การพัฒนาสูตรเซรั่มไวท์เทนนิ่ง: เนื้อสัมผัส การประสาน และการละลายของสาร
คำถาม
มีสูตรดังนี้และต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรเซรั่มเนื้อเหลว การประสานเนื้อ การละลายของสาร และการปรับเนื้อสัมผัสโดยไม่ใช้ซิลิโคนค่ะ
สูตร:
- น้ำ: ให้ครบร้อย
- EDTA: 0.2%
- Coffee Extract: 3%
- Tranexamic Acid: 3%
- 4MSK: 3%
- Satin Cream Maker: 0.5%
- Fractionated Coconut Oil: 3%
- LHA: 1%
- MSH White: ผง 2%
- Activated Resorcinol: 1%
- Perfect C: 5%
- Tocotrienol: 0.5%
- Milk Thistle: 1%
- Microcare: 1%
ขั้นตอนการผสม:
- ผสม น้ำ, EDTA, Coffee Extract, Tranexamic Acid, 4MSK, Satin Cream Maker คนให้เข้ากัน (ส่วนน้ำ)
- ผสม Fractionated Coconut Oil และ LHA 2ตัวนี้ใช้ความร้อนช่วยละลาย (ส่วนน้ำมัน)
- เติม MSH White ผง, Activated Resorcinol, Perfect C, Tocotrienol, Milk Thistle ลงในส่วนน้ำมัน คนให้เข้ากัน
- เติมส่วนน้ำมันลงส่วนน้ำ คนให้เข้ากัน
- เติม Microcare
คำถามเฉพาะ:
- ต้องการเป็นเนื้อเซรั่มไวท์เทนนิ่ง เนื้อเหลว ใช้ Satin Cream Maker 0.5% เท่านี้พอประสานเนื้อที่สัดส่วนน้ำมันค่อนข้างมากได้หรือไม่ ไม่เคยผสมเซรั่มที่สัดส่วนน้ำมันเยอะมาก่อนค่ะ
- จำเป็นต้องใช้ Fractionated Coconut Oil ละลายส่วนน้ำมันหรือไม่ และ 3% พอหรือไม่ (โดยเฉพาะ LHA)
- สัดส่วนน้ำมันทั้งหมดในสูตรขนาดนี้ จะมีเนื้อที่เหนอะหรือไม่ ควรปรับเนื้อยังไงให้เบา ไม่ใช้ซิลิโคนเพราะอุดตันค่ะ
- ถ้าจะใช้แอลกอฮอล์ช่วย ควรใช้ไม่เกินกี่% คะ
สภาพผิวหน้าหมอง มีรอยกระ รอยดำสิว ผิวผสม
เห็นควรปรับตรงไหนเพิ่มช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำการตรวจสูตรและการปรับเนื้อเซรั่ม
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรเซรั่มไวท์เทนนิ่งของคุณค่ะ สูตรนี้มีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและลดจุดด่างดำหลายชนิด ซึ่งมีศักยภาพสูงค่ะ เรามาดูส่วนผสมและตอบคำถามของคุณเกี่ยวกับเนื้อสัมผัสและความคงตัวนะคะ
สูตรของคุณมีส่วนผสมดังนี้:
- น้ำ: ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%
- EDTA: 0.2%
- Coffee Extract: 3%
- Tranexamic Acid: 3%
- 4MSK: 3%
- Satin Cream Maker: 0.5%
- Fractionated Coconut Oil: 3%
- LHA: 1%
- MSH White: 2%
- Activated Resorcinol: 1%
- Perfect C: 5%
- Tocotrienol: 0.5%
- Milk Thistle: 1%
- Microcare: 1%
รวมส่วนผสมที่เป็นน้ำมันหรือละลายในน้ำมันได้ประมาณ 9.5% (Fractionated Coconut Oil 3%, LHA 1%, Perfect C 5%, Tocotrienol 0.5%)
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามและคำแนะนำของคุณค่ะ:
Satin Cream Maker 0.5% เพียงพอหรือไม่: การใช้ Satin Cream Maker เพียง 0.5% น่าจะไม่เพียงพอ ในการสร้างอิมัลชันที่คงตัวสำหรับสูตรที่มีส่วนของน้ำมันประมาณ 9.5% ความเข้มข้นที่ต่ำนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้สูตรแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป แทนที่จะได้เนื้อเซรั่มที่คงตัว คุณอาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้นของ Satin Cream Maker หรือเพิ่มสารช่วยประสาน/สารเพิ่มความหนืดในส่วนน้ำเพื่อช่วยให้อิมัลชันคงตัวค่ะ
Fractionated Coconut Oil ช่วยละลายส่วนน้ำมันหรือไม่ และ 3% พอหรือไม่: Fractionated Coconut Oil เป็นน้ำมันเบาที่ดีในการเป็นตัวพาและช่วยละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันได้ดี เช่น Perfect C และ Tocotrienol 3% อาจจะเพียงพอในการละลาย Perfect C 5% และ Tocotrienol 0.5% ได้ แต่ขึ้นอยู่กับขีดจำกัดการละลายของส่วนผสมนั้นๆ อย่างไรก็ตาม LHA (Capryloyl Salicylic Acid) เป็นอนุพันธ์ของ Salicylic Acid ที่ ละลายในน้ำมันได้ยาก การใช้ความร้อนกับ FCO อาจช่วยได้บ้าง แต่ 3% FCO อาจไม่เพียงพอที่จะละลาย LHA 1% ได้ทั้งหมด และอาจเกิดการตกผลึกซ้ำได้ LHA มักจะละลายได้ดีกว่าในตัวทำละลายที่มีขั้ว เช่น แอลกอฮอล์ หรือเอสเทอร์บางชนิดค่ะ
เนื้อเหนอะหรือไม่ และปรับเนื้ออย่างไรให้เบา (ไม่ใช้ซิลิโคน): ด้วยส่วนของน้ำมันรวมประมาณ 9.5% สูตรนี้อาจให้ความรู้สึกหนักหรือเหนอะได้ โดยเฉพาะหากอิมัลชันไม่คงตัวสมบูรณ์ เพื่อปรับเนื้อให้เบาและไม่เหนอะโดยไม่ใช้ซิลิโคน:
- เพิ่มสารประสาน/สารเพิ่มความหนืด: เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Satin Cream Maker (เช่น เป็น 1-2%) หรือเพิ่มสารเพิ่มความหนืดในส่วนน้ำ (เช่น Xanthan Gum หรือ Carbomer ที่ 0.1-0.5%) เพื่อช่วยให้อิมัลชันคงตัวและเพิ่มความหนืด อิมัลชันที่คงตัวจะให้ความรู้สึกเบาและเนียนกว่า
- ปรับส่วนประกอบน้ำมัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนประกอบน้ำมันเป็นเอสเทอร์หรือน้ำมันที่เบา เช่น FCO
- พิจารณาใช้ตัวทำละลายสำหรับสารออกฤทธิ์: การใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมสำหรับ LHA จะช่วยให้แน่ใจว่าละลายได้หมด ซึ่งมีส่วนช่วยให้เนื้อสัมผัสเนียนขึ้นได้ค่ะ
ใช้แอลกอฮอล์ช่วย ควรใช้ไม่เกินกี่ %: หากคุณต้องการใช้แอลกอฮอล์ (Ethanol) เพื่อช่วยละลาย LHA หรือปรับปรุงเนื้อสัมผัส ให้ใช้ในความเข้มข้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงอาการผิวแห้งและระคายเคือง โดยเฉพาะสำหรับผิวผสมที่อาจมีปัญหาสิว/รอยสิว ความเข้มข้นที่มักใช้เพื่อเป็นตัวทำละลาย/ปรับเนื้อสัมผัสในผลิตภัณฑ์ทาหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 3-5% แต่ควรใช้ในปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ความเข้มข้นสูง (เช่น >10-20%) ซึ่งมีแนวโน้มทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ง่าย เมื่อพิจารณาจากสภาพผิวของคุณ (ผิวผสม มีรอยสิว) การใช้แอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยที่สุดเป็นสิ่งที่ดีค่ะ คุณอาจลองละลาย LHA ในตัวทำละลายเอสเทอร์ที่เหมาะสมปริมาณเล็กน้อยก่อนนำไปผสมในส่วนน้ำมัน หรือพิจารณาใช้ Salicylic Acid ในรูปแบบอื่นที่ละลายง่ายกว่า
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์และความเสี่ยงการระคายเคือง: สูตรนี้มีสารออกฤทธิ์เพื่อความกระจ่างใสหลายชนิดและมีความเข้มข้นสูง ซึ่งมีศักยภาพในการให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคือง ผิวแดง หรือแพ้ง่ายได้มาก โดยเฉพาะกับผิวผสม
- ทดสอบการแพ้ (Patch Test): แนะนำอย่างยิ่ง ให้ทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้า
- การปรับค่า pH: ควรตรวจสอบและปรับค่า pH สุดท้ายของสูตร ความคงตัวและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์หลายชนิด (Tranexamic Acid, 4MSK, LHA, Activated Resorcinol, Perfect C) และสารกันเสียขึ้นอยู่กับค่า pH ที่เหมาะสม
- ทำ Batch เล็กทดลองก่อน: ควรทำสูตรในปริมาณน้อยเพื่อทดสอบความคงตัว (สังเกตการแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งที่อุณหภูมิห้องและอุณหภูมิสูงขึ้นถ้าทำได้) การละลายของส่วนผสม และเนื้อสัมผัสบนผิวก่อนที่จะทำในปริมาณมากค่ะ
โดยสรุป เพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่คงตัวและบางเบา ควรเน้นการปรับปรุงระบบอิมัลชันโดยการเพิ่มสารประสานหรือเพิ่มสารเพิ่มความหนืดในส่วนน้ำ และตรวจสอบให้แน่ใจว่า LHA ละลายได้ดี อาจพิจารณาใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Fractionated Coconut Oil

Disodium EDTA

Satin Cream Maker™

Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)

Silybum Marianum Extract (Milk Thistle, Silymarin)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

4MSK (Potassium Methoxysalicylate)

Chlorphenesin / Phenoxyethanol (Microcare PHC eq.)
