การเลือก Cream Maker สำหรับสูตรต่างๆ และการปรับเนื้อสัมผัส
คำถาม
จากคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Light Cream Maker และ Warp Cream Maker สำหรับครีมแต่ละประเภท (เนื้อบางเบา vs ซิลิโคนสูง) ฉันมีคำถามดังนี้ค่ะ:
1. สำหรับสูตรที่มี น้ำมัน + ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน ประมาณ 17%, ซิลิโคน 20%, และ น้ำ + ส่วนที่ละลายในน้ำ 63% ควรใช้ Light Cream Maker หรือไม่?
2. Light Cream Maker สามารถใช้ทำเนื้อครีมที่ข้นคล้ายเนย ให้ความรู้สึกสบายผิวและไม่เหนียวเหนอะหนะได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีเครื่องปั่นแรงสูง?
3. หากเนื้อครีมที่ได้เหลวเกินไป จะปรับความหนืดได้อย่างไร?
คำตอบ
เคล็ดลับการทำเนื้อครีมให้สบายผิว
จากคำถามของคุณและข้อมูลจากการสนทนาและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ มีคำอธิบายดังนี้ค่ะ
ปริมาณน้ำและความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
ปริมาณน้ำในสูตรโดยทั่วไป ไม่ใช่ ปัจจัยหลักที่ทำให้ครีมรู้สึกเหนียวเหนอะหนะหรือไม่สบายผิวค่ะ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญ (cosmeceutical7) ได้อธิบายไว้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความรู้สึกบนผิวคือส่วนผสมอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Emollient (สารที่ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น) และสารปรับเนื้อสัมผัส สารอย่าง Cyclomethicone หรือ Aminosilk มักถูกนำมาใช้เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ลื่น และไม่เหนียวเหนอะหนะ ดังนั้น การกำหนดปริมาณน้ำขั้นต่ำหรือปริมาณสารอื่นๆ สูงสุดเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถรับประกันความรู้สึกสบายผิวได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้และการทำงานร่วมกันในสูตร
การทำเนื้อครีมข้นคล้ายเนย (และวิธีเลี่ยงความเหนียว)
คุณสอบถามถึงการทำเนื้อครีมข้นคล้ายเนยที่รู้สึกสบายผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีเครื่องปั่น และ Light Cream Maker สามารถทำได้หรือไม่
- การใช้ Light Cream Maker: Staff ยืนยันว่า Light Cream Maker (ID 141) สามารถสร้างเนื้อครีมที่ข้นได้ที่ประมาณ 2-3% อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการปั่นที่เพียงพอ (เช่น ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง) การกระจายตัวอาจไม่สมบูรณ์ ทำให้เนื้อครีมเป็นขุยได้เมื่อทาบนผิว รายละเอียดผลิตภัณฑ์ของ Light Cream Maker ก็ระบุว่าการปั่นหรือคนไม่เพียงพออาจทำให้เนื้อครีมเป็นขุยได้
- วิธีที่ง่ายกว่า (หากไม่มีเครื่องปั่นแรงสูง): Staff แนะนำให้ใช้ Pro Polymer (ID 234) ในการสร้างเนื้อเจลในส่วนน้ำก่อน (เช่น 1.5%) Pro Polymer เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่ช่วยเพิ่มความข้นในส่วนน้ำได้โดยไม่ต้องใช้แรงคนมากและไม่ทำให้เกิดขุย เมื่อได้เนื้อเจลแล้ว จึงค่อยเติม Light Cream Maker (ID 141) ในปริมาณที่น้อยลง (เช่น 0.5%) เพื่อให้เนื้อเจลมีลักษณะเป็นครีมสีขาวขุ่น วิธีนี้จะง่ายกว่าหากคุณไม่มีเครื่องปั่นความเร็วสูง
การเลือกสารประสานเนื้อครีมสำหรับครีมเนื้อบางเบา (มีทั้งน้ำ น้ำมัน และซิลิโคน)
คุณสอบถามเกี่ยวกับการใช้ Light Cream Maker และ Warp Cream Maker สำหรับครีมเนื้อบางเบาที่มีส่วนประกอบของน้ำ น้ำมัน และซิลิโคน (โดยเฉพาะสัดส่วนประมาณ น้ำมัน 17%, ซิลิโคน 20%, น้ำ 63%) และวิธีการปรับความหนืด
- Light Cream Maker กับ Warp Cream Maker: ตามที่ cosmeceutical7 อธิบาย สารประสานเนื้อครีมทั้งสองชนิดนี้เหมาะสำหรับครีมคนละประเภทกันค่ะ
- Warp Cream Maker (ID 288) มักใช้สำหรับครีมประเภท "ครีมน้ำแตก" หรือสูตรที่มีซิลิโคนในปริมาณสูงมาก (50-80%) ซึ่งจะให้ความรู้สึกซึมเร็วและแห้งเหมือนทาแป้งบนผิว
- Light Cream Maker (ID 141) เหมาะสำหรับสูตรที่มีซิลิโคนไม่เกิน 20% และน้ำมันไม่เกิน 40% ส่วนที่เหลือเป็นน้ำ สำหรับสัดส่วนที่คุณแจ้งมา (น้ำมัน 17%, ซิลิโคน 20%, น้ำ 63%) Light Cream Maker เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ใช้งานง่ายกว่า และคุ้มค่ากว่าสำหรับองค์ประกอบสูตรนี้
- การปรับความหนืด: หากเนื้อครีมเหลวเกินไป คุณสามารถเพิ่มความหนืดได้โดยการเพิ่มปริมาณ Light Cream Maker (อัตราการใช้ตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์คือ 0.5-3%) หรือเพิ่มสารสร้างเนื้อเจลอย่าง Pro Polymer (ID 234) เข้าไปในสูตรค่ะ
โดยสรุป การทำเนื้อครีมให้รู้สึกสบายผิวและไม่เหนียวเหนอะหนะขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ Emollient และสารปรับเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมมากกว่าปริมาณน้ำ สำหรับครีมเนื้อข้นที่ทำเองโดยไม่มีเครื่องปั่น แนะนำวิธีใช้ Pro Polymer ร่วมกับ Light Cream Maker ส่วนครีมเนื้อบางเบาที่มีน้ำ น้ำมัน และซิลิโคนตามสัดส่วนที่คุณแจ้งมา Light Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อที่เหมาะสม และสามารถปรับความหนืดได้โดยเพิ่มปริมาณ Light Cream Maker หรือใช้ Pro Polymer ค่ะ สารอื่นๆ ที่กล่าวถึงในสูตรตัวอย่าง เช่น Squalane (ID 128) และ Safe-B3 (Vitamin B3) (ID 74) ก็มีส่วนช่วยให้เนื้อสัมผัสและคุณสมบัติโดยรวมของครีมดีขึ้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Squalane (Olive)

Light Cream Maker™

Pro Polymer™ (Gel Maker)
