การเพิ่ม SPF ในน้ำหอม

ในทางเทคนิคแล้ว สามารถเพิ่มส่วนผสม SPF ลงในน้ำหอมได้ โดยเฉพาะน้ำหอมที่มีเบสเป็นน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การทำให้ได้ค่า SPF สูงถึง 50 อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย และประโยชน์ในทางปฏิบัติของการป้องกันแสงแดดจากการใช้น้ำหอมนั้นมีจำกัด เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์กันแดดโดยเฉพาะ

วิธีการเพิ่ม SPF ในน้ำหอมเบสออยล์

1. เลือกสารกันแดดกลุ่ม Chemical ที่ละลายในน้ำมัน: เลือกใช้สารกันแดดกลุ่ม Chemical ที่สามารถละลายได้โดยตรงในน้ำมัน ตัวอย่างเช่น Octocrylene, Homosalate และ BEMT
2. ใช้เบสที่เป็นน้ำมัน: ใช้น้ำมันที่สามารถเป็นเบสสำหรับทั้งสารกันแดดและน้ำหอมได้ Fractionated Coconut Oil เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย และสามารถละลายได้ทั้งสารกันแดดกลุ่ม Chemical และน้ำหอม
3. โครงสร้างสูตรเบื้องต้น: โครงสร้างพื้นฐานอาจประกอบด้วย:
   • Fractionated Coconut Oil (เป็นเบส)
   • สารกันแดดกลุ่ม Chemical (รวมกันในสัดส่วนที่กำหนด โดยทั่วไปประมาณ 10-15% เพื่อให้ได้ค่า SPF แต่การได้ SPF 50 อาจต้องใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ หรือใช้สารกันแดดร่วมกันในสัดส่วนที่เฉพาะเจาะจง)
   • น้ำหอม (ในความเข้มข้นที่ต้องการ)

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

• ระดับ SPF: การทำให้ได้ค่า SPF 50 ในเบสน้ำหอมนั้นทำได้ยาก และอาจต้องใช้สารกันแดดในความเข้มข้นสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัส กลิ่น และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ได้
• วิธีการใช้งาน: โดยทั่วไปแล้ว น้ำหอมจะถูกฉีดเพียงเล็กน้อยตามจุดชีพจร ซึ่งไม่ได้ให้การปกคลุมที่สม่ำเสมอหรือเพียงพอสำหรับการป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพบนบริเวณผิวที่สัมผัสแสงแดด
• ความคงตัว: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารกันแดดที่เลือกมีความคงตัวในเบสน้ำมัน และไม่ทำปฏิกิริยาเชิงลบกับน้ำหอม

แม้ว่าในทางเทคนิคจะสามารถทำได้ แต่น้ำหอมที่มี SPF ก็ไม่น่าจะสามารถทดแทนความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดโดยเฉพาะได้ เมื่อต้องการการป้องกันแสงแดดอย่างมีนัยสำคัญ