การเพิ่มความหนืดให้กับสูตรเซรั่มวิตามินซี
คำถาม
มีสูตรสำหรับเซรั่มวิตามินซี ดังนี้:
ส่วน A
- น้ำกลั่น 43.7กรัม
- Triethanolamine (TEA) (ด่าง ที่เราจะไว้ช่วยปรับ pH ให้อยู่ในช่วงประมาณ 3.7) 2.5กรัม
- Ferulic Acid (สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ Vitamin C LAA เสถียร) 0.5กรัม
- Panthenol (Vitamin B5 ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิว) 0.5กรัม
ส่วน B
- Ethoxydiglycol (ตัวทำละลาย และช่วยนำพาสารซึมสู่ผิว) 20กรัม
- Propylene Glycol (ตัวทำละลาย และหล่อลื่น) 10กรัม
- glycerin (หล่อลื่น ชุ่มชื้น ให้เวลาใช้รู้สึกปรื้ดๆบนผิว) 3กรัม
- Laureth-23 (emulsifier หรือตัวประสานน้ำมันเข้ากับน้ำ ชนิดแข็ง ใช้งานง่าย) 3กรัม
- d-Alpha Tocopherol (Vitamin E งานนี้ช่วยทำให้ Vitamin C เสถียร แถมช่วยต้านอนุมูลอิสระผิว) 1กรัม
ส่วน C
- L-ascorbic acid (นางเอกของเราเองคะ Vitamin C) 15กรัม
ส่วน D
- Hyaluronic Acid Standard (ให้ความชุ่มชื้น) 0.3กรัม
- Hyaluronic Acid Nano (ให้ความชุ่มชื้น) 0.5กรัม
(หมายเหตุ: สาเหตุที่ Skinceuticals ใส่ Hyaluronic ก็คงเพราะ ช่วยเสริม vit c ด้านให้หน้าอิ่มน้ำ เพราะ vit c จะไม่ได้เรื่องนี้)
อยากทราบว่า ถ้าอยากให้ เนื้อในสูตรนี้ หนืดกว่านี้คล้ายๆเนื้อเจล หรือเนื้อครีม ตัวไหนพอที่จะเพิ่มเข้าไปได้หรือไหมคะ ที่ไม่ทำให้ วิตามินซี เสื่อมสภาพ ช่วยแนะนำด้วยคะ ขอบคุณคะ
คำตอบ
การเพิ่มความหนืดให้กับสูตรเซรั่มวิตามินซี
หากต้องการเพิ่มความหนืดให้กับสูตรเซรั่ม L-ascorbic acid ของคุณให้มีลักษณะคล้ายเจลหรือครีม โดยไม่ทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพ คุณสามารถเพิ่มสารเพิ่มความหนืดที่เข้ากันได้ดีกับสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดได้
จากสูตรของคุณและความต้องการสารที่เข้ากันได้กับกรด นี่คือสารเพิ่มความหนืดที่เหมาะสมบางชนิด:
- CreamMaker Acid™: ส่วนผสมนี้ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับสูตรที่มี pH ต่ำ และทำงานได้ดีในฐานะอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความหนืดในระบบที่เป็นกรด เช่น สูตรที่มี L-ascorbic acid สามารถช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสแบบครีม
- Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer: สารเพิ่มความหนืดนี้มีประสิทธิภาพในช่วง pH กว้าง (3-12) ทำให้เหมาะสำหรับสูตรที่เป็นกรดของคุณ สามารถช่วยสร้างเนื้อสัมผัสแบบเจลหรือเซรั่มได้
- Sepimax Zen: เป็นที่รู้จักในด้านความทนทานสูงต่อเกลือและระดับ pH ที่แตกต่างกัน Sepimax Zen สามารถใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับส่วนที่เป็นน้ำในสูตรของคุณและสร้างเนื้อสัมผัสแบบเจลได้
เมื่อเพิ่มสารเพิ่มความหนืดใดๆ ควรเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ (เช่น 0.1-0.5%) และค่อยๆ เพิ่มขึ้นในขณะที่สังเกตเนื้อสัมผัสและความเสถียรของสูตร การทดสอบความเสถียรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่า L-ascorbic acid ยังคงเสถียรเมื่อเวลาผ่านไปหลังจากเพิ่มสารเพิ่มความหนืดแล้ว
ปฏิบัติตามอัตราการใช้งานและคำแนะนำในการผสมที่ผู้จำหน่ายแนะนำสำหรับสารเพิ่มความหนืดที่คุณเลือกเสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Pure-Ferulic Acid™

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Propylene Glycol

Triethanolamine 99%

Laureth-23

Glycerin (USP/Food Grade)

Sepimax Zen
