การเพิ่มความติดทนของน้ำหอม
คำถาม
ต้องการทำน้ำหอมฉีดตัวเบสแอลกอฮอล์ที่ใช้หัวน้ำหอมกลิ่นดอกไม้และสารตรึงกลิ่น Musk ให้กลิ่นติดทนนานถึง 3 วัน แบบน้ำหอมอียิปต์ ควรเพิ่มส่วนผสมอะไรอีกบ้างและใช้สัดส่วนการผสมอย่างไร?
คำตอบ
การเพิ่มความติดทนของน้ำหอมเบสแอลกอฮอล์
การทำให้น้ำหอมเบสแอลกอฮอล์ติดทนนานถึง 3 วันนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากธรรมชาติของแอลกอฮอล์ที่ระเหยได้ง่ายกว่าเบสน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เราสามารถเพิ่มความติดทนได้โดยการปรับส่วนผสมและสัดส่วนค่ะ นอกเหนือจากหัวน้ำหอม กอฮอล์สำหรับน้ำหอม และ Musk ที่ใช้อยู่ ลองพิจารณาส่วนผสมเพิ่มเติมเหล่านี้:
1. สารตรึงกลิ่น (Fixatives) และ Base Notes ที่มีน้ำหนัก
สารเหล่านี้จะช่วยชะลอการระเหยของกลิ่นโดยรวม โดยเฉพาะกลิ่น Top และ Middle Notes ที่ระเหยเร็วกว่า ทำให้กลิ่นติดทนบนผิวได้นานขึ้น
- กลุ่มยางไม้/เรซินอยด์ (Resins/Resinoids): มีคุณสมบัติเป็นสารตรึงกลิ่นที่ดีเยี่ยม และให้กลิ่นโทนอบอุ่น ลึก เช่น Styrax Resinoid และ Labdanum Absolute
- กลุ่มกลิ่นไม้/มอส (Woody/Mossy): ให้ความรู้สึกหนักแน่นและช่วยยึดกลิ่น เช่น Vetimoss
- กลุ่มกลิ่นดอกไม้ที่มีน้ำหนัก (Heavy Florals): แม้จะเป็นกลิ่นดอกไม้ แต่บางชนิดมี Base Notes ที่หนักและติดทน เช่น Tuberose Absolute
- กลุ่มกลิ่นมัสก์อื่นๆ (Other Musks): นอกจาก Musk ทั่วไป ยังมีมัสก์สังเคราะห์อีกหลายชนิดที่ให้ความติดทนและมีลักษณะกลิ่นแตกต่างกันไป เช่น Traseolide
- กลุ่มไอออนโอน (Ionones): ให้กลิ่นโทนดอกไวโอเล็ตและไม้ มักใช้เป็น Middle to Base Note ที่ช่วยเชื่อมและให้ความติดทน เช่น Alpha-ionone
2. สารช่วยเพิ่มความติดทนอื่นๆ
- Sucrose acetate isobutyrate: เป็นสารที่ช่วยเพิ่มความหนืดและสามารถช่วยชะลอการระเหยของกลิ่นได้
สัดส่วนการผสม (แนวทางเบื้องต้น)
การจะให้กลิ่นติดทนถึง 3 วันด้วยเบสแอลกอฮอล์นั้นอาจต้องใช้หัวน้ำหอมในความเข้มข้นสูงมาก (ระดับ Extrait de Parfum หรือสูงกว่า) และใช้สารตรึงกลิ่น/Base Notes ในสัดส่วนที่สูงภายในหัวน้ำหอมเอง
โดยทั่วไป สัดส่วนของหัวน้ำหอมในเบสแอลกอฮอล์สำหรับน้ำหอมฉีดตัวมีดังนี้:
- Eau de Cologne: 2-4% หัวน้ำหอม
- Eau de Toilette: 5-15% หัวน้ำหอม
- Eau de Parfum: 15-20% หัวน้ำหอม
- Extrait de Parfum: 20-40% หัวน้ำหอม
เพื่อให้กลิ่นติดทนนานเป็นพิเศษ อาจจะต้องใช้หัวน้ำหอมในสัดส่วน 25-40% หรือสูงกว่านั้น
ภายในส่วนของ "หัวน้ำหอม" (ซึ่งประกอบด้วย Top, Middle, Base Notes และสารตรึงกลิ่น) สัดส่วนของ Base Notes และสารตรึงกลิ่นควรมีน้ำหนักมาก อาจจะอยู่ที่ 40-60% หรือมากกว่านั้น เพื่อเป็นโครงสร้างหลักที่ยึดกลิ่นทั้งหมดไว้
ตัวอย่างแนวคิดสัดส่วน (เป็นการประมาณ ต้องทดลองปรับ):
- หัวน้ำหอมรวม: 25 - 40% (หรือมากกว่า)
- แอลกอฮอล์สำหรับน้ำหอม: ส่วนที่เหลือ (75 - 60% หรือน้อยกว่า)
ภายในส่วนของ "หัวน้ำหอม" (100%):
- Top Notes (กลิ่นแรกที่ได้กลิ่น ระเหยเร็ว): 10-20% (กลิ่นดอกไม้หอมระเหยบางส่วนอาจอยู่ในกลุ่มนี้)
- Middle Notes (กลิ่นกลาง เป็นหัวใจของน้ำหอม): 30-40% (กลิ่นดอกไม้หอมระเหยหลักๆ อาจอยู่ในกลุ่มนี้ รวมถึง Alpha-ionone, Tuberose Absolute บางส่วน)
- Base Notes & Fixatives (กลิ่นฐาน ติดทนนาน ช่วยตรึงกลิ่น): 40-60% (หรือมากกว่า)
- Musk
- Styrax Resinoid
- Labdanum Absolute
- Vetimoss
- Traseolide
- Sucrose acetate isobutyrate
- Tuberose Absolute (ส่วนที่หนัก)
- ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ให้กลิ่นลึกและติดทน
ข้อควรจำ:
- การผสมน้ำหอมเป็นศิลปะและต้องอาศัยการทดลองอย่างมาก สัดส่วนข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเริ่มต้น
- คุณภาพและความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบมีผลอย่างมากต่อความติดทน
- การบ่ม (Maceration) น้ำหอมที่ผสมเสร็จแล้วในที่มืดและเย็นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนจะช่วยให้กลิ่นเข้ากันและมีความกลมกล่อม ติดทนมากขึ้น
- แม้จะใช้สารช่วยเพิ่มความติดทนและ Base Notes จำนวนมาก การติดทนถึง 3 วันบนผิวด้วยเบสแอลกอฮอล์ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และอาจต้องพิจารณาถึงการฉีดซ้ำระหว่างวันหากต้องการความเข้มข้นต่อเนื่อง
ลองเริ่มต้นจากการเพิ่มสัดส่วนของหัวน้ำหอมโดยรวม และเพิ่มสัดส่วนของสารตรึงกลิ่นและ Base Notes ที่มีน้ำหนักภายในหัวน้ำหอมที่คุณใช้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha-ionone

Vetimoss

Styrax Resinoid

Labdanum Absolute

Tuberose Absolute

Sucrose acetate isobutyrate
