การพิจารณาสูตรและอายุการเก็บรักษาเซรั่มลดริ้วรอย

ขอขอบคุณที่ส่งสูตรเซรั่มลดริ้วรอยมาให้พิจารณา สูตรนี้มีการเลือกส่วนผสมที่ดีที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้น การลดริ้วรอย และความกระจ่างใส

นี่คือการประเมินสูตรและข้อเสนอแนะในการปรับปรุง:

การประเมินสูตรและข้อเสนอแนะ

1. การละลายของ Glabridin 40%: Glabridin 40% ไม่ละลายในน้ำหรือน้ำมันโดยตรง จำเป็นต้องละลายในตัวทำละลาย เช่น Butylene Glycol หรือ Ethanol ในปริมาณอย่างน้อย 10 เท่าของปริมาณ Glabridin สูตรปัจจุบันของคุณไม่มีตัวทำละลายเหล่านี้ ในการผสม Glabridin อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องเพิ่มตัวทำละลายที่เหมาะสม (เช่น Butylene Glycol หรือ Ethanol 1% สำหรับ Glabridin 0.1%) และละลาย Glabridin ในตัวทำละลายนั้นโดยใช้ความร้อนเล็กน้อย (50-60°C) ก่อนที่จะนำสารละลายนี้ไปเติมในสูตรหลักในขั้นตอนสุดท้าย

2. ระบบกันเสีย: Mild Preserve Eco ที่ 1% อยู่ในระดับต่ำสุดของอัตราการใช้ที่แนะนำ (1.0-1.5%) สำหรับเครื่องสำอางทั่วไป เมื่อพิจารณาว่ามีสารสกัดจากธรรมชาติและโปรตีนหลายชนิด ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเติบโตของจุลินทรีย์ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่มความเข้มข้นของ Mild Preserve Eco เป็น 1.5% หรือทำการทดสอบ Microbial Challenge Test กับสูตรสำเร็จรูปของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกันเสียที่เพียงพอ โปรดทราบว่า Aloe Vera Extract และ Double Hyaluron Liquid ก็มี Phenoxyethanol ซึ่งช่วยในการกันเสียด้วย แต่การทดสอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการยืนยันประสิทธิภาพ

3. ระดับ pH: ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดในสูตรของคุณ เช่น Argireline, Alpha Arbutin, Japanese Cedar, Madecassoside, Collagen HP และ Witch Hazel มีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 3.5 ถึง 6.5 หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว คุณควรตรวจสอบและปรับ pH สุดท้ายของเซรั่มให้อยู่ในช่วงนี้ (โดยเฉพาะ 4.0-6.5) เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทำงานได้ตามที่คาดหวังและมีความคงตัว

4. วิธีการผสม: ให้ความสำคัญกับคำแนะนำในการผสมสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น Argireline, Pep-Coll, Madecassoside, Witch Hazel, Alpha Arbutin, Snow Algae, Collagen HP และ Blue Vitamin E Beads ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อสูตรเย็นลงแล้ว (ต่ำกว่า 30-40°C หรือต่ำกว่า 60°C สำหรับ Snow Algae) โดยใช้การคนให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะหลังจากเติม Blue Vitamin E Beads เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดบีดแตก

5. ความเข้มข้นของส่วนผสม: ความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่แนะนำ หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ คุณอาจพิจารณาเพิ่ม Vitamin B3 เป็น 5% หรือ Alpha Arbutin เป็น 2% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพทั่วไป โดยต้องแน่ใจว่าสูตรยังคงมีความคงตัวและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

อายุการเก็บรักษา

อายุการเก็บรักษาของเซรั่มขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงประสิทธิภาพของระบบกันเสีย ความคงตัวของส่วนผสมเมื่อเวลาผ่านไป บรรจุภัณฑ์ และวิธีการเก็บรักษา หากสูตรมีการกันเสียที่เหมาะสม (ยืนยันโดยการทดสอบ Microbial Challenge Test) และเก็บรักษาภายใต้สภาวะที่เหมาะสม (เช่น ในที่เย็นหรือตู้เย็น ซึ่งแนะนำสำหรับส่วนผสมหลายชนิดในสูตรนี้ เช่น Allantoin, Raffinose, Alpha Arbutin, Snow Algae, Japanese Cedar, Argireline, Pep-Coll และ Blue Vitamin E Beads) เซรั่มอาจมีอายุการเก็บรักษาได้ 1-2 ปี

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทำการทดสอบความคงตัว (Stability Testing) และการทดสอบ Microbial Challenge Test กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของคุณโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดอายุการเก็บรักษาที่แท้จริงและรับรองความปลอดภัยและคุณภาพเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่มีการทดสอบเหล่านี้ การประมาณการใดๆ จะเป็นเพียงค่าโดยประมาณเท่านั้น

การแก้ไขปัญหาการละลายของ Glabridin การยืนยันการกันเสียที่เพียงพอ การปรับ pH และการปฏิบัติตามขั้นตอนการผสมที่ถูกต้อง จะช่วยปรับปรุงความคงตัวและประสิทธิภาพของเซรั่มลดริ้วรอยของคุณได้