การเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับสบู่ก้อน (สบู่น้ำมันและสบู่กลีเซอรีน)

ยินดีต้อนรับสู่โลกของการทำสบู่นะคะ! เป็นเรื่องจริงค่ะที่การเติมสารออกฤทธิ์ (active ingredients) ลงในสบู่ก้อน โดยเฉพาะสบู่น้ำมัน อาจจะมีความซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับสบู่เหลวหรือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรูปแบบอื่น ส่วนใหญ่เป็นเพราะค่า pH ที่สูงและความร้อนที่เกิดขึ้นในกระบวนการสะพอนนิฟิเคชั่น (saponification) ของสบู่น้ำมัน ซึ่งอาจทำให้สารที่ไวต่อสภาพแวดล้อมเสื่อมสภาพได้ ส่วนสบู่กลีเซอรีนแบบหลอมเทจะง่ายกว่าเล็กน้อยเนื่องจากเป็นการเติมสารลงในเบสสำเร็จรูป แต่เบสก็ยังมีสภาพเป็นด่างอยู่ค่ะ

นี่คือประเภทของส่วนผสมและความเหมาะสมในการใช้กับสบู่ก้อน ตามคุณสมบัติที่คุณต้องการค่ะ:

สำหรับการขัดผิว

สารขัดผิวแบบกายภาพ (Physical exfoliants) มักจะเหมาะกับการเติมลงในสบู่ก้อนได้ดี เนื่องจากเป็นอนุภาคที่ไม่ละลายน้ำและจะกระจายตัวอยู่ในเนื้อสบู่

• Magnetite Scrub / Exfoliator: เป็นผงแร่ละเอียดที่ช่วยในการขัดผิว สามารถเติมลงในสบู่น้ำมัน (กระบวนการเย็น/ร้อน) และสบู่กลีเซอรีนได้
• CelluScrub™ Max: ทำจากเซลลูโลสธรรมชาติ เป็นอนุภาคที่ช่วยขัดผิว สามารถนำมาผสมในสบู่ก้อนได้เช่นกัน

สำหรับสิว

การเติมสารออกฤทธิ์รักษาสิวโดยเฉพาะลงในสบู่ก้อนแบบดั้งเดิมอาจเป็นเรื่องท้าทายเนื่องจากค่า pH ที่สูง สารออกฤทธิ์รักษาสิวที่มีประสิทธิภาพหลายชนิดจะมีความเสถียรที่ดีกว่าในค่า pH ที่ต่ำกว่า ซึ่งพบในคลีนเซอร์แบบน้ำหรือผลิตภัณฑ์แต้มสิว/ทาทิ้งไว้

• Pep®-Acne (Oligopeptide-10 Anti-microbial Peptide): เป็นเปปไทด์ที่ละลายน้ำได้และไวต่อความร้อน แม้ว่าจะสามารถลองเติมลงในสบู่กลีเซอรีนแบบหลอมเทที่อุณหภูมิต่ำได้ แต่ความเสถียรและประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างของสบู่อาจไม่แน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป มักนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมค่า pH
• QD-365 Anti-Acne Complex: เป็นสารประกอบที่ช่วยลดสิว ละลายน้ำได้และไวต่อความร้อน คล้ายกับ Pep®-Acne คือเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมค่า pH มากกว่า
• African Black Soap (Ghana): นี่คือเบสสบู่แบบดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงในด้านการทำความสะอาดล้ำลึกและช่วยเรื่องสิว แม้จะไม่ใช่สารเติมแต่ง แต่การใช้เบสนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งหากคุณต้องการสบู่สำหรับสิวโดยเฉพาะ

สำหรับริ้วรอย ฝ้า กระ และผิวขาว

ส่วนผสมหลายชนิดที่เน้นคุณสมบัติเหล่านี้ก็มักจะไวต่อค่า pH และความร้อนเช่นกัน

• SclareoWhite™ (Sclareolide, Pure): สารนี้มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวขาวขึ้นและละลายได้ในน้ำมัน/ไกลคอล/แอลกอฮอล์ อาจเป็นไปได้ที่จะผสมลงในสบู่น้ำมันหรือสบู่กลีเซอรีน แต่ต้องพิจารณาและทดสอบอย่างรอบคอบเรื่องความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่าง
• GlyciWhite™ (Glycinamide HCL): สารให้ความขาวนี้ละลายน้ำได้และไวต่อความร้อนสูงกว่า 60°C มักใช้ในโลชั่นหรือครีมที่มีการควบคุมค่า pH ทำให้ผสมลงในสบู่ก้อนได้ยากเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความเสถียรที่ดี

ข้อควรพิจารณาทั่วไปในการเติมสารออกฤทธิ์ลงในสบู่ก้อน:

• สบู่น้ำมัน (Cold Process): ค่า pH ที่สูงและความร้อนทำให้การเติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อสภาพแวดล้อมหลายชนิดทำได้ยากโดยที่สารไม่เสื่อมสภาพ สารเติมแต่งจากธรรมชาติ เช่น ผงสมุนไพร ดินเหนียว หรือสารขัดผิว มักจะมีความเสถียรมากกว่า
• สบู่กลีเซอรีน (Melt-and-Pour): วิธีนี้ง่ายกว่าเพราะเป็นการหลอมเบสสำเร็จรูปแล้วเติมส่วนผสม อย่างไรก็ตาม เบสก็ยังคงมีสภาพเป็นด่างอยู่ (แม้จะน้อยกว่าสบู่น้ำมันที่ทำเสร็จใหม่ๆ) ควรเติมสารที่ไวต่อสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนเทลงพิมพ์ และพึงระลึกว่าประสิทธิภาพและความเสถียรอาจลดลงเมื่อเทียบกับการใช้ในผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น

สำหรับสารออกฤทธิ์จำนวนมากที่เน้นแก้ปัญหาสิว ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ คุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหากใช้ในผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้ (เซรั่ม, ครีม) หรือผลิตภัณฑ์แบบล้างออกที่มีค่า pH ที่เป็นมิตรต่อผิวมากกว่า (เช่น สบู่อาบน้ำแบบไม่มีสบู่จริง หรือคลีนเซอร์แบบน้ำ) แทนที่จะเป็นสบู่ก้อนแบบดั้งเดิม

หากคุณทำสบู่เพื่อใช้เองและเพื่อขาย แนะนำให้ทำการทดสอบอย่างละเอียดทั้งในด้านความเสถียร ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย (รวมถึงการวัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป) เมื่อมีการเติมส่วนผสมใหม่ๆ ค่ะ