การใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยร่วมกับ Retin-A สำหรับริ้วรอยและสิว

ถามโดย: yuiko44 เมื่อ: March 26, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ปัจจุบันใช้กรดวิตามินเอ (เรตินเอ 0.05%) ทาทั่วหน้าตอนกลางคืนเพื่อรักษาสิวอุดตันอยู่ค่ะ แต่ต้องการสั่งซื้อ tester เพื่อใช้เป็นเซรั่มลดริ้วรอย+ป้องกันริ้วรอย โดยตอนนี้มีริ้วรอยที่หน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปากค่ะ

อยากทราบว่าสามารถทาร่วมกับกรดวิตามินเอในตอนกลางคืนได้ไหมคะ และควรจะปรับเพิ่มหรือลดสารอะไรลงไปอีกไหมคะ

สูตร tester เซรั่มลดริ้วรอยที่สั่งซื้อไป (ยังไม่ได้ชำระเงิน) คือ:

  • Double Hyaluronic (Hyaluron) Gel
    • Anti-Irritant: Allantoin 0.2-0.5% (ตามที่ใส่ได้สูงสุด)
    • Anti-Aging/Anti-Acne: Vitamin B3 (Niacinamide) 5%
    • Anti-Aging: Metabiotics™ Resveratrol 5%
    • Anti-Aging: Gladback 5%
    • Anti-Aging: Pep-Coll 3%
    • Anti-Aging: Argireline 5%
    • สารกันเสีย: Phenoxyethanol

ส่วน moisturizer ตอนนี้ใช้ tester ที่เคยสั่งไปค่ะ ซึ่งใช้ได้ดีทีเดียว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่มีอาการผิวแห้งหรือผิวลอกจากการใช้เรตินเอเลย สูตร moisturizer คือ:

  • Pure Aloe Vera Gel (100% Natural)
    • Moisturizing: Vitamin B5 (Panthenol) 5%
    • Moisturizing: Hyaluronic Acid Nano 1%
    • Moisturizing: Natural Moisturizing Amino Acids 5%
    • Moisturizing: Sodium PCA 5%
    • Moisturizing: Sodium Lactate 3%
    • Anti-Irritant: Allantoin 0.2-0.5% (ตามที่ใส่ได้สูงสุด)
    • สารกันเสีย: Phenoxyethanol

คำตอบ

การใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยร่วมกับ Retin-A (Tretinoin 0.05%)

โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณสั่งซื้อร่วมกับ Retin-A (Tretinoin 0.05%) ในขั้นตอนการบำรุงผิวตอนกลางคืนได้ค่ะ

นี่คือเหตุผลที่สามารถใช้ร่วมกันได้ และวิธีใช้ที่เหมาะสม:

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ส่วนผสมในเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณเลือกและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ส่วนใหญ่เข้ากันได้ดีกับ Tretinoin และยังช่วยเสริมการดูแลผิวในขณะที่ใช้ยาในกลุ่มเรตินอยด์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

  • ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น: ส่วนผสมอย่าง Hyaluronic Acid, Vitamin B5 (Panthenol), Natural Moisturizing Amino Acids, Sodium PCA และ Sodium Lactate เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการให้ความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อใช้ Tretinoin ที่อาจทำให้ผิวแห้งและลอกได้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ให้ประโยชน์เหล่านี้อยู่แล้ว และเซรั่มที่สั่งซื้อก็จะช่วยเสริม Hyaluronic Acid เพิ่มเติม
  • ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว: Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมการสมานผิว ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อผิวอาจมีความอ่อนไหวจากการใช้ Tretinoin
  • เปปไทด์ลดเลือนริ้วรอย: Pep-Coll และ Argireline เป็นเปปไทด์ที่เน้นการลดเลือนริ้วรอยโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปแล้วเข้ากันได้ดีกับเรตินอยด์และสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย
  • สารต้านอนุมูลอิสระและเสริมความแข็งแรงผิว: Vitamin B3 (Niacinamide) และ Resveratrol มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว Niacinamide ยังช่วยควบคุมความมันและเสริมการทำงานของเกราะป้องกันผิว คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยปรับปรุงสีผิวและเนื้อผิวให้ดีขึ้น พร้อมลดโอกาสการระคายเคืองจาก Tretinoin นอกจากนี้ Gladback (สารสกัดจากเห็ด Poria) ยังมีส่วนช่วยปลอบประโลมและเสริมความแข็งแรงของผิวด้วย
  • สารกันเสีย: Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียมาตรฐานที่เข้ากันได้กับสูตรเหล่านี้

ลำดับการทาผลิตภัณฑ์

เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองและให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มักแนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ตามลำดับความเข้มข้นหรือตามชนิดของสารออกฤทธิ์ วิธีที่นิยมเมื่อใช้ Tretinoin คือ:

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าและซับให้แห้ง
  2. ทา Retin-A (Tretinoin 0.05%) บางๆ บนผิวที่แห้งสนิท รอให้ซึมประมาณ 2-3 นาที
  3. ทาเซรั่มลดเลือนริ้วรอย
  4. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์

เนื่องจากคุณแจ้งว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ (ซึ่งมีส่วนผสมของ Aloe Vera Gel, Vitamin B5, Hyaluronic Acid, Amino Acids, Sodium PCA, Sodium Lactate และ Allantoin) ช่วยป้องกันผิวแห้งลอกได้ดีในขณะที่ใช้ Retin-A การเพิ่มเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลม และลดเลือนริ้วรอยที่คล้ายคลึงกันและเพิ่มเติมเข้าไป ก็น่าจะเข้ากันได้ดีและเป็นประโยชน์ต่อผิวค่ะ

การปรับเปลี่ยนสูตร

สูตรเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่คุณสั่งซื้อดูสมดุลดี มีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ในความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับการลดเลือนริ้วรอยและดูแลผิวในขณะที่ใช้ Tretinoin จากส่วนผสมที่ระบุมา ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสูตรใดๆ เป็นพิเศษเพื่อความเข้ากันได้หรือเพื่อลดผลข้างเคียงจาก Tretinoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสามารถจัดการปัญหาผิวแห้งด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ปัจจุบันได้ดีอยู่แล้ว

การใช้ส่วนผสมในเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ร่วมกันจะช่วยเสริมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี เพื่อเสริมการรักษาด้วย Retin-A และช่วยจัดการกับปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม และมุมปากที่คุณกังวลค่ะ

ให้สังเกตการตอบสนองของผิวอย่างต่อเนื่อง และปรับความถี่ในการใช้หากจำเป็น หากรู้สึกระคายเคืองมากขึ้น อาจลองใช้วิธีทาเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทา Tretinoin (วิธี buffering) หรือลดความถี่ในการใช้ Tretinoin ลงชั่วคราวค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Sodium PCA 50%
Sodium PCA 50%
เครื่องสำอาง
Aloe Vera Gel (Heavy)
Aloe Vera Gel (Heavy)
เครื่องสำอาง
Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)
Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Aloe Vera Gel (Lite)
Aloe Vera Gel (Lite)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid Gel Base
Hyaluronic Acid Gel Base
เครื่องสำอาง
Micromul™ Resveratrol (Resveratrol microemulsion)
Micromul™ Resveratrol (Resveratrol microemulsion)
เครื่องสำอาง