การแทนที่อิมัลซิไฟเออร์, ค่า pH เซรั่มวิตามินซี, และการเพิ่มความหนืดครีม

ถามโดย: jiralexk เมื่อ: June 06, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามเกี่ยวกับสูตรเครื่องสำอางค่ะ:

  1. จากการค้นข้อมูลพบว่า Laureth-23 มีค่า HLB 16.9 ในขณะที่ Tween 20 มีค่า HLB 16.7 ซึ่งดูใกล้เคียงกันมาก น่าจะใช้แทนกันได้ รบกวนทีมงานช่วยอธิบายได้ไหมคะ ว่าเหตุใดจึงไม่สามารถใช้ Tween 20 แทน Laureth-23 ในสูตรของ CE Ferulic ได้ค่ะ
  2. Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum ถ้าสั่งขนาด 50ml มาใช้ จะต้องปรับค่า pH เองก่อนใช้ หรือว่ามีการปรับ pH มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ หากต้องปรับเอง ควรปรับค่า pH เท่าไหร่คะ โดยเฉพาะหากต้องการนำไปจำหน่ายในประเทศไทย
  3. หากต้องการเพิ่มความหนืดให้กับครีมที่ใช้ Pro Polymer โดยไม่ต้องการเพิ่ม Pro Polymer มากไปกว่านี้ สามารถใช้ Cetearyl Alcohol ช่วยเพิ่มความหนืดได้ไหมคะ หรือต้องใช้สารตัวไหน รบกวนทีมงานช่วยแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ

คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรเครื่องสำอาง

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับสูตรเครื่องสำอางค่ะ:

1. การใช้ Polysorbate 20 แทน Laureth-23 ในสูตร CE Ferulic

แม้ว่า Laureth-23 และ Polysorbate 20 (Tween 20) จะมีค่า HLB (Hydrophile-Lipophile Balance) ที่ใกล้เคียงกันมาก (ประมาณ 16.9 และ 16.7 ตามลำดับ) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกอิมัลซิไฟเออร์ (สารประสานเนื้อ) แต่ค่า HLB เพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าอิมัลซิไฟเออร์สองชนิดจะสามารถใช้แทนกันได้อย่างสมบูรณ์ในสูตรเฉพาะค่ะ

ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา ได้แก่:

  • โครงสร้างทางเคมี: โครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างกันจะทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตรที่ซับซ้อนแตกต่างกันไป
  • รูปแบบทางกายภาพและการละลาย: Laureth-23 เป็นของแข็งที่ต้องใช้ความร้อนและผสมในส่วนของน้ำมัน ในขณะที่ Polysorbate 20 เป็นของเหลวที่ละลายได้ในน้ำและกลีเซอรีน แต่ละลายได้ไม่สมบูรณ์ในน้ำมัน
  • ความสามารถในการสร้างโครงสร้าง: อิมัลซิไฟเออร์สามารถช่วยเสริมเนื้อสัมผัสและความเสถียรโดยรวมได้โดยการช่วยสร้างเครือข่ายหรือโครงสร้างเฉพาะภายในอิมัลชัน
  • ปฏิกิริยา: ส่วนประกอบต่างๆ สามารถทำปฏิกิริยากันในลักษณะที่ไม่คาดคิดได้ อิมัลซิไฟเออร์ที่ใช้ได้ดีในสูตรหนึ่งอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรหรือปัญหาเนื้อสัมผัสในสูตรอื่น เนื่องจากปฏิกิริยากับส่วนประกอบอื่นๆ

ในสูตรที่เป็นที่ยอมรับอย่าง CE Ferulic การเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์เฉพาะอย่าง Laureth-23 น่าจะมาจากการทดสอบอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าได้ความเสถียร เนื้อสัมผัส และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเมื่อทำงานร่วมกับส่วนประกอบแอคทีฟอื่นๆ (เช่น วิตามินซี วิตามินอี และ Ferulic Acid) การแทนที่ด้วย Polysorbate 20 แม้จะมี HLB ใกล้เคียงกัน ก็อาจทำให้สูตรไม่เสถียร แยกชั้น หรือมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างไปอย่างมาก เนื่องจากคุณสมบัติอื่นๆ และปฏิกิริยาภายในสูตรไม่เหมือนกันค่ะ

ดังนั้น แม้ค่า HLB จะใกล้เคียงกัน แต่ความแตกต่างเล็กน้อยในคุณสมบัติอื่นๆ ก็อาจมีความสำคัญในสูตรที่ซับซ้อน ทำให้โดยทั่วไปแล้ว Polysorbate 20 ไม่สามารถใช้แทน Laureth-23 ได้โดยตรงในบริบทนี้ค่ะ

2. ค่า pH ของ Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum (50ml)

Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum ขนาด 50ml ยังไม่ได้มีการปรับค่า pH มาให้เรียบร้อยค่ะ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ ค่า pH ที่ได้จากผู้ผลิตจะอยู่ในช่วง 2-3 คุณจะต้องทำการปรับค่า pH เองก่อนนำไปใช้ค่ะ

หากคุณต้องการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย จะต้องปรับค่า pH ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีค่า pH อย่างน้อย 3.5 ค่ะ

3. การเพิ่มความหนืดให้กับครีมที่ใช้ Pro Polymer และสารทางเลือก

หากคุณต้องการเพิ่มความหนืดให้กับครีมที่ใช้ Pro Polymer โดยไม่ต้องการเพิ่มปริมาณ Pro Polymer คุณสามารถใช้สารเพิ่มความหนืด (thickener) หรืออิมัลซิไฟเออร์บางชนิดที่ช่วยเพิ่มความข้นได้ค่ะ

  • Cetearyl Alcohol: ใช่ค่ะ Cetearyl Alcohol สามารถช่วยเพิ่มความข้นและความหนักให้กับเนื้อครีมได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้กล่าวไป Cetearyl Alcohol เป็น Fatty Alcohol ชนิดของแข็งที่ต้องใช้ความร้อนในการทำละลายและผสมในส่วนของน้ำมันในสูตรของคุณ (โดยทั่วไปที่อุณหภูมิประมาณ 70°C) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนืดและให้ความรู้สึกนุ่มลื่นบนผิวค่ะ
  • สารเพิ่มความหนืดอื่นๆ: เพื่อเพิ่มความหนืดในส่วนของน้ำหรือโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ต้องการพึ่งพา Pro Polymer เพียงอย่างเดียว หรือต้องการเนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไป ให้พิจารณาสารเพิ่มความหนืดประเภทอื่นๆ การเลือกใช้สารที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อสัมผัสสุดท้ายที่คุณต้องการ (เช่น เจลใส เจลเนื้อครีม โลชั่น หรือครีมหนัก) และความเข้ากันได้กับส่วนประกอบอื่นๆ ตัวเลือกทั่วไปบางส่วน ได้แก่:
    • กลุ่ม Gum: เช่น Xanthan Gum หรือ Guar Gum ซึ่งช่วยสร้างเนื้อเจล
    • กลุ่ม Cellulose Derivatives: เช่น Hydroxyethylcellulose (HEC)
    • กลุ่ม Synthetic Polymers อื่นๆ: เช่น Carbomer หรือ Acrylate copolymer ชนิดอื่นๆ ที่อาจให้ความหนืดหรือความทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ที่แตกต่างจาก Pro Polymer

เนื่องจากคุณมี Cetearyl Alcohol อยู่แล้ว คุณสามารถนำไปผสมในส่วนของน้ำมัน (โดยใช้ความร้อน) เพื่อช่วยเพิ่มความข้นและความหนักให้กับครีมได้ค่ะ สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารเพิ่มความหนืดอื่นๆ การแจ้งลักษณะเนื้อสัมผัสสุดท้ายที่คุณต้องการจะช่วยให้สามารถแนะนำตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
Polysorbate 20 (Tween 20)
Polysorbate 20 (Tween 20)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
เครื่องสำอาง
Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum
Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum
เครื่องสำอาง