การยืดอายุของน้ำมันธรรมชาติด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Meadowfoam Seed Oil, ROE, Protec UV/OX)

สวัสดีค่ะ

เกี่ยวกับคำแนะนำเรื่องการยืดอายุน้ำมัน:

1. ความแตกต่างระหว่าง Meadowfoam Seed Oil และ ROE ในการช่วยยืดอายุน้ำมัน:

   • Meadowfoam Seed Oil มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีสำหรับน้ำมันชนิดอื่นๆ ได้เช่นกัน แต่ต้องใช้ในปริมาณที่สูงพอสมควร (อย่างน้อย 10-20% ของสูตร) จึงจะคาดหวังผลในการชะลอการหืนของน้ำมันอื่นๆ ได้
   • ROE (Rosemary Oleoresin Extract) ทำงานคล้ายกัน แต่เนื่องจากเป็นสารสกัดที่มีความเข้มข้นสูงมาก จึงใช้ในปริมาณที่ต่ำมาก (ประมาณ 0.05%) ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งสูตรมากกว่า

2. อัตราส่วนและการใช้งาน Meadowfoam Seed Oil:

   • ตามที่กล่าวไป อัตราส่วนที่แนะนำสำหรับการใช้ Meadowfoam Seed Oil เพื่อช่วยยืดอายุน้ำมันอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพคือค่อนข้างสูง ประมาณ 10-20% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมด
   • การใช้งานสารต้านอนุมูลอิสระชนิดใดๆ รวมถึง Meadowfoam Seed Oil ให้ได้ผลดีที่สุด คือการเติมทันทีเมื่อเริ่มใช้น้ำมันที่ต้องการป้องกันการหืน เนื่องจากหากเกิดอนุมูลอิสระขึ้นแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อเนื่อง ซึ่งแม้สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยลดอัตราการเกิดได้ แต่ก็จะได้ผลน้อยกว่าการเติมตั้งแต่แรกก่อนที่จะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นในปริมาณมาก

3. ระยะเวลาที่สามารถยืดอายุได้:

   • ไม่สามารถคำนวณระยะเวลาที่แน่นอนที่ Meadowfoam Seed Oil หรือ ROE จะสามารถยืดอายุน้ำมันได้ เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่มีผลต่ออัตราการเกิดอนุมูลอิสระและการหืน เช่น อุณหภูมิ และแสง UV

4. เกี่ยวกับ Protec UV:

   • ใช่ค่ะ Protec UV ซึ่งเป็นสารที่ละลายในน้ำมัน สามารถนำไปผสมในน้ำมันธรรมชาติได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง หรือเพิ่มอุณหภูมิใดๆ เพียงแต่ต้องคนให้เข้ากันดีเพื่อให้สารละลายกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในน้ำมัน คล้ายกับการผสม ROE, Meadowfoam Seed Oil หรือ Vitamin E ในน้ำมันธรรมชาติอื่นๆ
   • ทางทีมงานยังได้แนะนำว่า Protec™ OX และ Protec™ UV โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสำหรับน้ำมันธรรมชาติได้ดีกว่าทั้ง Meadowfoam Seed Oil และ ROE โดยเฉพาะ Protec UV หากบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์มีความใสและแสง UV สามารถส่องถึงสูตรได้ง่าย

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ