การพัฒนาสูตร Face Oil สองเฟส เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ถามโดย: newbaberry เมื่อ: August 15, 2025 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการขอสูตร Face Oil ที่มีเนื้อสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่มันมาก โดยอยากได้สูตรที่คล้ายกับ Clarins Double Serum ซึ่งเป็น 'double serum' ที่มีทั้งระบบน้ำ (hydric system) และระบบน้ำมัน (lipidic system) อยากทราบว่าสูตร Face Oil ลักษณะนี้สามารถผสมน้ำได้หรือไม่?

คำตอบ

สำหรับสูตร Face Oil ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและคล้ายกับ Clarins Double Serum ที่มีทั้งส่วนน้ำและน้ำมันนั้น เราขอแนะนำแนวทางการสร้างสรรค์สูตรโดยใช้ส่วนผสมหลักที่ช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมซาบเร็ว ดังนี้ค่ะ

Clarins Double Serum เป็นเซรั่มสองเฟส (Biphasic Serum) ที่แยกชั้นน้ำ (Hydric) และน้ำมัน (Lipidic) ออกจากกัน และจะรวมตัวกันเมื่อเขย่าก่อนใช้ ซึ่งช่วยให้ได้คุณสมบัติการบำรุงทั้งจากส่วนน้ำและน้ำมันโดยไม่รู้สึกหนักผิว

แนวคิดสูตร Face Oil แบบไม่เหนียวเหนอะหนะ (Hydric + Lipidic System)

เพื่อให้ได้ Face Oil ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีส่วนผสมของน้ำได้ เราแนะนำให้ใช้ Silky Serum Base Plus เป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากเป็นเบสเซรั่มที่บางเบา ซึมซาบเร็ว และสามารถผสานทั้งส่วนน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันได้ดี ทำให้ได้เซรั่มที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นและไม่ทิ้งความมันบนผิว

ส่วนประกอบที่แนะนำ:

Silky Serum Base Plus (ID 710): ใช้เป็นเบสหลักในการสร้างเนื้อเซรั่มที่บางเบาและช่วยผสานน้ำกับน้ำมันเข้าด้วยกัน ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นและซึมซาบเร็ว
LipidSoft™ Lite (ID 530): เป็น Emollient เนื้อบางเบามาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการความบางเบาเป็นพิเศษ สามารถใช้แทนซิลิโคนได้
Shea Butter Light Oil (ID 669): น้ำมันเชียบัตเตอร์ที่ผ่านกระบวนการทำให้มีเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย แต่ยังคงคุณสมบัติการบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื้นได้ดี
Isododecane (Ultra Lite) (ID 7915): Emollient ที่เบาเป็นพิเศษ ระเหยเร็ว ไม่ทิ้งความมันบนผิว และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการความแห้งสบาย
Dimethicone (Light/20, Low-Odor) (ID 127514): ซิลิโคนเนื้อบางเบา ช่วยเคลือบผิวให้นุ่มลื่นยาวนานโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ

แนวทางการผสม (โดยประมาณ):

คุณสามารถปรับสัดส่วนได้ตามความต้องการเนื้อสัมผัสและความเข้มข้นที่ต้องการ:

ส่วนน้ำมัน (Lipidic Phase): ผสม Silky Serum Base Plus กับน้ำมันเนื้อเบาต่างๆ เช่น LipidSoft™ Lite, Shea Butter Light Oil, Isododecane (Ultra Lite) และ Dimethicone (Light/20, Low-Odor) ในสัดส่วนที่เหมาะสม (Silky Serum Base Plus สามารถรองรับน้ำมันและซิลิโคนได้สูงสุด 30% ของสูตร)
ส่วนน้ำ (Hydric Phase): เตรียมน้ำและส่วนผสมที่ละลายน้ำได้อื่นๆ
การรวมเฟส: ค่อยๆ เติมส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมันที่ผสม Silky Serum Base Plus แล้ว คนหรือปั่นให้เข้ากันทีละน้อยจนได้เนื้อเซรั่มที่ต้องการ Silky Serum Base Plus สามารถรองรับน้ำได้ 30-90% ของสูตร ยิ่งมีน้ำมาก เซรั่มจะยิ่งข้นขึ้นแต่ยังคงซึมซาบเร็ว

อีกทางเลือกสำหรับระบบ Water-in-Oil:

หากต้องการสร้างระบบ Water-in-Oil ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถพิจารณาใช้ Luxe XO (ID 127154) ซึ่งเป็นสารก่ออิมัลชันสำหรับระบบ Water-in-Oil ที่ปราศจากซิลิโคน ช่วยสร้างอิมัลชันที่เสถียรและให้เนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ทาแล้วไม่ทิ้งความมันบนผิว เหมาะสำหรับสูตรที่มีปริมาณน้ำมันสูง

การเลือกใช้ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ Face Oil ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และให้ความรู้สึกสบายผิว คล้ายคลึงกับเซรั่มสองเฟสที่คุณต้องการค่ะ

การตอบกลับติดตาม

newbaberry

August 16, 2025 04:38

คำถาม:

ฉันกำลังพัฒนาสูตรเฟซออยล์ และมีคำถามดังนี้:

ในสูตรเฟซออยล์จำเป็นต้องใส่สารกันเสียหรือไม่คะ?
ขอตัวอย่างการขึ้นสูตรเฟซออยล์ด้วยค่ะ
อัตราส่วนพื้นฐานในสูตรตัวอย่างสามารถปรับได้หรือไม่คะ? และต้องการใส่น้ำมัน Avocado Oil เข้าไปในสูตรด้วยค่ะ

คำตอบ:

ใช่ค่ะ สำหรับสูตรเฟซออยล์ใดๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใส่สารกันเสียค่ะ น้ำเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อรา) ซึ่งสามารถทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเสีย ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน และลดอายุการเก็บรักษาได้ แม้ว่าปริมาณน้ำจะน้อย ก็ยังคงจำเป็นต้องใช้สารกันเสียค่ะ

คุณสามารถปรับอัตราส่วนพื้นฐานเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและความรู้สึกที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอนค่ะ การเพิ่มน้ำมันอะโวคาโดเข้าไปเป็นความคิดที่ดีมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติในการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม

นี่คือตัวอย่างสูตรพื้นฐานสำหรับเฟซออยล์ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ แบบสองเฟส (biphasic) ซึ่งรวมน้ำมันอะโวคาโดและสารกันเสียที่เหมาะสมไว้ด้วยค่ะ

ตัวอย่างสูตรเฟซออยล์ (ระบบสองเฟส)

สูตรนี้มุ่งเน้นให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดยมีทั้งเฟสน้ำมันและเฟสน้ำ

ส่วนผสม:

เฟส A (เฟสน้ำมัน)

Silky Serum Base Plus: 15.0% (เป็นเบสเซรั่มเนื้อบางเบา ช่วยประสานน้ำมันและน้ำ)
LipidSoft™ Lite: 10.0% (สารให้ความนุ่มลื่นเนื้อบางเบามาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ)
Shea Butter Light Oil: 5.0% (น้ำมันบำรุงผิวเนื้อบางเบา ซึมง่าย)
Isododecane (Ultra Lite): 5.0% (สารให้ความนุ่มลื่นที่เบามาก ระเหยเร็ว)
Dimethicone (Light/20, Low-Odor): 2.0% (ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ)
Avocado Oil (Refined): 5.0% (น้ำมันบำรุงผิว ตามที่คุณต้องการ)

เฟส B (เฟสน้ำ)

น้ำ (น้ำกลั่น/น้ำปราศจากไอออน): 56.0% (เฟสไฮดริก)
Magnesium Sulfate: 1.0% (ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตร ตามคำแนะนำสำหรับ Silky Serum Base Plus)
Mild Preserved Eco™: 1.0% (สารกันเสียแบบ Broad-spectrum อ่อนโยน ไม่มีกลิ่น)

รวม: 100.0%

ขั้นตอนการผสม:

เตรียมเฟส A: รวม Silky Serum Base Plus, LipidSoft™ Lite, Shea Butter Light Oil, Isododecane (Ultra Lite), Dimethicone (Light/20, Low-Odor) และ Avocado Oil (Refined) ในภาชนะ คนหรือปั่นให้เข้ากันดี
เตรียมเฟส B: ในภาชนะแยกต่างหาก รวมน้ำ, Magnesium Sulfate และ Mild Preserved Eco™ คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี
รวมเฟส: ขณะที่คนหรือปั่นเฟส A อย่างต่อเนื่อง ให้ค่อยๆ เติมเฟส B ลงในเฟส A ทีละน้อย คนหรือปั่นต่อไปจนส่วนผสมกลายเป็นเซรั่มที่เป็นเนื้อเดียวกันและคงตัว หากคุณมีเครื่องปั่นความเร็วสูง สามารถเติมเฟสน้ำทั้งหมดในครั้งเดียวแล้วปั่นเป็นเวลา 5-10 นาทีด้วยความเร็วต่ำสุด 500 รอบต่อนาที

ข้อควรทราบที่สำคัญ:

การปรับอัตราส่วน: ใช่ค่ะ คุณสามารถปรับอัตราส่วนได้ตามต้องการ
- สำหรับเซรั่มที่ข้นขึ้น: เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของน้ำ Silky Serum Base Plus สามารถรองรับน้ำได้ 30-90%
- สำหรับเซรั่มที่เหลวขึ้น: คุณสามารถลดปริมาณน้ำเล็กน้อย หรือเพิ่มสารให้ความนุ่มลื่นที่ระเหยง่าย เช่น Isododecane (Ultra Lite) หรือ Dimethicone (Light/20, Low-Odor)
- สำหรับคุณประโยชน์จากน้ำมันมากขึ้น: คุณสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันอะโวคาโด หรือน้ำมันเบาอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบได้ โดยให้แน่ใจว่าปริมาณน้ำมัน/ซิลิโคนทั้งหมดไม่เกิน 30% ของสูตรเมื่อใช้ Silky Serum Base Plus
สารกันเสีย: ควรทำการทดสอบ Challenge Test กับสูตรสำเร็จรูปของคุณเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของคุณโดยเฉพาะ
การจัดเก็บ: เก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในที่เย็นและมืด ห่างจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์