Ethoxydiglycol และ Hydrogel ในสูตรเซรั่มของคุณ

ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ Ethoxydiglycol และ Hydrogel (Biosaccharide Gum-1) ในสูตรเซรั่มบำรุงผิวหน้าแบบน้ำของคุณมีดังนี้:

Ethoxydiglycol

• ช่วงเวลาที่ใส่: Ethoxydiglycol เป็นตัวทำละลายและตัวนำพาที่ละลายได้ในน้ำ สามารถใส่ลงในส่วนของน้ำ (water phase) ในสูตรของคุณได้ หากคุณต้องการใช้เพื่อช่วยละลายหรือนำพาส่วนผสมเฉพาะ เช่น สารสกัดสมุนไพร คุณสามารถผสม Ethoxydiglycol กับส่วนผสมเหล่านั้นก่อนนำไปรวมกับส่วนของน้ำหลักได้
• ค่า pH: คำอธิบายผลิตภัณฑ์ไม่ได้ระบุค่า pH ที่เฉพาะเจาะจงของ Ethoxydiglycol อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของเซรั่มเหมาะสมกับส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น Vitamin B3 (Niacinamide) ซึ่งมีช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดคือ 4.0-7.0
• ผสมกับสารสกัดสมุนไพรหรือไม่: ได้ค่ะ คุณสามารถผสม Ethoxydiglycol โดยตรงกับสารสกัดสมุนไพรแบบน้ำของคุณได้ ในฐานะตัวทำละลายและตัวนำพา จะช่วยปรับปรุงการละลายและเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาสารออกฤทธิ์จากสารสกัดเข้าสู่ผิวได้
• ปริมาณที่ใช้: อัตราการใช้ทั่วไปที่แนะนำสำหรับ Ethoxydiglycol คือ 1-10% อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดปัจจุบัน (เช่น ข้อจำกัดของ อย. สำหรับผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้บนผิว/แบบสเปรย์) ระบุว่าอัตราการใช้ควร ไม่เกิน 2.6% ในการคำนวณปริมาณเป็นกรัมที่แน่นอน คุณจะต้องกำหนดเปอร์เซ็นต์ที่คุณต้องการใช้ภายในช่วงที่อนุญาต และคำนวณตามขนาดรวมของสูตรของคุณ
• อัตราการใช้ที่สูงขึ้นในแบรนด์อื่น: คำอธิบายผลิตภัณฑ์ระบุว่าอัตราการใช้ที่สูงขึ้น (สูงสุด 10%) อาจใช้ในผลิตภัณฑ์แบบล้างออก เช่น แชมพูหรือสบู่ หรือในผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม (สูงสุด 5% หรือ 7%) สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบทาทิ้งไว้ ข้อจำกัดตามข้อกำหนดปัจจุบันคือ 2.6% การใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้นในผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนด หรืออาจเกี่ยวข้องกับเกรดที่แตกต่างกัน หรือประเภทผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ไม่ได้มีไว้สำหรับการใช้ในเซรั่มบำรุงผิวหน้าทั่วไป สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราการใช้ที่แนะนำและข้อจำกัดตามข้อกำหนดสำหรับ Ethoxydiglycol เกรดเครื่องสำอางในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าแบบทาทิ้งไว้

Hydrogel (Biosaccharide Gum-1)

• ช่วงเวลาที่ใส่: Hydrogel (Biosaccharide Gum-1) ละลายน้ำได้ และควรผสมลงในส่วนของน้ำ (water phase) ในสูตรของคุณ
• ผลต่อเนื้อสัมผัส: ได้ค่ะ Hydrogel (Biosaccharide Gum-1) ถูกอธิบายว่าเป็นของเหลวเจลใส และมีส่วนช่วยในเนื้อสัมผัสและความรู้สึกของผลิตภัณฑ์ แม้ว่าจะไม่ได้สร้างเนื้อเจลที่ข้นด้วยตัวเอง แต่ก็เป็นสารที่มีลักษณะเป็นเจลเหลว และจะช่วยเพิ่มความหนืดและเนื้อสัมผัสของเซรั่มสุดท้าย ทำให้มีความหนืดหรือความเป็นเจลเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสารละลายน้ำเปล่า