การเปลี่ยน Matrixyl 3000 เป็น Pepha-Tight ในเซรั่มสำหรับแก้มหย่อนคล้อย
คำถาม
อยากจะเปลี่ยนตัวที่ช่วยยกกระชับช่วงแก้มจากเดิม
- Anti-Aging: Matrixyl™ 3000 (เปปไทด์ แมทริซิล) 8%
เป็นตัว Pepha®-Tight จะได้ไหมค่ะ จากที่อ่านรายละเอียดดู ตัวPepha®-Tightน่าจะช่วยเรื่องยกกะชับ(แก้ม)ได้ดีกว่าไหมค่ะ อายุ27ค่ะ แก้มหย่อนคล้อยแต่ยังไม่มีริ้วรอยค่ะ
คำตอบ
จากข้อมูลที่คุณสอบถามและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ Matrixyl 3000 และ Pepha-Tight มีการทำงานที่แตกต่างกันค่ะ
- Matrixyl 3000 เป็นเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นชัดเจนเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง (อย่างน้อย 8 สัปดาห์) และเป็นผลลัพธ์ที่คงอยู่ถาวรหากใช้ต่อเนื่อง
- Pepha-Tight เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ให้ผลในการยกกระชับผิวชั่วคราว ทำงานเหมือนฟิล์มเคลือบผิวที่ช่วยให้รู้สึกตึงกระชับทันทีที่ทา แต่ผลลัพธ์จะหมดไปเมื่อล้างออก ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากภายใน
สำหรับปัญหาแก้มที่เริ่มหย่อนคล้อยในวัย 27 ปี และยังไม่มีริ้วรอย การใช้ Matrixyl 3000 จะตอบโจทย์ในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิวในระยะยาว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการหย่อนคล้อย
การเปลี่ยนจาก Matrixyl 3000 เป็น Pepha-Tight จะทำให้เซรั่มของคุณเน้นไปที่ผลลัพธ์การยกกระชับแบบชั่วคราวทันทีที่ใช้ แทนที่จะเป็นการบำรุงเพื่อโครงสร้างผิวที่แข็งแรงขึ้นในระยะยาว
ดังนั้น การเลือกระหว่างสองตัวนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการผลลัพธ์แบบไหนค่ะ หากต้องการเน้นการบำรุงเพื่อผิวที่แข็งแรงและกระชับขึ้นในระยะยาว Matrixyl 3000 จะเหมาะสมกว่าค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
