การสร้างครีม Tester สูตรพิเศษสำหรับปัญหาผิวผสม

ถามโดย: wan.maraya เมื่อ: November 20, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

สภาพผิวหน้าของฉันคือ ผิวผสมมันทีโซนแต่ขาดน้ำ (จากการตรวจสภาพผิว) มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ กร้าน และมีริ้วรอย

ฉันต้องการสั่งครีม tester จากเว็บไซต์ โดยใช้ Pure Aloe เป็นเบส และใส่ส่วนผสมดังนี้:

  1. vitamin B3 5%
  2. Glucosamine (N-acetyl-D) 4%
  3. Sea kelp Bioferment 10%
  4. Matrixyl 3000 5%
  5. Pepha-Tight 3%

ฉันมีคำถามดังนี้ค่ะ:

  • สามารถใส่ส่วนผสมทั้งหมดตามความเข้มข้นที่ระบุได้ไหมคะ? เพราะรวมแล้ว 27% ซึ่งเกินจากที่ในเว็บไซต์แจ้งไว้
  • สามารถใช้ครีมนี้ได้ทั้งกลางวัน (ทาครีมกันแดด) และกลางคืนได้เลยไหมคะ?
  • ขอคำแนะนำเพิ่มเติมว่าควรตัดอะไรออก และเพิ่มอะไรเข้าไปได้อีกบ้างคะ?

ขอบคุณมากค่ะ

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการสร้างครีมสูตรพิเศษ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการสร้างครีม Tester สูตรพิเศษโดยใช้ Pure Aloe เป็นเบส และเพิ่มส่วนผสมตามที่คุณระบุ:

  1. สามารถใส่ส่วนผสมทั้งหมดตามความเข้มข้นที่ระบุได้หรือไม่ (รวม 27%)?
    การเพิ่มส่วนผสม Active Ingredients รวมกันถึง 27% ในเบสอย่าง Pure Aloe อาจเกินขีดจำกัดความเข้มข้นสูงสุดสำหรับการทำครีม Tester สูตรพิเศษบนเว็บไซต์ แม้ว่าความเข้มข้นที่คุณเลือกสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด (Vitamin B3 5%, Glucosamine 4%, Sea Kelp Bioferment 10%, Matrixyl 3000 5%, Pepha-Tight 3%) จะอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการใช้ส่วนผสมแต่ละตัว แต่เมื่อรวมกันแล้วถือว่ามีความเข้มข้นสูงมาก สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของเว็บไซต์สำหรับการทำ Tester เพื่อให้มั่นใจในความคงตัวและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

  2. สามารถใช้ครีมนี้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนหรือไม่?
    ได้ค่ะ ส่วนผสมที่คุณเลือกมาโดยทั่วไปสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน Vitamin B3, Glucosamine, Sea Kelp, Matrixyl 3000 และ Pepha-Tight โดยทั่วไปไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในตอนเช้าเสมอเมื่อใช้ครีมนี้ในเวลากลางวัน

  3. ขอคำแนะนำเพิ่มเติมว่าควรตัดอะไรออกและเพิ่มอะไรเข้าไป?
    สภาพผิวของคุณคือผิวผสมมันทีโซนแต่ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ กร้าน และมีริ้วรอย ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นเหมาะสมดีในการดูแลปัญหาเหล่านี้:

    • Vitamin B3 (Niacinamide): ดีเยี่ยมในการลดความมัน ลดขนาดรูขุมขน ปรับปรุงความหมองคล้ำ และลดริ้วรอย ความเข้มข้น 5% เป็นระดับที่ให้ผลดี
    • Glucosamine (N-acetyl-D): ทำงานเสริมฤทธิ์กับ Vitamin B3 ในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ปรับปรุงความชุ่มชื้นและสภาพผิว ความเข้มข้น 4% เหมาะสมดี
    • Sea Kelp Bioferment: ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว ซึ่งดีสำหรับผิวที่ขาดน้ำ ความเข้มข้น 10% ที่คุณระบุมานั้นค่อนข้างสูง (โดยทั่วไปแนะนำ 1-3% สำหรับผิว) และอาจทำให้มีกลิ่นชัดเจนหรือส่งผลต่อเนื้อสัมผัส การใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำลงก็ยังคงให้ประโยชน์ด้านความชุ่มชื้นได้
    • Matrixyl 3000 และ Pepha-Tight: ทั้งคู่เป็นเปปไทด์ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับขึ้น การใช้ทั้งสองตัวร่วมกันสามารถให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยได้อย่างครอบคลุม

    เพื่อให้เป็นไปตามข้อจำกัดทั่วไปของการทำสูตรพิเศษและเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สมดุล ลองพิจารณาปรับลดความเข้มข้นลง สูตรที่ปรับปรุงแล้วซึ่งยังคงดูแลปัญหาผิวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจเป็นดังนี้:

    • Vitamin B3: 5%
    • Glucosamine (N-acetyl-D): 4%
    • Sea Kelp Bioferment: 3%
    • Matrixyl 3000: 3%
    • Pepha-Tight: 3%

    สูตรนี้จะรวม Active Ingredients ทั้งหมดเป็น 18% ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเข้ากันได้กับเบสมาตรฐานและอยู่ในขีดจำกัดของการทำสูตรพิเศษได้มากกว่า ขณะเดียวกันก็ยังคงให้ประโยชน์ที่สำคัญสำหรับปัญหาผิวขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ความหมองคล้ำ และริ้วรอย หากปัญหาผิวขาดน้ำเป็นหลัก คุณอาจพิจารณาเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่าง Sodium Hyaluronate ในความเข้มข้นต่ำๆ (เช่น 0.1-0.5%) ได้ หากความเข้มข้นรวมยังอยู่ในขีดจำกัด

อย่าลืมตรวจสอบเปอร์เซ็นต์รวมสูงสุดของ Active Ingredients ที่อนุญาตสำหรับการทำครีม Tester สูตรพิเศษบนเว็บไซต์อีกครั้งก่อนยืนยันการสั่งซื้อนะคะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Pep®-Leupha (Pentapeptide-18)
Pep®-Leupha (Pentapeptide-18)
เครื่องสำอาง