การพิจารณาสูตรเซรั่ม

คุณได้เสนอสูตรเซรั่มที่มีส่วนผสมที่ละลายในน้ำหลายชนิด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้เซรั่มที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว และไม่อุดตันผิว เรามาพิจารณาความเข้ากันได้ เนื้อสัมผัส และสิ่งที่อาจจำเป็นต้องเพิ่มเติมในสูตรนี้กันค่ะ

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ส่วนผสมที่คุณระบุมาโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีในสูตรเซรั่มที่ใช้น้ำเป็นเบส:

• น้ำ (AQUA): ส่วนประกอบหลัก
• Glass Moist™: สารให้ความชุ่มชื้นที่ออกแบบมาให้ไม่มีน้ำมันและไม่อุดตันผิว
• MOIST24: สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและการซึมเข้าสู่ผิวด้วย
• Glycerin: สารให้ความชุ่มชื้นทั่วไป
• Pure-Succinic™ (กรดซัคซินิก): สารออกฤทธิ์ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยเรื่องสิว ทำงานได้ดีในช่วง pH ที่เป็นกรดอ่อนๆ ถึงกลางๆ (3.5-6.5)
• Copper Peptide (GHK-Cu): เปปไทด์ออกฤทธิ์ ต้องการช่วง pH ที่เฉพาะเจาะจง (4.5-7.4) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ คำอธิบายเตือนว่าไม่ควรใช้ร่วมกับ Disodium EDTA
• Xanthan Gum: สารเพิ่มความหนืดสำหรับสร้างเนื้อเจล
• Ethoxydiglycol: สารทำละลายและสารนำพา ช่วยละลายส่วนผสมและเพิ่มการนำพาสารเข้าสู่ผิว ปริมาณ 1.5% ที่คุณเสนออยู่ในเกณฑ์การใช้งานทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on
• Tranexamic Acid: สารออกฤทธิ์เพื่อผิวกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ ละลายในน้ำและทำงานได้ดีในช่วง pH 3-8

โดยรวมแล้ว ส่วนผสมเหล่านี้สามารถนำมาผสมกันได้ ข้อควรพิจารณาหลักคือค่า pH สุดท้าย ซึ่งต้องเหมาะสมกับความเสถียรและประสิทธิภาพของ Copper Peptide (4.5-7.4), Pure-Succinic (3.5-6.5) และ Tranexamic Acid (3-8) ค่า pH เป้าหมายระหว่าง 4.5 ถึง 6.5 น่าจะเหมาะสมกับสารออกฤทธิ์ทั้งหมดและอ่อนโยนต่อผิว

เนื้อสัมผัส (ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว)

เป้าหมายของคุณคือเซรั่มที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและซึมเร็ว:

• คุณมีปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นรวมค่อนข้างสูง (Glycerin 10%, MOIST24 10%, Glass Moist 20% = 40%) แม้ว่า MOIST24 และ Glass Moist จะมีคุณสมบัติช่วยให้เนื้อสัมผัสดี แต่ Glycerin 10% มักจะทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ
• Xanthan Gum ที่ 0.75% จะสร้างเนื้อเจลที่ค่อนข้างชัดเจน ชนิดที่เกลี่ยง่ายจะช่วยได้ แต่ความหนืดโดยรวมอาจยังรู้สึกหนักเล็กน้อยหรือเหนียว/ยืดเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับเกรดเฉพาะและปฏิกิริยากับปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นที่สูง
• Ethoxydiglycol สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความเร็วในการซึมได้

เพื่อให้ได้เซรั่มที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและซึมเร็วอย่างแท้จริง คุณอาจพิจารณา:

• ลดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นโดยรวมลงเล็กน้อย หรือแทนที่ Glycerin บางส่วนด้วยสารให้ความชุ่มชื้นที่ให้ความรู้สึกเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ
• ทดลองใช้ Xanthan Gum ในปริมาณที่น้อยลงเล็กน้อย หรือลองใช้สารปรับความหนืดชนิดอื่นที่ให้เนื้อเจลที่เบาและแตกตัวง่ายกว่า

ไม่อุดตันผิว

ส่วนผสมที่ระบุมา โดยเฉพาะ Glass Moist ที่ไม่มีน้ำมัน โดยทั่วไปไม่เป็นที่ทราบกันว่าก่อให้เกิดการอุดตันสูงในรูปแบบเซรั่มที่ใช้น้ำเป็นเบส สูตรนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดการอุดตันสำหรับผิวส่วนใหญ่

สิ่งที่ต้องเพิ่มเติม?

ตามหลักการทำเครื่องสำอางทั่วไปและคำอธิบายส่วนผสม คุณจำเป็นต้องเพิ่มสิ่งเหล่านี้อย่างยิ่ง:

• สารกันเสีย (Preservative System): สูตรของคุณเป็นเบสน้ำและมีส่วนผสมที่สามารถสนับสนุนการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ (เช่น Xanthan Gum) แม้ว่า Glass Moist จะมี Phenoxyethanol และ Pure-Succinic จะมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอยู่บ้าง แต่น่าจะไม่เพียงพอที่จะรักษาสูตรทั้งหมดในระยะยาว คุณต้องมีระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่มีประสิทธิภาพในช่วง pH เป้าหมายสุดท้ายของคุณ
• สารปรับค่า pH (pH Adjuster): คุณจะต้องมีส่วนผสม (เช่น Citric Acid หรือ Sodium Hydroxide Solution) เพื่อวัดและปรับค่า pH สุดท้ายของเซรั่มให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (เช่น 4.5-6.5) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุดของสารออกฤทธิ์ และเพื่อความเข้ากันได้กับผิว

นอกจากนี้ อาจพิจารณา:

• สารต้านอนุมูลอิสระ/สารเพิ่มความเสถียร: คำอธิบายสำหรับ Tranexamic Acid แนะนำให้เติม ActiveProtec™ OX 0.5% เพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีเมื่อเวลาผ่านไป นี่อาจเป็นส่วนเพิ่มเติมที่มีประโยชน์สำหรับความเสถียรของสูตร

วิธีผสม (คำแนะนำทั่วไป)

1. ในส่วนของน้ำ ให้กระจาย Xanthan Gum และคน/ผสมจนพองตัวเต็มที่และเกิดเนื้อเจล
2. เติม Glycerin, MOIST24, Ethoxydiglycol, Pure-Succinic และ Tranexamic Acid ลงในส่วนของน้ำ/เจล และผสมจนละลาย/กระจายตัว
3. เตรียมระบบสารกันเสียแยกต่างหากหากจำเป็น และเติมลงในส่วนผสมหลัก
4. เติมสารละลาย Copper Peptide และ Glass Moist ควรเติมทั้งสองอย่างในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
5. ผสมให้เข้ากันดี
6. วัดค่า pH และปรับให้อยู่ในช่วงเป้าหมายของคุณ (เช่น 4.5-6.5) โดยใช้สารปรับค่า pH
7. ผสมอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ควรทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ เพื่อประเมินเนื้อสัมผัส ความรู้สึก ความใส ความเสถียร และค่า pH ก่อนที่จะทำในปริมาณมาก