การพัฒนาสูตรแป้งและรองพื้นเหลว รวมถึงการใช้แป้งข้าวเจ้า

ถามโดย: prettybypatty เมื่อ: September 03, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนอธิบายส่วนประกอบและขั้นตอนการพัฒนาสูตรสำหรับแป้งฝุ่น แป้งผสมรองพื้น (แป้งอัดแข็ง) และครีมรองพื้นให้หน่อยค่ะ สนใจเป็นพิเศษว่ามีการใช้ส่วนผสมอย่างแป้งข้าวเจ้า (เช่น Ricesorb™) อย่างไร โดยเฉพาะในสูตรเครื่องสำอางแบบ Talc-free/Mineral makeup และเนื้อสัมผัสของแป้งข้าวเจ้าแตกต่างจากส่วนประกอบดั้งเดิมอย่าง Mica และ Sericite อย่างไรบ้างคะ

คำตอบ

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการผสมแป้งฝุ่น แป้งผสมรองพื้น และครีมรองพื้น

การผลิตแป้งฝุ่น แป้งผสมรองพื้น และครีมรองพื้น เกี่ยวข้องกับการผสมส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัส การปกปิด สี และคุณสมบัติตามที่ต้องการ จากการพูดคุยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเครื่องสำอางแบบ Talc-free/Mineral และการใช้แป้งข้าวเจ้า นี่คือภาพรวมทั่วไปของส่วนประกอบและกระบวนการ:

ส่วนประกอบหลัก:

  1. สารให้เนื้อแป้ง (Base Powders / Fillers): เป็นส่วนประกอบหลักที่ให้เนื้อสัมผัส หรือช่วยเรื่องเนื้อสัมผัสและการดูดซับความมันในครีมรองพื้น ตัวอย่างทั่วไปได้แก่:

    • Mica: ให้ความลื่นและความกระจ่างใส (เช่น Mica Powder)
    • Sericite: ให้ความรู้สึกเนียนนุ่มดุจแพรไหมและเกาะผิวได้ดี (เช่น Sericite Powder)
    • Silica: ใช้เพื่อดูดซับความมันและช่วยเบลอผิว (เช่น MatteSilica)
    • Starch (เช่น แป้งข้าวเจ้า): สามารถดูดซับความมันและให้ความรู้สึกนุ่ม มักใช้ในสูตร "ธรรมชาติ" หรือ "Talc-free" แต่โดยทั่วไปไม่ได้ใช้เป็นส่วนประกอบหลักเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเนื้อสัมผัสแตกต่างจาก Mica/Sericite (เช่น Ricesorb™)
    • Talc: สารให้เนื้อแป้งแบบดั้งเดิม ซึ่งหลีกเลี่ยงในเครื่องสำอางแบบ "Mineral" เนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย
  2. สี (Pigments): สารที่ให้สีสันและการปกปิด จำเป็นต้องกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างสีทั่วไปได้แก่:

    • Titanium Dioxide: ให้สีขาวและช่วยป้องกันแสงแดด (เช่น Titanium Dioxide)
    • Iron Oxides: ให้โทนสีเหลือง แดง ดำ และน้ำตาล เพื่อให้เข้ากับสีผิว (เช่น Iron Oxides Red, Iron Oxides Yellow, Iron Oxides Black)
  3. สารยึดเกาะ (Binders - สำหรับแป้งอัดแข็ง): ส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อแป้งเกาะตัวกันเมื่อนำไปอัดเป็นก้อน ตัวอย่างเช่น Magnesium Stearate, Zinc Stearate และน้ำมันหรือแวกซ์บางชนิด

  4. สารเติมแต่งอื่นๆ (ทั้งแบบแป้งและแบบน้ำ):

    • สารดูดซับความมัน: (เช่น Silica, Starch)
    • สารบำรุงผิว/สารให้ความนุ่มลื่น: น้ำมัน ซิลิโคน (โดยเฉพาะในครีมรองพื้น) เพื่อให้ความลื่น ความชุ่มชื้น และเกลี่ยง่าย
    • สารกันเสีย: จำเป็นสำหรับสูตรที่เป็นน้ำเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
    • สารทำอิมัลชัน (Emulsifiers): (สำหรับครีมรองพื้น) ช่วยให้น้ำและน้ำมันเข้ากันได้
    • สารเพิ่มความข้น (Thickeners): (สำหรับครีมรองพื้น) เพื่อให้เนื้อครีมมีความหนืดที่เหมาะสม

กระบวนการผลิต (ขั้นตอนทั่วไป):

สำหรับแป้งฝุ่น:

  1. ผสมสารให้เนื้อแป้ง (Mica, Sericite, Silica, แป้งข้าวเจ้า ฯลฯ)
  2. บดและผสมสี (Titanium Dioxide, Iron Oxides) กับสารให้เนื้อแป้งจำนวนเล็กน้อย หรือสารช่วยกระจายตัว เพื่อให้สีกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
  3. เติมส่วนผสมของสีลงในส่วนผสมแป้งหลัก
  4. เติมสารเติมแต่งอื่นๆ ที่ต้องการ (เช่น สารดูดซับความมัน สารบำรุงผิว)
  5. ผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง
  6. ร่อนส่วนผสมเพื่อกำจัดก้อน

สำหรับแป้งผสมรองพื้น (แป้งอัดแข็ง):

  1. ทำตามขั้นตอนที่ 1-5 สำหรับแป้งฝุ่น
  2. เติมสารยึดเกาะ (เช่น Magnesium Stearate) ลงในส่วนผสมแป้งและผสมให้เข้ากัน
  3. นำส่วนผสมแป้งไปอัดลงในตลับโดยใช้เครื่องอัดแป้งโดยเฉพาะ

สำหรับครีมรองพื้น:

  1. เตรียมส่วนของน้ำมัน (น้ำมัน ซิลิโคน ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน)
  2. เตรียมส่วนของน้ำ (น้ำ ส่วนผสมที่ละลายในน้ำ สารกันเสีย)
  3. กระจายสี (Titanium Dioxide, Iron Oxides) ในเบสน้ำมันหรือซิลิโคนปริมาณเล็กน้อย โดยใช้เครื่องผสมแบบ High-shear
  4. รวมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกันกับสารทำอิมัลชัน และผสมให้เข้ากันเพื่อสร้างอิมัลชัน
  5. เติมส่วนผสมสีที่กระจายตัวแล้วลงในอิมัลชัน
  6. เติมสารเพิ่มความข้นและสารเติมแต่งอื่นๆ
  7. ทำให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน (Homogenize) เพื่อให้มีความคงตัวและเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน

การใช้แป้งข้าวเจ้า:

ตามที่ได้มีการพูดคุยกัน แป้งข้าวเจ้า (Rice Starch เช่น Ricesorb™) สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในสูตรแป้งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการกล่าวอ้างว่าเป็น "ธรรมชาติ" หรือ "Talc-free" และเพื่อคุณสมบัติในการดูดซับความมัน อย่างไรก็ตาม เนื้อสัมผัสของแป้งข้าวเจ้าจะแตกต่างจากแป้งเครื่องสำอางทั่วไป เช่น Mica และ Sericite ซึ่งอาจให้ความรู้สึกแห้งกว่าหรือไม่นุ่มลื่นเท่า แม้ว่าจะสามารถใช้แทนที่ส่วนหนึ่งของสารให้เนื้อแป้งแบบดั้งเดิมได้ แต่การใช้เป็นส่วนประกอบหลักเพียงอย่างเดียว (เช่น 60% หรือมากกว่า) อาจทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ไม่เนียนนุ่มหรือเกาะผิวได้ดีเท่าสูตรที่ใช้ Mica หรือ Sericite เป็นหลัก สัดส่วนที่เหมาะสมในการใช้ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพที่ต้องการ ซึ่งมักจะต้องทดลองปรับเปลี่ยนค่ะ

โดยสรุป การสร้างสรรค์แป้งและรองพื้นเครื่องสำอางต้องอาศัยการผสมผสานอย่างระมัดระวังระหว่างสารให้เนื้อแป้ง สี สารยึดเกาะ (สำหรับแป้งอัดแข็ง) และสารเติมแต่งต่างๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติเครื่องสำอางตามที่ต้องการ แป้งข้าวเจ้าสามารถเป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดูดซับความมันและการอ้างอิงทางการตลาด แต่ระดับการใช้ควรปรับตามลักษณะของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ต้องการค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Magnesium Stearate
Magnesium Stearate
เครื่องสำอาง
Mica Powder (20 Micron, Methicone Coated)
Mica Powder (20 Micron, Methicone Coated)
เครื่องสำอาง
Iron Oxides Red (Ultra-fine, Methicone-Coated)
Iron Oxides Red (Ultra-fine, Methicone-Coated)
เครื่องสำอาง
Iron Oxides Yellow (Ultra-fine, Methicone-Coated)
Iron Oxides Yellow (Ultra-fine, Methicone-Coated)
เครื่องสำอาง
Iron Oxides Black (Ultra-fine, Methicone-Coated)
Iron Oxides Black (Ultra-fine, Methicone-Coated)
เครื่องสำอาง
Sericite Powder (6 Micron, Methicone Coated)
Sericite Powder (6 Micron, Methicone Coated)
เครื่องสำอาง
MatteSilica 5™ (5 Micron)
MatteSilica 5™ (5 Micron)
เครื่องสำอาง