การพัฒนาสูตรเซรั่ม/ครีมวิตามินซีสำหรับผิวผสม: ความเสถียรและเนื้อสัมผัส
คำถาม
จากสภาพผิวของดิฉัน (ผิวมันช่วงทีโซน โหนกแก้มแห้ง) ดิฉันต้องการทำ Vitamin C repair serum โดยตอนแรกได้พิจารณาสูตรดังนี้ค่ะ:
- Silky Serum Base (Face/Eye) ชนิดน้ำ: 24 g (48%)
- Water: 15 g (30%)
- Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine: 5g (10%)
- Vitamin B5: 0.75 g (1.5%)
- Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate): 5g (10%)
- Phenoxyethanol (สารกันเสีย): 0.25 g (0.5%)
คำถามของดิฉันคือ:
- สูตรนี้เหมาะสมกับสภาพผิวของดิฉันหรือไม่คะ?
- สามารถเพิ่ม Vitamin B5 ในสูตรนี้ได้หรือไม่คะ? ถ้าได้ ขั้นตอนการผสมโดยเติมหลังจากเติม Water, Repair Activator, และ Phenoxyethanol แล้วคนให้เข้ากัน ถูกต้องหรือไม่คะ?
- สามารถเปลี่ยน Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine เป็น Perfect-C TransDerm หรือ Azelaic Acid (Liquid Azelaic™) ได้หรือไม่คะ? การเปลี่ยนส่วนผสมเหล่านี้จะส่งผลอย่างไรคะ?
คำตอบ
จากบทสนทนากับทางเจ้าหน้าที่ สรุปคำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการทำ Vitamin C repair serum ได้ดังนี้ค่ะ
เกี่ยวกับการเพิ่ม Vitamin B5 (Panthenol Pro Vitamin B5):
- สามารถเพิ่ม Vitamin B5 ในสูตรได้ในความเข้มข้น 1-5% ขึ้นอยู่กับว่าผิวแห้งแค่ไหนค่ะ
- ควรเติมลงในส่วนของน้ำในสูตรค่ะ
- ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอมา โดยเติม Vitamin B5 หลังจากเติมน้ำ, Repair Activator, และ Phenoxyethanol แล้วคนให้เข้ากัน ถือว่าถูกต้องค่ะ
เกี่ยวกับการเปลี่ยนส่วนผสมแทน Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate):
- สามารถเปลี่ยนส่วนผสมในสูตรได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและประสิทธิภาพที่ต้องการค่ะ
- Perfect-C เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน ในขณะที่ Azelaic Acid (Liquid Azelaic™) ละลายในน้ำ หากเปลี่ยนไปใช้ Azelaic Acid อาจจะต้องเปลี่ยน Silky Serum Base เป็นชนิดที่ละลายในน้ำด้วยค่ะ
- Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine ชนิดผง ไม่สามารถใช้ได้ ในสูตรที่คุณเสนอมา เนื่องจากวิตามินซีชนิดนี้ไม่เสถียรเมื่ออยู่ในน้ำค่ะ
จากสภาพผิวของคุณ (ผิวมันช่วงทีโซน โหนกแก้มแห้ง) และความไม่เสถียรของ L-ascorbic acid ในน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงแนะนำสูตรครีมที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งช่วยปรับสมดุลผิวและใช้รูปแบบวิตามินซีที่เสถียรแทนค่ะ ในสูตรที่แนะนำนี้ไม่ได้รวม Vitamin B5 ไว้ เนื่องจากมีส่วนผสมอื่นที่ช่วยปรับสมดุลสำหรับผิวผสมอยู่แล้วค่ะ
นี่คือสูตรและขั้นตอนการผสมครีมที่ทางเจ้าหน้าที่แนะนำค่ะ:
สูตรที่แนะนำ:
- Perfect-C TransDerm (บำรุง/Whitening): 10%
- Vitamin B3 (Niacinamide) (ช่วยฟื้นฟูผิว): 5%
- Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate): 10%
- Zinc PCA (ลดความมัน ปรับสมดุล): 1%
- Rice Vitamin (Inositol Vitamin B8) (ลดความมัน ปรับสมดุล): 3%
- Pro Polymer (Acrylate Crosspolymer) (สารสร้างเนื้อเจล/ครีม): 1.5%
- น้ำ: ส่วนที่เหลือ
- Phenoxyethanol (สารกันเสีย): 0.8%
ขั้นตอนการผสม:
- นำส่วนผสมที่ 2, 3, 4, 5, 7, และ 8 (Vitamin B3, Repair Activator, Zinc PCA, Rice Vitamin, น้ำ, Phenoxyethanol) มารวมกัน คนให้เข้ากันจนละลายใส
- เติมส่วนผสมที่ 6 (Pro Polymer) คนจนได้เนื้อเจลที่เนียน
- เติมส่วนผสมที่ 1 (Perfect-C TransDerm) คนจนได้เนื้อครีม
ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้ข้อสังเกตว่า การใช้ Silky Serum Base ถึง 48% ตามสูตรที่คุณเสนอมา จะทำให้เนื้อสูตรเหลวมากค่ะ หากต้องการใช้เบสตัวนี้ แนะนำให้ใช้ประมาณ 10-15% เพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่ข้นกำลังดีจะเหมาะสมกว่าค่ะ
ดังนั้น สูตรที่คุณเสนอมาโดยใช้ L-ascorbic acid ชนิดผง จึงไม่แนะนำเนื่องจากความไม่เสถียรในน้ำค่ะ สูตรที่ทางเจ้าหน้าที่ปรับปรุงและแนะนำมา จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับสภาพผิวและความต้องการของคุณค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Zinc PCA

Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)

Silky Serum Base (Face/Eye)
