การเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมในสูตรโลชั่นบางเบาเพื่อผิวกระจ่างใส
คำถาม
ถ้าจะเอาหัวเชื้อน้ำหอมมาใส่เพิ่มในสูตร จะสามารถใส่ได้มั้ยคะ ต้องการให้โลชั่นมีความบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เน้นเรื่องผิวสว่างกระจ่างใส และต้องการให้ตัวโลชั่นมีกลิ่นหอมคล้ายกับโลชั่นน้ำหอม (แต่ไม่ติดทนหรือกระจายกลิ่นเท่าโลชั่นน้ำหอมก็ได้ค่ะ)
สูตรของดิฉันประกอบด้วย:
- Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
- Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
- Flora Fix™ (กลิ่นหอมติดทนนาน)
- Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
- German Chamomile Extract (Natural Bisabolol)
- น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ
- Silky Serum Base Plus (Face/Eye, Oil)
- Xanthan Gum
ไม่มีเครื่องปั่น ควบคุมอุณหภูมิได้ยาก
คำตอบ
ใช่ค่ะ คุณสามารถเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมลงในสูตรโลชั่นของคุณได้ เพื่อให้โลชั่นมีกลิ่นหอม สูตรของคุณมีส่วนผสมที่เหมาะสมสำหรับโลชั่นเนื้อบางเบา ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และปลอบประโลมผิว และยังมี Flora Fix™ ซึ่งเป็นสารช่วยตรึงกลิ่นน้ำหอมอยู่แล้ว
นี่คือข้อควรพิจารณาในการเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมลงในสูตรของคุณ:
- ความเข้ากันได้: หัวเชื้อน้ำหอมส่วนใหญ่เข้ากันได้ดีกับเบสโลชั่น โดยเฉพาะสูตรที่มีส่วนของน้ำมันและอิมัลซิไฟเออร์ เช่น Silky Serum Base Plus ที่คุณใช้
- เนื้อสัมผัสที่ต้องการ (บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ): หัวเชื้อน้ำหอมเป็นสารที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน การใส่ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้โลชั่นรู้สึกหนักขึ้นหรือเหนียวเหนอะหนะได้ เพื่อคงเนื้อสัมผัสที่บางเบา ควรใช้หัวเชื้อน้ำหอมในปริมาณน้อย โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 0.1% ถึง 1% สำหรับโลชั่นทาตัว ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกลิ่นที่ต้องการและชนิดของหัวเชื้อน้ำหอม
- การผสมโดยไม่มีเครื่องปั่น: นี่คือความท้าทายหลัก หัวเชื้อน้ำหอมจำเป็นต้องกระจายตัวได้ดีทั่วทั้งโลชั่นเพื่อให้กลิ่นสม่ำเสมอและสูตรคงตัว หากไม่มีเครื่องปั่น คุณจะต้องใช้การคนด้วยมืออย่างละเอียด ควรเติมหัวเชื้อน้ำหอมลงในส่วนของน้ำมัน หรือผสมกับ Silky Serum Base Plus ก่อนที่จะนำไปรวมกับส่วนของน้ำที่ข้นด้วย Xanthan Gum คนอย่างต่อเนื่องและแรงๆ เป็นเวลาหลายนาทีเพื่อให้แน่ใจว่าหัวเชื้อน้ำหอมกระจายตัวได้ดี อย่างไรก็ตาม การคนด้วยมืออาจไม่ได้ประสิทธิภาพในการกระจายตัวหรือความคงตัวในระยะยาวเท่ากับการใช้เครื่องปั่น
- ความเข้มข้นและความติดทนของกลิ่น: การเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมจะทำให้โลชั่นมีกลิ่นหอม ความเข้มข้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใส่และชนิดของหัวเชื้อน้ำหอมที่คุณใช้ เนื่องจากคุณต้องการกลิ่นที่คล้ายกับโลชั่นน้ำหอม แต่ไม่จำเป็นต้องติดทนหรือกระจายกลิ่นเท่า การใช้ในปริมาณน้อย (เช่น 0.1% - 0.5%) อาจเพียงพอ Flora Fix™ ที่คุณมีอยู่แล้วจะช่วยให้กลิ่นติดทนในโลชั่นของคุณได้นานขึ้น
- ผิวกระจ่างใสและปลอบประโลมผิว: การเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมจะไม่ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เช่น Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) หรือส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น German Chamomile Extract (Natural Bisabolol) สูตรของคุณยังมี Vitamin E (dl-alpha tocopherol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ, Xanthan Gum เป็นสารเพิ่มความข้นในส่วนของน้ำ, Purified Water เป็นเบส และ Mild Preserved Eco™ เป็นสารกันเสีย
คำแนะนำ:
- ทดลองทำในปริมาณน้อย: ควรเริ่มต้นด้วยการทำโลชั่นในปริมาณน้อยเพื่อทดสอบก่อนเสมอ
- เติมน้ำหอม: เติมหัวเชื้อน้ำหอมในปริมาณน้อย (เช่น 0.1% หรือ 0.2%) ลงในส่วนของน้ำมัน/เบสของโลชั่นที่ทำทดสอบ
- การผสมด้วยมือ: คนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องด้วยมือเป็นเวลาหลายนาที เพื่อให้แน่ใจว่าหัวเชื้อน้ำหอมกระจายตัวได้ดี
- สังเกตผล: สังเกตโลชั่นที่ทำทดสอบหลังจาก 24-48 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีการแยกชั้น การเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัส หรือปัญหากลิ่นหรือไม่
- ปรับปริมาณ: หากเนื้อสัมผัสยังคงเป็นที่ยอมรับ แต่กลิ่นอ่อนเกินไป คุณสามารถลองเพิ่มปริมาณหัวเชื้อน้ำหอมเล็กน้อยในการทดลองครั้งต่อไป อย่าใช้เกินปริมาณสูงสุดที่แนะนำสำหรับหัวเชื้อน้ำหอมชนิดนั้นๆ
แม้ว่าการเพิ่มหัวเชื้อน้ำหอมจะสามารถทำได้ในสูตรของคุณ แต่การทำให้สูตรมีความคงตัวสูงสุดและเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียนอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีเครื่องปั่น จำเป็นต้องใช้เทคนิคการคนด้วยมือที่ละเอียดและการทดสอบในปริมาณน้อย การใช้สารช่วยละลายน้ำหอม เช่น Flora Solve™ Clear อาจช่วยในการกระจายตัวได้ แต่ด้วยโครงสร้างสูตรของคุณที่ใช้ Silky Serum Base Plus การผสมหัวเชื้อน้ำหอมลงในส่วนของน้ำมัน/เบส เป็นวิธีมาตรฐานที่เหมาะสมกว่า.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

Silky Serum Base Plus (Face/Eye, Oil)
