การยืดอายุ Infused Oil สำหรับทำ Face Oil

ถามโดย: wariyanan_h เมื่อ: March 08, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการจะทำ infused oil เพื่อนำน้ำมันสกัดจากพืชที่ได้มาทำ face oil ค่ะ แต่ว่าจากการค้นข้อมูล น้ำมันจากธรรมชาติเช่น น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก จะมีอายุการใช้งานไม่นานหากไม่ได้ใส่สารกันเสีย หรือหากเก็บไม่ดี ก็จะเหม็นหืนและเสียไป จึงอยากทราบว่า

1. หากใส่ Vitamin E oil ลงไปในน้ำมัน จะช่วยยืดอายุและคุณภาพของน้ำมันได้นานแค่ไหนคะ
2. หากอยากใส่สารกันเสีย ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ควรใส่ตัวไหนลงไปในน้ำมันคะ และวิธีใช้ใช้อย่างไรบ้างคะ อัตราส่วนเท่าไหร่คะ
3. Vitamin E oil เป็นน้ำมันที่เหมือนใช้เป็น preservative ไหมคะ

คำตอบ

การยืดอายุการใช้งานของ Infused Oil

น้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันมะกอก สามารถเหม็นหืนได้เมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพ มักใช้สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ไม่ใช่สารกันเสีย (Preservatives) ซึ่งป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (ซึ่งไม่ใช่ปัญหาในน้ำมันบริสุทธิ์)

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณ:

  1. การใช้ Vitamin E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ: Vitamin E (เช่น Tocopheryl Acetate หรือ dl-alpha tocopherol) ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องน้ำมันจากการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งจะช่วยป้องกันการเหม็นหืน แม้ว่าจะช่วยยืดอายุและคุณภาพของน้ำมันได้ แต่ระยะเวลาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของน้ำมัน สภาพการเก็บรักษา และความเข้มข้นของ Vitamin E ที่ใช้ ไม่ได้ทำให้อายุการใช้งานยาวนานอย่างไม่มีกำหนด แต่ช่วยชะลอกระบวนการออกซิเดชันได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการไม่ใช้สารต้านอนุมูลอิสระเลย

  2. สารต้านอนุมูลอิสระที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย: สำหรับการป้องกันการเหม็นหืนในน้ำมัน จำเป็นต้องใช้สารต้านอนุมูลอิสระ มีหลายทางเลือกดังนี้:

    • Vitamin E (Tocopheryl Acetate หรือ dl-alpha tocopherol): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไปสำหรับน้ำมัน Tocopheryl Acetate มีความเสถียรมากกว่า ในขณะที่ dl-alpha tocopherol โดยทั่วไปถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากกว่า อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Tocopheryl Acetate เพื่อเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับน้ำมันอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 0.01% สำหรับ dl-alpha tocopherol อัตราการใช้อาจแตกต่างกันไป แต่มักใช้ในความเข้มข้นต่ำเพื่อผลในการต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันเอง
    • Dimethylmethoxy Chromanol (1%, Oil Based): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพสูง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า Vitamin E ในการป้องกันการเกิดออกซิเดชันในน้ำมันธรรมชาติ เป็นชนิดที่ละลายในน้ำมันและสามารถใช้ในอัตรา 0.1% เป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มความเสถียรให้กับ infused oil ของคุณ
    • Protec™ OX: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสังเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีศักยภาพมากกว่า Vitamin E เป็นผงที่ต้องละลายในน้ำมันด้วยความร้อน (70-80°C) อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 0.01% ถึง 0.5%

    สำหรับผิวแพ้ง่าย อาจเลือกใช้สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ เช่น Vitamin E Dimethylmethoxy Chromanol ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในความเข้มข้นต่ำ

  3. Vitamin E เป็นสารกันเสียหรือไม่? ไม่ใช่ Vitamin E ไม่ใช่สารกันเสียแบบดั้งเดิม สารกันเสียใช้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งต้องการน้ำในการเจริญเติบโต น้ำมันบริสุทธิ์ไม่มีน้ำ ดังนั้นปัญหาการเน่าเสียจากจุลินทรีย์จึงไม่ใช่ปัญหา Vitamin E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และบทบาทของมันในสูตรน้ำมันคือการป้องกันการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งนำไปสู่การเหม็นหืนและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นจึงช่วยรักษาคุณภาพและยืดอายุการใช้งานโดยการป้องกันการเกิดออกซิเดชัน แต่ไม่ได้ป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์หากมีน้ำเข้าสู่ผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Dimethylmethoxy Chromanol (1%, Oil Based)
Dimethylmethoxy Chromanol (1%, Oil Based)
เครื่องสำอาง