การเติมเปปไทด์และสารหมักลงใน Physiogel - ปัญหาผิวแห้งและการวัดปริมาณ

การใช้ Physiogel Hypoallergenic เป็นเบส และเติมส่วนผสมแอคทีฟ เช่น Matrixyl 3000 และ Argireline จำเป็นต้องมีการวัดปริมาณที่แม่นยำเพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่ถูกต้อง การที่ผิวแห้งหลังจากเติมเปปไทด์เหล่านี้ อาจบ่งชี้ว่าปริมาณที่เติมเข้าไปอาจสูงเกินไปสำหรับผิวของคุณ หรืออาจเกิดจากการผสมที่ไม่แม่นยำเนื่องจากไม่มีเครื่องชั่งละเอียด

Matrixyl 3000 (Pal-GHK, Pal-GQPR) โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในอัตรา 3-5% ในขณะที่ Argireline (Acetyl Hexapeptide-8) แนะนำที่ 3-10% การเติมส่วนผสมแอคทีฟในปริมาณที่สูงเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้

คุณสอบถามว่าจะสามารถเติม Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) เพิ่มได้หรือไม่ ส่วนผสมนี้โดยทั่วไปเข้ากันได้กับเปปไทด์ และมีคุณสมบัติช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและช่วยฟื้นฟูผิว อย่างไรก็ตาม การเติมส่วนผสมแอคทีฟอื่นเข้าไปในส่วนผสมเดิมที่กำลังทำให้ผิวแห้งอยู่ อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา และอาจทำให้อาการแย่ลง หรือสิ้นเปลืองส่วนผสมโดยไม่จำเป็น

การเติมส่วนผสมแอคทีฟจำเป็นต้องมีการวัดปริมาณที่แม่นยำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้ในความเข้มข้นที่แนะนำ ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัย หากไม่มีการวัดที่แม่นยำ จะควบคุมสูตรได้ยากและคาดเดาผลลัพธ์ต่อผิวได้ยาก

เพื่อแก้ไขปัญหาผิวแห้งและดำเนินการต่อไปอย่างปลอดภัย ขอแนะนำให้:

• ให้ข้อมูลตามที่เจ้าหน้าที่สอบถาม เกี่ยวกับประสบการณ์การใช้ Physiogel เพียงอย่างเดียว และวิธีการประเมินปริมาณ Matrixyl 3000 และ Argireline ที่คุณใช้
• จัดหาเครื่องชั่งละเอียดที่สามารถวัดปริมาณน้อยๆ ได้อย่างแม่นยำ (ความละเอียดอย่างน้อย 0.01 กรัม)
• เมื่อมีเครื่องชั่งแล้ว คุณสามารถลองผสมใหม่โดยวัดปริมาณให้แม่นยำ โดยเริ่มต้นจากเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำสุดของช่วงที่แนะนำสำหรับ Matrixyl 3000 และ Argireline (เช่น 3% สำหรับแต่ละตัว) เพื่อดูว่าผิวของคุณตอบสนองอย่างไร

หลังจากแก้ไขปัญหาผิวแห้งและมั่นใจว่าสามารถวัดปริมาณได้อย่างแม่นยำแล้ว คุณจึงค่อยพิจารณาเติม Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) ในอัตราที่แนะนำ (โดยทั่วไป 5-100% ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ)

การเติมส่วนผสมแอคทีฟหลายชนิดร่วมกันสามารถมีประโยชน์ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยควบคุมความเข้มข้นผ่านการวัดปริมาณที่แม่นยำ