การใช้วัตถุดิบทางเลือก (Phytosphingosine) และสัดส่วนการใช้สารสกัดว่านหางจระเข้

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์การใช้สารสกัดว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract):

ข้อมูลที่ระบุว่าใช้สูงสุด 3% บนหน้าสินค้าหมายถึงความเข้มข้นที่แนะนำของสารสกัดในสูตร อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้อธิบายไป สารสกัดว่านหางจระเข้ที่จำหน่ายมีความเข้มข้น 1:10 (หมายถึงสารสกัด 1 กก. มาจากว่านหางจระเข้สด 10 กก.) ดังนั้น การใช้สารสกัด 3% จึงเทียบเท่ากับการใช้ว่านหางจระเข้สด 30% และการใช้สารสกัด 5% เทียบเท่ากับการใช้ว่านหางจระเข้สด 50%

โดยทั่วไป การใช้สารสกัดความเข้มข้น 1:10 นี้ในสูตรได้ถึงประมาณ 10% ถือว่ายอมรับได้ เนื่องจากเทียบเท่ากับการทาเจลว่านหางจระเข้สดๆ ลงบนผิวโดยตรง (เว้นแต่คุณจะแพ้ว่านหางจระเข้เป็นการส่วนตัว)

อย่างไรก็ตาม สำหรับสูตรที่คุณต้องการผสม ได้รับคำแนะนำให้ใช้สารสกัดว่านหางจระเข้ที่ 2-3% เหตุผลไม่ใช่เพราะการใช้มากกว่านั้นไม่ปลอดภัย แต่เพื่อปรับปรุงสูตรให้เหมาะสม โดยเปิดพื้นที่ให้ส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ ที่มีประโยชน์ ซึ่งสามารถช่วยดูแลปัญหาผิวระคายเคืองและผิวผสมของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ว่านหางจระเข้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงเกินไปอาจจำกัดการใส่ส่วนผสมอื่นๆ โดยไม่ทำให้เนื้อสูตรหนักเกินไป หรือทำให้สารออกฤทธิ์อื่นๆ เจือจางมากเกินไป

สรุปคือ แม้ว่าโดยทั่วไปจะสามารถใช้สารสกัดว่านหางจระเข้ 1:10 ได้มากกว่า 3% (ถึงประมาณ 10%) แต่การใช้ที่ 2-3% ในสูตรของคุณเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุด เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมดุล เหมาะสมกับปัญหาผิวและสภาพผิวของคุณ และช่วยให้สามารถใส่ส่วนผสมเสริมอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม