การพัฒนาสูตรเซรั่มเนื้อบางเบา เพื่อยกกระชับ ลดริ้วรอย และผิวขาวใส
คำถาม
ต้องการทำเซรั่มเนื้อเหลวบางเบา ใช้ได้ทุกสภาพผิว โดยคาดหวังผลลัพธ์ดังนี้:
- ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย
- ลดริ้วรอยร่องลึก
- ผิวขาวใส
สนใจส่วนผสมตามรายการที่ให้ไว้ บางตัวยังไม่ได้ระบุเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน เนื่องจากอาจมีการปรับเปลี่ยน โดยตั้งใจให้สูตรมีส่วนประกอบของน้ำกลั่นอยู่ที่ 50%, สาร Active ในส่วนน้ำ 25% และส่วนน้ำมัน 25%
รายการส่วนผสมที่สนใจมีดังนี้ (บางตัวยังไม่ได้ระบุ %):
- Cell Energy 3%
- beta glucan
- Japanese Cedar 1%
- Mineral Ready 2%
- DMI 3%
- Mild Preserved Eco 1%
- Wrinkle-Lax 0.5%
- Repair Activator
- Pep-Coll
- RETINAT
- Marine Plankton
- Ectoin
- Methylsilanol Mannuronate
- Quick-Coll
- Safe-B3 2%
- Gluco Bright 4%
- Panthenol B5
- น้ำมันมะกอก 10%
- โรสฮิป 5%
- LipidSoft Lite 5%
- MSH White 2%
- Tea Tree Oil 0.4%
- German Chamomile Extract 1%
- สารสร้างเนื้อ และประสานน้ำกับน้ำมัน
ขอคำแนะนำดังนี้ค่ะ:
- มีสารตัวไหนที่ทำงานซ้ำซ้อนกันบ้างไหมคะ
- สารตัวไหนที่ต้องใช้เครื่องปั่น ไม่สามารถคนด้วยมือได้บ้างคะ
- สารตัวไหนที่ละลายได้ยากบ้างคะ
- วิตามิน บี5 ควรใช้กี่เปอร์เซ็นต์ที่จะให้ผลได้ดีและไม่เหนอะหนะ
- ควรใช้สารสร้างเนื้อและประสานตัวไหนดีที่ไม่ต้องใช้ความร้อน คนมือได้ง่าย และได้เนื้อเซรั่มเหลว
- ควรใช้ LipidSoft Lite หรือแบบ Dry ดีคะ
- ถ้าเติม MSH White ลงใน LipidSoft อุ่น 80 องศาจนละลาย แล้วรอให้เย็นตัวลง เติมน้ำมันส่วนที่เหลือ แล้วนำไปเทลงในส่วนน้ำ จะเกิดตะกอนไหมคะ
- Japanese Cedar, L-Carnitine และ FruitPeel สามตัวนี้ให้ผลเหมือนกันไหมคะ ตัวไหนละลายง่ายไม่ยุ่งยาก
- สารตัวไหนที่มีความเหนอะหนะสูง นอกจาก บี5 อีกไหมคะ
- สารตัวไหนที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้บ้าง
- มีตัวไหนต้องใช้ความร้อนช่วยละลายอีกบ้าง
- ขอขั้นตอนในการผสมสำหรับมือใหม่ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับการทำเซรั่มเนื้อบางเบา
นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำเซรั่มเนื้อบางเบาที่คุณต้องการให้มีคุณสมบัติยกกระชับ ลดริ้วรอย และผิวขาวใส:
สารที่ทำงานซ้ำซ้อนกัน
ส่วนผสมที่คุณสนใจมีหลายตัวที่เน้นเรื่องการลดริ้วรอยและยกกระชับ เช่น Cell Energy (Adenosine), Japanese Cedar, Mineral Ready, Wrinkle-Lax, Repair Activator, Pep-Coll, RETINAT, Marine Plankton, Methylsilanol Mannuronate และ Quick-Coll แม้ว่าสารบางตัวจะมีกลไกการทำงานที่เสริมกันได้ แต่การใช้ทั้งหมดอาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุนในการผลิตโดยไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับเรื่องความขาวใส Safe-B3 (วิตามินบี 3), Gluco Bright (Acetyl Glucosamine) และ MSH White ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกันและสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองพิจารณาเลือกใช้สารออกฤทธิ์หลักเพียงไม่กี่ตัวสำหรับแต่ละคุณสมบัติที่คุณต้องการ โดยพิจารณาจากกลไกการทำงานเฉพาะตัวและอัตราการใช้ที่แนะนำ
การผสม (คนมือ vs. เครื่องปั่น)
ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้หลายตัว เช่น Safe-B3, Gluco Bright, Panthenol B5, Wrinkle-Lax, Ectoin, Mineral Ready, L-Carnitine, Pep-Coll, RETINAT, Marine Plankton, Quick-Coll, Japanese Cedar และ Methylsilanol Mannuronate สามารถละลายในน้ำได้ด้วยการคนด้วยมือ แต่ผงบางชนิดอาจต้องใช้เวลาในการละลายหรือจับตัวเป็นก้อนได้ (เช่น Beta Glucan หากเนื้อเบสไม่หนืดพอ หรือ Pure-Adenosine ที่กระจายตัวแต่ไม่ละลายชัดเจน) MSH White ต้องใช้ความร้อนช่วยในการละลายในส่วนน้ำมัน การทำอิมัลชันที่มีส่วนน้ำมัน 25% ด้วยการคนด้วยมืออาจทำได้ยากเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่คงตัว แม้ว่า CreamMaker EG™ จะถูกออกแบบมาสำหรับการทำ Cold Process และช่วยในการทำอิมัลชันได้ง่ายขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (blender) เพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่เนียนและคงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนน้ำมันในปริมาณมาก
สารที่ละลายได้ยาก
- Pure-Adenosine™ (Cell Energy): สารนี้กระจายตัวในเนื้อครีม/เจล และละลายน้ำได้น้อย (สูงสุด 0.5%) ไม่ละลายน้ำได้ดี
- Beta Glucan: กระจายตัวในน้ำแต่ไม่ละลายจนใส และอาจตกตะกอนได้หากสูตรมีความหนืดไม่เพียงพอ
- MSH White: ต้องใช้ความร้อนอย่างน้อย 60°C (แนะนำ 80°C) เพื่อให้ละลายในส่วนน้ำมันหรือแอลกอฮอล์จนใส
- L-Carnitine: แม้จะละลายน้ำได้ แต่ดูดความชื้นได้ง่ายมาก ต้องปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันความชื้น
วิตามิน บี5 กี่เปอร์เซ็นต์ที่ให้ผลดีและไม่เหนอะหนะ
สำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อัตราการใช้วิตามิน บี5 (Panthenol) ที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลดีโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะคือ 1-3% การใช้ในปริมาณที่สูงกว่า 5% อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีความเหนอะหนะได้
สารสร้างเนื้อและประสานน้ำกับน้ำมันที่ไม่ต้องใช้ความร้อน คนมือได้ง่าย ได้เนื้อเซรั่มเหลว
สำหรับเซรั่มเนื้อบางเบาที่สามารถทำได้ด้วย Cold Process และการคนด้วยมือ CreamMaker EG™ (Sodium Acrylate / Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer & Isohexadecane & Polysorbate 80) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ทำหน้าที่ทั้งเป็นสารสร้างเนื้อ (thickener) และสารประสานน้ำกับน้ำมัน (emulsifier) ถูกออกแบบมาสำหรับสูตร Cold Process และช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา Sepimax Zen (Polyacrylate Crosspolymer-6) เป็นสารสร้างเนื้อสำหรับส่วนน้ำที่ทำ Cold Process ได้เช่นกัน แต่คุณยังคงต้องใช้สารประสานน้ำกับน้ำมันแยกต่างหากเพื่อรวมส่วนน้ำมันเข้ามา CreamMaker EG™ จึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกกว่าสำหรับการทำเซรั่ม Cold Process ที่มีทั้งส่วนน้ำและน้ำมัน
ควรใช้ LipidSoft Lite หรือแบบ Dry ดีคะ
สำหรับเนื้อเซรั่มที่บางเบาและไม่เหนอะหนะ LipidSoft Lite (Isononyl Nonanoate) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า มีลักษณะเนื้อสัมผัสที่เบามาก ไม่มัน และเหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการความบางเบา สามารถใช้แทนซิลิโคนได้ ส่วน LipidSoft Dry ให้ความรู้สึกแห้งแต่มีความนุ่มลื่นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับชนิดอื่น
ถ้าเติม MSH White ลงใน LipidSoft อุ่น 80 องศา จนละลายแล้วรอให้เย็นตัวลงเติมน้ำมันส่วนที่เหลือ แล้วนำไปเทลงในส่วนน้ำ จะเกิดตะกอนมั้ยคะ
ใช่ การผสมส่วนน้ำมันที่อุ่น (ซึ่งมี MSH White ละลายอยู่) เข้ากับส่วนน้ำอาจทำให้เกิดการตกตะกอนหรือไม่คงตัวได้หากทำไม่ถูกต้อง MSH White ต้องใช้ความร้อนในการละลายในน้ำมัน เมื่อนำส่วนน้ำมันที่อุ่นมาผสมกับส่วนน้ำที่เย็นกว่า จำเป็นต้องใช้เทคนิคการทำอิมัลชันที่เหมาะสม (ค่อยๆ เทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง) และใช้สารประสานน้ำกับน้ำมันที่เหมาะสม เช่น CreamMaker EG™ เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรคงตัวและไม่แยกชั้นหรือตกตะกอน แม้จะใช้สารประสานที่ดีแล้ว อุณหภูมิที่แตกต่างกันและลักษณะของส่วนผสมก็ยังต้องการการจัดการที่ระมัดระวัง
Japanese Cedar, L-Carnitine และ FruitPeel สามตัวนี้ให้ผลเหมือนกันมั้ยคะ ตัวไหนละลายง่ายไม่ยุ่งยาก
สารทั้งสามตัวนี้ให้ผลที่แตกต่างกันเป็นหลัก แม้จะมีคุณสมบัติ Anti-Aging บางส่วนที่ทับซ้อนกัน:
- Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract): เน้นการส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในชั้นหนังกำพร้า เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับปรุงโครงสร้างผิวโดยรวม ละลายในน้ำได้ แต่หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 60°C
- L-Carnitine: ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ควบคุมความมัน ให้ความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวยกกระชับและลดเซลลูไลท์ได้ ละลายในน้ำได้ แต่ดูดความชื้นได้ง่ายมาก และต้องมีค่า pH ต่ำกว่า 8 (เหมาะสมที่สุด 4-7)
- FruitPeel™: ทำหน้าที่เป็นสารผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอย ปรับปรุงความกระชับ ลดจุดด่างดำ และเพิ่มความนุ่มนวลและความชุ่มชื้นให้กับผิว ละลายในน้ำได้ แต่หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C
สารทั้งสามตัวมีความสามารถในการละลายและข้อจำกัดด้านอุณหภูมิที่แตกต่างกัน Japanese Cedar และ FruitPeel เป็นของเหลวที่ละลายน้ำได้ง่าย (โดยมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ) ส่วน L-Carnitine เป็นผงที่ละลายน้ำได้แต่ดูดความชื้นได้ง่าย
สารตัวไหนที่มีความเหนอะหนะสูง นอกจาก บี5 อีกมั้ยคะ
สารที่อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้หากใช้ในปริมาณสูงคือ Panthenol B5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เกิน 5% สารสร้างเนื้อ (thickeners) หรือสารก่อเจลบางชนิด หากใช้ในปริมาณสูงหรือเลือกชนิดที่ไม่เหมาะสมกับเซรั่มเนื้อบางเบา ก็อาจทำให้รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะเล็กน้อยได้
มีตัวไหนต้องใช้ความร้อนช่วยละลายอีกบ้าง
MSH White เป็นสารที่ต้องใช้ความร้อนอย่างน้อย 60°C (แนะนำ 80°C) เพื่อช่วยในการละลายในส่วนน้ำมันหรือแอลกอฮอล์จนใส
ขั้นตอนในการผสมสำหรับมือใหม่
นี่คือขั้นตอนการทำเซรั่มแบบ Cold Process อย่างง่ายที่สามารถทำได้ด้วยการคนด้วยมือ โดยสมมติว่าคุณใช้ CreamMaker EG™ เป็นสารประสานน้ำกับน้ำมัน/สารสร้างเนื้อ:
- เตรียมส่วนน้ำ: ตวงน้ำกลั่น (50%) ใส่สารที่ละลายน้ำได้ เช่น Safe-B3, Gluco Bright, Ectoin, Mineral Ready, L-Carnitine, Beta Glucan, Japanese Cedar, FruitPeel, Methylsilanol Mannuronate, Panthenol B5, Repair Activator, Pep-Coll, RETINAT และ Quick-Coll ลงในน้ำกลั่น คนให้ละลายหรือกระจายตัวจนเข้ากันดี ระวังข้อจำกัดด้านอุณหภูมิของ Japanese Cedar (หลีกเลี่ยง >60°C) และ FruitPeel (หลีกเลี่ยง >40°C) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนน้ำมีอุณหภูมิห้องหรือต่ำกว่า 40°C ก่อนเติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน
- เตรียมส่วนน้ำมัน: ตวงน้ำมันมะกอก (10%), น้ำมันโรสฮิป (5%) และ LipidSoft Lite (5%) ใส่ MSH White (2%) ลงในส่วนน้ำมันนี้ ค่อยๆ อุ่นส่วนผสมน้ำมันนี้จนถึงประมาณ 80°C พร้อมคนจน MSH White ละลายจนใส นำออกจากความร้อนและปล่อยให้เย็นลงจนต่ำกว่า 40°C
- รวมส่วนผสม: ใส่ CreamMaker EG™ ในปริมาณที่แนะนำลงในส่วนน้ำมันที่เย็นแล้ว หรือส่วนน้ำ (ตรวจสอบคำแนะนำเฉพาะของ CreamMaker EG™ จากผู้จำหน่าย) ค่อยๆ เทส่วนที่ไม่มี CreamMaker EG™ ลงในส่วนที่มี CreamMaker EG™ พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องและแรงด้วยมือ คนต่อไปจนได้อิมัลชัน (เซรั่ม) ที่เป็นเนื้อเดียวกัน
- เติมส่วนผสมที่เหลือ: เมื่อได้เนื้ออิมัลชันแล้วและเย็นลงต่ำกว่า 40°C ให้เติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนที่ยังไม่ได้ใส่ในขั้นตอนที่ 1 (เช่น Pep-Coll, RETINAT, Quick-Coll, Marine Plankton, Natural Bisabolol, Tea Tree Oil, DMI, Mild Preserved Eco) ใส่ทีละตัว และคนให้เข้ากันดีก่อนเติมตัวถัดไป
- ปรับค่า pH: ตรวจสอบค่า pH ของเซรั่มที่ได้ และปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์และสารประสานน้ำกับน้ำมัน (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 4.0-7.0) โดยใช้สารปรับค่า pH ที่เหมาะสมหากจำเป็น
- เติมสารกันเสีย: เติม Mild Preserved Eco (1%) และคนให้เข้ากัน
- คนครั้งสุดท้าย: คนเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
โปรดจำไว้ว่าการทำอิมัลชันให้คงตัวและเนียนด้วยการคนด้วยมืออาจทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนน้ำมันในปริมาณสูง แนะนำให้ใช้เครื่องปั่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ควรทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Olive Oil (Extra Virgin)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

L-Carnitine (Carnitine)

Tea Tree Oil (Extra Grade)

LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)

MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Wrinkle-Lax™ คลายริ้วรอย

RETINAT™ (Starfish Extract)

Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract)

FruitPeel™ ผลัดเซลล์ด้วยผลไม้

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Marine Plankton (Lifting, Tightening)

Quick-Coll®
