การเพิ่มความหนืดโลชั่นหลังเติมวิตามินซี

การเพิ่มความหนืดโลชั่นที่มีวิตามินซี

การเติมวิตามินซี โดยเฉพาะ L-ascorbic acid ลงในโลชั่น อาจทำให้ค่า pH ลดลงอย่างมาก สารเพิ่มความหนืดทั่วไปหลายชนิดจะไวต่อค่า pH ที่ต่ำและสูญเสียความสามารถในการเพิ่มความหนืด ทำให้โลชั่นเหลวหรือใสขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณผงที่เติมเข้าไปมากก็อาจส่งผลต่อโครงสร้างของโลชั่นได้เช่นกัน

ในการเพิ่มความหนืดให้กับโลชั่นของคุณโดยยังคงประสิทธิภาพของวิตามินซีไว้ คุณจำเป็นต้องใช้สารเพิ่มความหนืดที่คงตัวในสภาวะที่เป็นกรด

จากส่วนผสมที่คุณใช้:

• Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) จะคงตัวได้ดีที่สุดที่ pH ต่ำ โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 2.0-4.0 (สำหรับเครื่องสำอางที่ใช้กับผิวต้องมี pH 3.5 ขึ้นไป)
• Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C) จะคงตัวในช่วง pH 6.5-6.8

การใช้ทั้งสองรูปแบบของวิตามินซีนี้ร่วมกัน หมายความว่าค่า pH สุดท้ายของโลชั่นของคุณน่าจะอยู่ในช่วงที่เป็นกรดซึ่งจำเป็นสำหรับ L-ascorbic acid (pH 3.5-4.0) ซึ่งอยู่นอกช่วงความคงตัวที่เหมาะสมสำหรับ Ascorbyl Glucoside แม้ว่าคุณจะกล่าวว่าได้ผลดีมาก แต่โปรดทราบถึงความขัดแย้งของค่า pH นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความคงตัวในระยะยาวของ Ascorbyl Glucoside ได้

สำหรับการเพิ่มความหนืดให้กับโลชั่นในช่วง pH ที่เป็นกรดนี้ Xanthan Gum เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม Xanthan Gum เป็นสารเพิ่มความหนืดประเภทโพลีแซคคาไรด์ที่คงตัวในช่วง pH ที่กว้าง รวมถึงสภาวะที่เป็นกรด และนิยมใช้ในสูตรเครื่องสำอาง

มี Xanthan Gum หลายประเภทให้เลือก เช่น:

• Xanthan Gum (clear gel type, smooth texture)
• Xanthan Gum (clear gel type, normal texture, 200 Mesh)
• Xanthan Gum (clear gel type, normal texture, easy to spread)
• Xanthan Gum (clear gel type, normal texture, 80 Mesh)

คุณสามารถเติม Xanthan Gum ในปริมาณเล็กน้อย (โดยทั่วไป 0.1-1%) ลงในส่วนของน้ำ (water phase) ของสูตรโลชั่นของคุณ ควรกระจายตัวและทำให้ไฮเดรตอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดความหนืดอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีที่ดีที่สุดคือการกระจายตัวในกลีเซอรีนหรือน้ำมันเล็กน้อยก่อนเติมลงในส่วนของน้ำ เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน จากนั้นผสมให้เข้ากันจนเกิดเจลก่อนนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ในโลชั่นของคุณ

การใช้สารเพิ่มความหนืดที่คงตัวในสภาวะที่เป็นกรด เช่น Xanthan Gum ควรช่วยคืนความหนืดที่ต้องการให้กับโลชั่นของคุณได้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อวิตามินซี หากค่า pH ยังคงอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้สำหรับวิตามินซีที่คุณใช้ (โดยพิจารณาความต้องการ pH ต่ำของ L-ascorbic acid เป็นหลัก) ควรตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของสูตรของคุณเสมอ