การใช้ Encapsulated Salicylic Acid และ Squalane ในสบู่ก้อน

สำหรับการใช้ Encapsulated Salicylic Acid (Liquid, Timed-Release, Wash-Off) และ Squalane (Olive) ในสบู่ก้อนที่มีค่า pH มากกว่า 7:

• Encapsulated Salicylic Acid (Liquid, Timed-Release, Wash-Off): Salicylic Acid ชนิดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผลิตภัณฑ์แบบล้างออก และถูกพัฒนาให้มีความอ่อนโยน โดยกลไกการปลดปล่อยแบบหน่วงเวลาจะทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว (ประมาณ 5.0) ในขณะที่สบู่ก้อนทั่วไปมีค่า pH สูง (โดยทั่วไปสูงกว่า 7) Salicylic Acid จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด (pH ต่ำ) ซึ่งจะอยู่ในรูปกรดอิสระที่สามารถผลัดเซลล์ผิวและซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ ในสภาพแวดล้อมที่มี pH สูง Salicylic Acid จะอยู่ในรูปเกลือ (salicylate) ซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่า ดังนั้น การใช้ Encapsulated Salicylic Acid ในสบู่ก้อนที่มี pH สูง ไม่แนะนำ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มี pH สูงมีแนวโน้มที่จะลดประสิทธิภาพและอาจส่งผลต่อกลไกการปลดปล่อยแบบหน่วงเวลาและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ได้

• Squalane (Olive): Squalane เป็นน้ำมันที่สามารถเติมลงในสูตรสบู่ได้ ในสบู่ก้อน การเติมน้ำมันมักทำเพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น (superfatting) และลดความกระด้างของสบู่ แม้ว่า Squalane สามารถใช้ในเครื่องสำอางได้ที่ความเข้มข้น 1% ถึง 100% แต่การใช้ความเข้มข้นสูงถึง 100% นั้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน ไม่ใช่สบู่ก้อน สำหรับการทำ superfatting ในสบู่ก้อน อัตราส่วนการใช้น้ำมันเช่น Squalane โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3-8% การเติมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อฟองและความแข็งของสบู่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องผสมผสานอย่างถูกต้องในกระบวนการทำสบู่ ซึ่งมักจะเติมในช่วงท้าย (ที่ trace) หรือหลังจากกระบวนการ Saponification หลักเสร็จสิ้น

สรุปคือ Encapsulated Salicylic Acid (Liquid, Timed-Release, Wash-Off) ไม่เหมาะสำหรับใช้ในสบู่ก้อนที่มี pH สูง เนื่องจากข้อกังวลด้านประสิทธิภาพและความคงตัว ส่วน Squalane (Olive) สามารถใช้เพื่อทำ superfatting ในสบู่ก้อนได้ โดยทั่วไปใช้อัตราส่วน 3-8% เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น