ทำความเข้าใจคำถามเกี่ยวกับสูตร BHA ของคุณ

คุณมีคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับสูตร BHA ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ Polysorbate 20 และความสำคัญของค่า pH เรามาทำความเข้าใจกันทีละประเด็น:

สามารถละเว้น Polysorbate 20 ได้หรือไม่?

Polysorbate 20 ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยละลาย (solubilizer) และตัวช่วยกระจาย (dispersant) ในสูตรของคุณ เนื่องจาก Salicylic Acid ชนิดผงไม่ละลายในน้ำและต้องละลายในตัวทำละลาย เช่น Propylene Glycol ดังนั้น Polysorbate 20 จะช่วยรวมเฟสน้ำมันหรือเฟสที่ละลายในตัวทำละลายนี้เข้ากับเฟสน้ำของเซรั่มของคุณ

การละเว้น Polysorbate 20 อาจนำไปสู่:

• ความไม่เสถียร: Salicylic Acid อาจไม่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งเซรั่ม ซึ่งอาจแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป
• ความไม่ใส: เซรั่มของคุณอาจดูขุ่นมัวแทนที่จะใส
• ปัญหาด้านเนื้อสัมผัส: สูตรอาจรู้สึกไม่เรียบเนียนหรือสม่ำเสมอ

แม้ว่า Salicylic Acid จะสามารถละลายใน Propylene Glycol ได้ แต่ Polysorbate 20 ช่วยให้แน่ใจว่าสารละลายนี้เข้ากันได้ดีกับส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เซรั่มมีความเสถียรและน่าใช้ โดยทั่วไปแล้ว การใช้ตัวช่วยละลาย เช่น Polysorbate 20 เป็นสิ่งที่แนะนำสำหรับการทำสูตร Salicylic Acid ชนิดผงในผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำ เพื่อความเสถียรและความใส

ค่า pH สำคัญสำหรับสูตร BHA หรือไม่?

ใช่ ค่า pH มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสูตร BHA (Salicylic Acid) Salicylic Acid มีประสิทธิภาพสูงสุดในการผลัดเซลล์ผิวเมื่อค่า pH ของสูตรอยู่ในช่วงที่กำหนด โดยทั่วไปจะต่ำกว่า 4.0 ที่ค่า pH ที่ต่ำกว่านี้ Salicylic Acid ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปที่ไม่มีประจุ ซึ่งสามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดสิ่งอุดตัน

อย่างไรก็ตาม ค่า pH ที่ต่ำมากก็อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคืองผิวได้เช่นกัน ผู้คิดค้นสูตรมักจะพยายามรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความอ่อนโยน สารสกัดจาก Willow Bark ที่คุณใช้ก็มี Natural Salicylic Acid อยู่ด้วย และทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH 4.0-6.5

ดังนั้น การควบคุมและวัดค่า pH สุดท้ายของสูตรจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมออกฤทธิ์มีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว

การผสมส่วนผสมที่มีค่า pH ต่างกันส่งผลต่อค่า pH สุดท้ายอย่างไร?

เมื่อคุณผสมส่วนผสมที่มีค่า pH ต่างกัน ค่า pH สุดท้ายของส่วนผสมจะอยู่ระหว่างค่า pH ของส่วนประกอบแต่ละชนิด ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยอย่างง่าย เนื่องจากความเข้มข้นและความสามารถในการบัฟเฟอร์ (ความสามารถในการต้านทานการเปลี่ยนแปลงค่า pH) ของส่วนผสมแต่ละชนิดมีบทบาทสำคัญ

ตัวอย่างเช่น การผสมส่วนผสมที่มีค่า pH 5 กับส่วนผสมที่มีค่า pH 7 จะส่งผลให้ค่า pH สุดท้ายอยู่ระหว่าง 5 ถึง 7 ตามที่เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ได้ค่า pH สุดท้ายที่ต้องการสำหรับสูตร BHA ของคุณ (โดยทั่วไปควรต่ำกว่า 4.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของ Salicylic Acid โดยคำนึงถึงความเสถียรโดยรวมของสูตรและความอ่อนโยนต่อผิว) คุณจะต้องวัดค่า pH หลังจากผสมและปรับค่าหากจำเป็นโดยใช้ตัวปรับค่า pH

สรุปแล้ว แม้ว่าในทางเทคนิคคุณอาจละเว้น Polysorbate 20 ได้ แต่ก็แนะนำให้ใช้เพื่อความเสถียรและความสวยงามของสูตร ค่า pH มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเซรั่ม BHA ของคุณ และค่า pH สุดท้ายจะเป็นผลรวมของส่วนผสมทั้งหมด ซึ่งต้องมีการวัดและอาจต้องมีการปรับค่า