพื่อสร้างเซรั่มวิตามินซีที่เสถียร คุณควรงดใช้ Vitamin C (L-ascorbic acid) (ID 134) ในสูตรที่เป็นเบสน้ำนี้ คุณสามารถใช้อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรมากกว่าซึ่งมีอยู่ในสูตรแล้ว เช่น Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) (ID 499) และ Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) (ID 200) หากคุณต้องการใช้ L-ascorbic acid โดยเฉพาะ จะต้องใช้วิธีการผสมที่แตกต่างออกไป โดยทั่วไปคือในเบสที่ไม่มีน้ำ (anhydrous) หรือที่ค่า pH ต่ำมาก (ต่ำกว่า 3.5) ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิวและอาจผสมให้เสถียรได้ยาก ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรที่ 2 โดยทั่วไปเหมาะสมสำหรับเซรั่ม