การพัฒนาสูตรแชมพูมะกรูดไร้ SLS/SLES และการใช้วัตถุดิบ

ถามโดย: alwayspetshop เมื่อ: June 10, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ได้รับสินค้าแล้วค่ะ อยากสอบถามเกี่ยวกับการทำสูตรแชมพูสมุนไพรมะกรูดที่ปราศจาก SLS/SLES โดยใช้วัตถุดิบที่มีดังนี้ค่ะ:

  • น้ำสมุนไพร (น้ำมะกรูด)
  • SulFoam (Disodium Laureth Sulfosuccinate)
  • Cocamidopropyl Betaine
  • Gluta-Clean (Disodium Cocoyl Glutamate)
  • Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate)
  • Glycerin
  • Panthenol (Pro Vitamin B5)
  • Tea Tree Oil (Water Soluble)
  • น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil)
  • สารกันเสีย (Phenoxyethanol SA)
  • สารเพิ่มความข้น (SugarThick)

รบกวนแนะนำดังนี้ค่ะ:

  1. อัตราส่วนรวมของกลุ่มสารชำระล้าง (SulFoam, Cocamidopropyl Betaine, Gluta-Clean, Cond-Foam) ที่เหมาะสมสำหรับสูตรนี้ควรเป็นเท่าไหร่คะ
  2. วิธีการใช้ SugarThick เพื่อปรับความข้นหนืดตามที่ต้องการค่ะ
  3. อัตราส่วนที่แนะนำสำหรับ สารกันเสีย (Phenoxyethanol SA) ค่ะ
  4. อัตราส่วนที่แนะนำสำหรับ Panthenol ค่ะ
  5. Tea Tree Oil (Water Soluble) จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลายไหมคะ หรือสามารถใส่ลงในส่วนน้ำได้เลย
  6. สารเหล่านี้มีความ อ่อนโยน และสามารถช่วย ลดสิวตามไรผม ได้หรือไม่คะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

ได้รับข้อความและทราบว่าได้รับสินค้าแล้วนะคะ สำหรับสูตรแชมพูสมุนไพรมะกรูดที่ปราศจาก SLS/SLES โดยใช้วัตถุดิบที่ท่านสมาชิกสอบถามเข้ามา ทางทีมงานได้รวบรวมข้อมูลและคำแนะนำจากที่เคยแจ้งไป พร้อมเพิ่มเติมในส่วนที่สอบถามล่าสุด ดังนี้ค่ะ

ข้อควรระวัง: ตามที่ทีมงานเคยแจ้ง น้ำสมุนไพรอาจมีความคงตัวและควบคุมเชื้อได้ยากมาก แนะนำให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง และการใช้สารกันเสียในปริมาณที่แนะนำเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ

สูตรแนะนำ (ตัวอย่างสัดส่วนเบื้องต้น)

นี่คือสัดส่วนแนะนำสำหรับส่วนผสมที่ท่านสมาชิกมี โดยอิงตามคำแนะนำของทีมงานและหลักการทั่วไปในการทำแชมพูค่ะ ท่านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการฟอง ความหนืด และคุณสมบัติอื่นๆ ค่ะ

  • น้ำสมุนไพร (น้ำมะกรูด): ส่วนที่เหลือ (ประมาณ 61-62.5%)
  • กลุ่มสารชำระล้าง (รวมกัน 25-35%):
    • SulFoam (Disodium Laureth Sulfosuccinate): 15%
    • Cocamidopropyl Betaine: 10%
    • Gluta-Clean (Disodium Cocoyl Glutamate): 3%
    • Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate): 3%

      (รวมสารชำระล้างทั้งหมด 31% ซึ่งอยู่ในช่วงที่ทีมงานแนะนำ 25-35%)
  • Glycerin: 3% (อยู่ในช่วง 3-5% ที่ทีมงานแนะนำ)
  • Panthenol (Pro Vitamin B5): 0.5% (อยู่ในช่วง 0.5-1.0% ที่ทีมงานแนะนำ และแนะนำที่ 0.5% เพื่อไม่ให้เหนอะหนะ)
  • Tea Tree Oil (Water Soluble): 1.0% (โดยทั่วไปใช้ 0.5-2% สำหรับคุณสมบัติบำรุงหนังศีรษะ)
  • น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil): 0.5% (อยู่ในช่วง 0.5-1.0% ที่ทีมงานแนะนำ)
  • สารกันเสีย (Phenoxyethanol SA): 1.0% (อยู่ในช่วง 0.5-1.0% ที่ทีมงานแนะนำ แนะนำ 1.0% เพื่อการกันเสียที่ดีในสูตรที่มีน้ำสมุนไพร)
  • สารเพิ่มความข้น (SugarThick): 0.5 - 2% (หรือปรับตามความข้นหนืดที่ต้องการ เติมในขั้นตอนสุดท้าย)

วิธีทำ (โดยประมาณ):

  1. ผสมกลุ่มสารชำระล้างทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนเบาๆ ให้เข้ากันดี
  2. ค่อยๆ เติมน้ำสมุนไพรลงไปทีละน้อย พร้อมคนให้เข้ากัน (หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองมากเกินไป)
  3. เติม Glycerin, Panthenol, Tea Tree Oil (Water Soluble), น้ำมันหอมระเหย และสารกันเสีย (Phenoxyethanol SA) ลงไป คนให้เข้ากัน
  4. สุดท้าย ค่อยๆ เติม SugarThick ทีละน้อย พร้อมคนจนได้ความข้นหนืดที่ต้องการ

คำถามเพิ่มเติม:

  • Tea Tree Oil (Water Soluble) ต้องใช้ตัวทำละลายไหม?
    Tea Tree Oil ชนิด "Water Soluble" ถูกออกแบบมาให้สามารถละลายในน้ำได้โดยตรง จึงไม่จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลายเพิ่มเติมค่ะ สามารถเติมลงในส่วนผสมที่เป็นน้ำได้เลย

  • สารเหล่านี้อ่อนโยนและช่วยลดสิวตามไรผมได้ไหม?

    • ความอ่อนโยน: กลุ่มสารชำระล้างที่เลือกมา (SulFoam, Cocamidopropyl Betaine, Gluta-Clean, Cond-Foam) เป็นกลุ่มที่จัดว่าอ่อนโยนกว่า SLS/SLES มากค่ะ การใช้สูตร Sulfate-Free, Paraben-Free, Silicone-Free ตามที่ท่านสมาชิกต้องการ มักจะช่วยลดการระคายเคืองหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาหนังศีรษะและสิวได้ค่ะ
    • สิวตามไรผม: Tea Tree Oil มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาสิวบนหนังศีรษะหรือตามไรผมได้ค่ะ Panthenol ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวหนังได้
    • อย่างไรก็ตาม ปัญหาสิวตามไรผมอาจเกิดจากหลายสาเหตุ การใช้แชมพูที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ช่วยดูแลหนังศีรษะสามารถช่วยได้ แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะหายขาดค่ะ การรักษาความสะอาดของหนังศีรษะและเส้นผมอย่างเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม:

  • เนื่องจากใช้น้ำสมุนไพรซึ่งอาจมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อได้ง่าย แนะนำให้ทำในปริมาณน้อยๆ เพื่อทดลองใช้ก่อน และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเนื้อผลิตภัณฑ์และกลิ่น หากมีการเปลี่ยนแปลง ควรหยุดใช้ค่ะ
  • หากต้องการผลิตเพื่อจำหน่าย ควรพิจารณาเรื่องการทดสอบความคงตัว (Stability Test) และการทดสอบประสิทธิภาพของสารกันเสีย (Challenge Test) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้น้ำสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลักค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำแชมพูนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Cocamidopropyl Betaine
Cocamidopropyl Betaine
เครื่องสำอาง
Tea Tree Oil (Water Soluble)
Tea Tree Oil (Water Soluble)
เครื่องสำอาง
SugarThick™ (PEG-120 Methyl Glucose Dioleate)
SugarThick™ (PEG-120 Methyl Glucose Dioleate)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Gluta-Clean™ (Disodium Cocoyl Glutamate)
Gluta-Clean™ (Disodium Cocoyl Glutamate)
เครื่องสำอาง
Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate, Liquid)
Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate, Liquid)
เครื่องสำอาง