การใช้ Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) ในโลชั่น

สอบถามมาว่า Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) สามารถนำไปผสมในโลชั่นทาผิวได้โดยตรงเลยหรือไม่

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) สามารถนำไปใช้ในสูตรโลชั่นได้ แต่ไม่สามารถนำไปผสมลงในโลชั่นสำเร็จรูปทั่วไปได้โดยตรง เนื่องจาก L-ascorbic acid เป็นวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีความไม่เสถียร โดยเฉพาะเมื่อละลายในน้ำและอยู่ในสภาวะ pH ที่สูง

ในการผสม Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) ลงในโลชั่นให้ได้ผลดีและมีความเสถียร:

• ต้องผสมในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตสูตร
• อุณหภูมิของเนื้อโลชั่นขณะผสมต้องต่ำกว่า 30°C
• ค่า pH สุดท้ายของโลชั่นจะต้องเป็นกรด โดยควรอยู่ระหว่าง 2.0-4.0 (ข้อกำหนด อย. สำหรับเครื่องสำอางทาแล้วไม่ล้างออกคือ pH ต้องไม่ต่ำกว่า 3.5) การควบคุมและรักษาระดับ pH ที่ต่ำนี้สำคัญมากต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของ L-ascorbic acid
• ควรพิจารณาใช้สารช่วยเพิ่มความเสถียร เช่น Disodium EDTA ในสูตร เพื่อช่วยป้องกัน L-ascorbic acid จากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากไอออนของโลหะ
• การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Protec™ OX และสารป้องกันแสง UV เช่น Protec™ UV ก็สามารถช่วยรักษาคุณภาพของวิตามin ซีในสูตรได้

การเติมผงวิตามินซีลงในโลชั่นทั่วไปโดยตรงมักจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ทำให้วิตามินซีไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มที่ จำเป็นต้องมีการปรับสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีความเสถียรและประสิทธิภาพ