การเตรียมโทนเนอร์ด้วย Urea และ Salicylic Acid

ใช่ สามารถเตรียมสูตรโทนเนอร์ในรูปแบบของเหลวที่มี Urea 8-10% และ Salicylic Acid 2% ได้ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวใสที่เหมาะกับการตบเบาๆ บนผิวเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ Hada Labo สิ่งสำคัญคือต้องใช้ Salicylic Acid ชนิดที่ละลายน้ำได้

สำหรับส่วนประกอบของ Salicylic Acid สามารถใช้ชนิดที่ละลายน้ำได้ เช่น ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble) ซึ่งสามารถละลายในน้ำได้โดยตรง และถูกออกแบบมาให้มีการปลดปล่อย Salicylic Acid บริสุทธิ์ 2% เมื่อใช้ในอัตรา 5% ซึ่งตรงกับความเข้มข้นที่ต้องการและข้อกำหนดของ อย. สำหรับผลิตภัณฑ์ทาแล้วไม่ต้องล้างออก

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder) สามารถใช้ในความเข้มข้น 8-10% ตามที่ระบุ ซึ่งให้ประโยชน์ทั้งในการให้ความชุ่มชื้นและช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน

ข้อจำกัดและการทำให้ Urea เสถียร

นอกเหนือจากความจำเป็นในการทำให้เสถียรโดยทั่วไปแล้ว Urea ยังมีข้อจำกัดเฉพาะ:

• ความไวต่อความร้อน: Urea มีความไวต่อความร้อนและสามารถสลายตัวได้เร็วขึ้นในอุณหภูมิที่สูงกว่า 35°C อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ Urea ไม่เสถียรมากขึ้น
• ความไม่เสถียรของค่า pH: เมื่อละลายในน้ำ Urea สามารถทำให้ค่า pH ของสูตรมีความเป็นด่างมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่ควบคุม ค่า pH อาจสูงขึ้นอย่างมาก

เพื่อให้ Urea เสถียรและคงค่า pH ที่เหมาะสม (โดยทั่วไปควรอยู่ในช่วง 4-5.5 ซึ่งเป็นช่วงที่ Salicylic Acid ทำงานได้ดี) จำเป็นต้องมีเทคนิคการทำให้เสถียรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการอายุการเก็บรักษานานหรือต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูงกว่า 30°C วิธีการรวมถึงการใช้:

• Gluconolactone: ในปริมาณประมาณ 15% ของความเข้มข้นของ Urea (เช่น Gluconolactone 1.5% สำหรับ Urea 10%)
• Triacetin: ในอัตราส่วนประมาณ 1 ส่วน Triacetin ต่อ 10 ส่วน Urea

การควบคุมค่า pH ด้วยส่วนประกอบเหล่านี้หรือส่วนประกอบที่เป็นกรดอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ค่า pH สูงขึ้นและทำให้ Urea มีความเสถียรในระยะยาว