การใช้คอลลาเจนและเคราตินในแชมพู
คำถาม
สามารถใช้คอลลาเจนและเคราตินร่วมกันในสูตรแชมพูสมุนไพรได้หรือไม่ และต้องพิจารณาถึงความเข้ากันได้ของส่วนผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสารลดแรงตึงผิวอย่างไร?
คำตอบ
ใช่ สามารถใช้คอลลาเจนและเคราตินร่วมกันในสูตรแชมพูสมุนไพรได้ ส่วนผสมทั้งสองเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ช่วยฟื้นฟูและปกป้องเส้นผมที่เสียหาย
- เคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักของเส้นผม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผม ลดการเปราะขาด และเพิ่มความยืดหยุ่น ผลิตภัณฑ์เช่น Pure Keratin™ และ Hydrolyzed Keratin (Liquid, Deodorized) ถูกออกแบบมาให้ซึมเข้าสู่เส้นผมและให้ประโยชน์เหล่านี้ KeraQuat™ เป็นเคราตินที่มีประจุบวกซึ่งเกาะติดกับเส้นผมได้ดี แม้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออก
- คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนอีกชนิดหนึ่ง สามารถช่วยให้ความชุ่มชื้นและทำให้เกล็ดผมเรียบเนียน เพิ่มความเงางามและลดการชี้ฟู Hair Collagen (Laurdimonium Hydroxypropyl Hydrolyzed Collagen) เป็นคอลลาเจนที่มีประจุบวกซึ่งออกแบบมาสำหรับใช้ในแชมพูและครีมนวดผม
เมื่อรวมส่วนผสมเหล่านี้ในแชมพู สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือความเข้ากันได้กับระบบสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในเบสแชมพู คอลลาเจนและเคราตินไฮโดรไลซ์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่มีประจุบวก (ประจุบวก) เช่น Hair Collagen และ KeraQuat™ อาจไม่เข้ากันกับสารลดแรงตึงผิวประจุลบที่พบได้ทั่วไปในแชมพูหลายชนิด การใช้ส่วนผสมประจุบวกร่วมกับสารลดแรงตึงผิวประจุลบอาจทำให้เกิดการตกตะกอนหรือประสิทธิภาพลดลง
ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะใช้คอลลาเจนและเคราตินในรูปแบบประจุบวก ขอแนะนำให้ใช้เบสแชมพูที่ใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (non-ionic) หรือชนิดแอมโฟเทอริก (amphoteric) แทนชนิดประจุลบ เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรมีความคงตัวและมีประสิทธิภาพ สารสกัดจากสมุนไพรโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีกับส่วนผสมโปรตีนเหล่านี้
สรุปคือ คอลลาเจนและเคราตินสามารถนำมารวมกันในแชมพูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องพิจารณาถึงความเข้ากันได้ของชนิดโปรตีนกับระบบสารลดแรงตึงผิวที่เลือกใช้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pure Keratin™ (Natural, Australian Sheep Wool)
