การเลือกสารกันเสียสำหรับสครับมะขามและสครับกาแฟ

สำหรับสครับมะขามและสครับกาแฟ ซึ่งมีส่วนผสมจากธรรมชาติและมีแนวโน้มที่จะมีค่า pH ต่ำ การเลือกใช้สารกันเสียแบบ Broad Spectrum ที่มีประสิทธิภาพในสภาวะที่เป็นกรดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์)

คุณกำลังพิจารณาผลิตภัณฑ์ Mild Preserved™ และ NaturePreserve™ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ ตัวเลือกที่เกี่ยวข้องมีการเปรียบเทียบดังนี้:

• NaturePreserve™ Ultra: เป็นสารกันเสียจากธรรมชาติ มีประสิทธิภาพต่อต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ ทำงานได้ดีในช่วง pH 3-6 สามารถผสมในส่วนของน้ำ ทนความร้อนได้ มีความเป็นกรดเล็กน้อยและอาจทำให้ค่า pH ของสูตรลดลง ข้อควรระวัง: ห้ามใช้ร่วมกับวิตามินซี (L-Ascorbic Acid)
• NaturePreserve™ LB2: เป็นอีกทางเลือกจากธรรมชาติ สารกันเสียนี้มีประสิทธิภาพสูงต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อราในค่า pH ต่ำ (ช่วง 2.0-6.5) เป็นสารกันเสียแบบ Broad Spectrum ที่ละลายน้ำได้ ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 50°C
• Mild Preserved™ COS: เป็นสารกันเสียสังเคราะห์แบบ Broad Spectrum ที่ละลายน้ำได้ และมีประสิทธิภาพในช่วง pH กว้าง 2-8 ไม่มีกลิ่น ควรผสมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 45°C
• Mild Preserved Eco™ และ Mild Preserved SC10™ (และน่าจะรวมถึง Mild Preserved CGZ™): ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกระบุว่าเป็นส่วนผสมที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โดยไม่ได้จัดเป็นสารกันเสียตามข้อกำหนดของ FDA Mild Preserved Eco™ และ CGZ™ ทำงานในช่วง pH 4-9 ในขณะที่ Mild Preserved SC10™ ทำงานได้ถึง pH 12 แม้จะอ่อนโยน แต่อาจมีประสิทธิภาพไม่เท่าสารกันเสีย Broad Spectrum ทั่วไปสำหรับสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูงและมีโอกาสปนเปื้อน โดยเฉพาะถ้าค่า pH ต่ำกว่า 4 สำหรับ Eco/CGZ

คำแนะนำ:

เนื่องจากมะขามมีความเป็นกรด ค่า pH ของสครับของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะต่ำ ดังนั้น ควรเลือกใช้สารกันเสียที่มีประสิทธิภาพในสภาวะที่เป็นกรด

• หากคุณต้องการสารกันเสียจาก ธรรมชาติ และค่า pH ของสครับอยู่ระหว่าง 2.0 ถึง 6.5 NaturePreserve™ LB2 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
• หากคุณต้องการสารกันเสียจาก ธรรมชาติ และค่า pH ของสครับอยู่ระหว่าง 3 ถึง 6 NaturePreserve™ Ultra ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน
• หากคุณเปิดรับสารกันเสีย สังเคราะห์ และต้องการช่วง pH ที่กว้าง (2-8) Mild Preserved™ COS เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ

สิ่งสำคัญคือคุณต้องวัดค่า pH ของสูตรสครับสุดท้ายของคุณเพื่อยืนยันว่าสารกันเสียชนิดใดเหมาะสมที่สุดตามช่วง pH ที่มีประสิทธิภาพ ควรใช้สารกันเสียตามอัตราส่วนที่แนะนำเสมอ

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้สารกันเสียชนิดใด การทำ Challenge Test กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของคุณเป็นสิ่งที่แนะนำอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพในการป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในสูตรเฉพาะของคุณ ก่อนที่จะจำหน่ายจ่ายแจกผลิตภัณฑ์