การใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยร่วมกับ Retin-A สำหรับริ้วรอยและสิว
คำถาม
ปัจจุบันใช้กรดวิตามินเอ (เรตินเอ 0.05%) ทาทั่วหน้าตอนกลางคืนเพื่อรักษาสิวอุดตันอยู่ค่ะ แต่ต้องการสั่งซื้อ tester เพื่อใช้เป็นเซรั่มลดริ้วรอย+ป้องกันริ้วรอย โดยตอนนี้มีริ้วรอยที่หน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปากค่ะ
อยากทราบว่าสามารถทาร่วมกับกรดวิตามินเอในตอนกลางคืนได้ไหมคะ และควรจะปรับเพิ่มหรือลดสารอะไรลงไปอีกไหมคะ
สูตร tester เซรั่มลดริ้วรอยที่สั่งซื้อไป (ยังไม่ได้ชำระเงิน) คือ:
- Double Hyaluronic (Hyaluron) Gel
- Anti-Irritant: Allantoin 0.2-0.5% (ตามที่ใส่ได้สูงสุด)
- Anti-Aging/Anti-Acne: Vitamin B3 (Niacinamide) 5%
- Anti-Aging: Metabiotics™ Resveratrol 5%
- Anti-Aging: Gladback 5%
- Anti-Aging: Pep-Coll 3%
- Anti-Aging: Argireline 5%
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol
ส่วน moisturizer ตอนนี้ใช้ tester ที่เคยสั่งไปค่ะ ซึ่งใช้ได้ดีทีเดียว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่มีอาการผิวแห้งหรือผิวลอกจากการใช้เรตินเอเลย สูตร moisturizer คือ:
- Pure Aloe Vera Gel (100% Natural)
- Moisturizing: Vitamin B5 (Panthenol) 5%
- Moisturizing: Hyaluronic Acid Nano 1%
- Moisturizing: Natural Moisturizing Amino Acids 5%
- Moisturizing: Sodium PCA 5%
- Moisturizing: Sodium Lactate 3%
- Anti-Irritant: Allantoin 0.2-0.5% (ตามที่ใส่ได้สูงสุด)
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol
คำตอบ
การใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยร่วมกับ Retin-A (Tretinoin 0.05%)
โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณสั่งซื้อร่วมกับ Retin-A (Tretinoin 0.05%) ในขั้นตอนการบำรุงผิวตอนกลางคืนได้ค่ะ
นี่คือเหตุผลที่สามารถใช้ร่วมกันได้ และวิธีใช้ที่เหมาะสม:
ความเข้ากันได้ของส่วนผสม
ส่วนผสมในเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณเลือกและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ส่วนใหญ่เข้ากันได้ดีกับ Tretinoin และยังช่วยเสริมการดูแลผิวในขณะที่ใช้ยาในกลุ่มเรตินอยด์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
- ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น: ส่วนผสมอย่าง Hyaluronic Acid, Vitamin B5 (Panthenol), Natural Moisturizing Amino Acids, Sodium PCA และ Sodium Lactate เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการให้ความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อใช้ Tretinoin ที่อาจทำให้ผิวแห้งและลอกได้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ให้ประโยชน์เหล่านี้อยู่แล้ว และเซรั่มที่สั่งซื้อก็จะช่วยเสริม Hyaluronic Acid เพิ่มเติม
- ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว: Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมการสมานผิว ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อผิวอาจมีความอ่อนไหวจากการใช้ Tretinoin
- เปปไทด์ลดเลือนริ้วรอย: Pep-Coll และ Argireline เป็นเปปไทด์ที่เน้นการลดเลือนริ้วรอยโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปแล้วเข้ากันได้ดีกับเรตินอยด์และสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย
- สารต้านอนุมูลอิสระและเสริมความแข็งแรงผิว: Vitamin B3 (Niacinamide) และ Resveratrol มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว Niacinamide ยังช่วยควบคุมความมันและเสริมการทำงานของเกราะป้องกันผิว คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยปรับปรุงสีผิวและเนื้อผิวให้ดีขึ้น พร้อมลดโอกาสการระคายเคืองจาก Tretinoin นอกจากนี้ Gladback (สารสกัดจากเห็ด Poria) ยังมีส่วนช่วยปลอบประโลมและเสริมความแข็งแรงของผิวด้วย
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียมาตรฐานที่เข้ากันได้กับสูตรเหล่านี้
ลำดับการทาผลิตภัณฑ์
เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองและให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มักแนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ตามลำดับความเข้มข้นหรือตามชนิดของสารออกฤทธิ์ วิธีที่นิยมเมื่อใช้ Tretinoin คือ:
- ทำความสะอาดผิวหน้าและซับให้แห้ง
- ทา Retin-A (Tretinoin 0.05%) บางๆ บนผิวที่แห้งสนิท รอให้ซึมประมาณ 2-3 นาที
- ทาเซรั่มลดเลือนริ้วรอย
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์
เนื่องจากคุณแจ้งว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ (ซึ่งมีส่วนผสมของ Aloe Vera Gel, Vitamin B5, Hyaluronic Acid, Amino Acids, Sodium PCA, Sodium Lactate และ Allantoin) ช่วยป้องกันผิวแห้งลอกได้ดีในขณะที่ใช้ Retin-A การเพิ่มเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลม และลดเลือนริ้วรอยที่คล้ายคลึงกันและเพิ่มเติมเข้าไป ก็น่าจะเข้ากันได้ดีและเป็นประโยชน์ต่อผิวค่ะ
การปรับเปลี่ยนสูตร
สูตรเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณสั่งซื้อดูสมดุลดี มีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ในความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับการลดเลือนริ้วรอยและดูแลผิวในขณะที่ใช้ Tretinoin จากส่วนผสมที่ระบุมา ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสูตรใดๆ เป็นพิเศษเพื่อความเข้ากันได้หรือเพื่อลดผลข้างเคียงจาก Tretinoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสามารถจัดการปัญหาผิวแห้งด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ปัจจุบันได้ดีอยู่แล้ว
การใช้ส่วนผสมในเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ร่วมกันจะช่วยเสริมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี เพื่อเสริมการรักษาด้วย Retin-A และช่วยจัดการกับปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปากที่คุณกังวลค่ะ
ให้สังเกตการตอบสนองของผิวอย่างต่อเนื่อง และปรับความถี่ในการใช้หากจำเป็น หากรู้สึกระคายเคืองมากขึ้น อาจลองใช้วิธีทาเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทา Tretinoin (วิธี buffering) หรือลดความถี่ในการใช้ Tretinoin ลงชั่วคราวค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Sodium PCA 50%

Aloe Vera Gel (Heavy)

Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)

Double Hyaluron Liquid

Aloe Vera Gel (Lite)

Hyaluronic Acid Gel Base
