การใช้ Rose Acetate และ Phenethyl Alcohol เพื่อเสริมกลิ่นน้ำหอม

ถามโดย: dharmaamm เมื่อ: July 12, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ซื้อ Rose Acetate และ Phenethyl Alcohol มา อยากสอบถามว่า:

  1. สามารถผสมสองตัวนี้ในหัวน้ำหอมกลิ่นกุหลาบหรือกลิ่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มความชัดเจนและความติดทนของกลิ่นในผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่คะ?
  2. ถ้าสามารถผสมได้ ควรใช้อัตราส่วนประมาณเท่าไหร่คะ?
  3. สำหรับ Rose Acetate ที่เป็นผง ต้องใช้อะไรช่วยละลายก่อนนำไปผสมในหัวน้ำหอม หรือสามารถละลายในหัวน้ำหอมได้เลยคะ?

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

เข้าใจถึงความสับสนเกี่ยวกับการผสมน้ำหอมและประเภทสินค้าต่างๆ นะคะ การทำน้ำหอมอาจมีความซับซ้อนได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ

ขออธิบายประเภทสินค้าตามข้อมูลที่ได้รับดังนี้ค่ะ:

  • BLEND: คือหัวน้ำหอมสำเร็จรูป เป็นกลิ่นที่ปรุงมาแล้ว สามารถนำไปเจือจางเพื่อทำน้ำหอมฉีดกาย หรือผสมในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้เลยค่ะ
  • Natural: หมวดนี้คือน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%, เรซินอยด์ (Resinoids) และแอบโซลูท (Absolutes) ค่ะ
  • A-Z: คือสารเคมีเดี่ยวๆ หรือแนวกลิ่นพื้นฐานที่ใช้เป็น ส่วนประกอบสำคัญ (building blocks) ในการสร้างหรือปรับแต่งกลิ่นน้ำหอมค่ะ กลิ่นเหล่านี้มักจะยังไม่สมบูรณ์หรือเป็นกลิ่นหอมที่น่าพอใจในตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุณลูกค้าอาจรู้สึกว่ามันฉุนค่ะ การนำมาผสมต้องอาศัยความรู้ด้านการปรุงน้ำหอมค่ะ
  • Ingredients: หมวดนี้คือวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงน้ำหอม เช่น สารตรึงกลิ่น (fixative), สารละลาย (solvent), และสารเคมีให้กลิ่นเฉพาะ (เช่น Rose Acetate, Phenethyl Alcohol) หมวดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ในการปรุงกลิ่นโดยเฉพาะค่ะ

วิธีการทำน้ำหอมสำหรับฉีดพ่น:
สูตรพื้นฐานคือการนำหัวน้ำหอมมาผสมกับสารละลาย (แอลกอฮอล์) และมักจะมีการใช้สารตรึงกลิ่นร่วมด้วยค่ะ

คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น:
จากประสบการณ์ที่คุณลูกค้าพบว่ากลิ่น A-Z ฉุน แนะนำว่าวิธีที่ง่ายกว่าคือการเริ่มต้นด้วยการใช้หัวน้ำหอมสำเร็จรูปจากหมวด BLEND หรือ Natural ที่คุณลูกค้าชอบกลิ่นอยู่แล้ว แทนที่จะพยายามสร้างกลิ่นจากส่วนประกอบ A-Z ค่ะ

สูตรและอัตราส่วนทั่วไป (โดยประมาณ):
จุดเริ่มต้นทั่วไปสำหรับน้ำหอมฉีดพ่นคือ:

  • หัวน้ำหอม (จากหมวด BLEND หรือ Natural): 25%
  • สารตรึงกลิ่น (เช่น FloraFix): 10%
  • Ethyl Alcohol: 65% (ส่วนที่เหลือ)
  • โปรดทราบ:* นี่เป็นอัตราส่วนโดยประมาณ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชนิดของหัวน้ำหอมที่ใช้และความเข้มข้นของกลิ่นที่ต้องการค่ะ วิธีการผสมคือเพียงแค่คนส่วนผสมให้เข้ากันค่ะ

ส่วนประกอบเฉพาะ:

  • แอลกอฮอล์: ควรใช้ Ethyl Alcohol ค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งสินค้าจากเว็บ MySkinRecipes (รหัสสินค้า 706) และ beScents ซึ่งเป็นเกรดเดียวกันและเหมาะสำหรับทำน้ำหอมค่ะ
  • สารตรึงกลิ่น: FloraFix (รหัสสินค้า 1502) เป็นสารตรึงกลิ่นที่ช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานขึ้นค่ะ

การเพิ่มส่วนประกอบเช่น Rose Acetate และ Phenethyl Alcohol:
สามารถทำได้ค่ะ การเพิ่มสารเคมีให้กลิ่นเฉพาะอย่าง Rose Acetate (รหัสสินค้า 1198) และ Phenethyl Alcohol (รหัสสินค้า 804) ลงในหัวน้ำหอม (เช่น หัวน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ) สามารถช่วยเสริมโน้ตกุหลาบให้ชัดเจนขึ้น และอาจช่วยเรื่องความติดทนได้ค่ะ สารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่ให้กลิ่นกุหลาบ ไม่มีอัตราส่วนตายตัวค่ะ คุณลูกค้าจะต้องทดลองผสมโดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆ และปรับเพิ่มจนได้กลิ่นและความเข้มข้นที่ต้องการค่ะ Rose Acetate ที่เป็นผงโดยทั่วไปสามารถละลายในหัวน้ำหอมได้โดยตรงค่ะ

ความติดทนของกลิ่นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของหัวน้ำหอมสำเร็จรูปนั้นๆ ด้วยค่ะ

สรุปคือ เพื่อความง่ายในการเริ่มต้น แนะนำให้ใช้หัวน้ำหอมสำเร็จรูปจากหมวด BLEND หรือ Natural ผสมกับ Ethyl Alcohol และ FloraFix ค่ะ ส่วนหมวด A-Z และ Ingredients จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์สูตรน้ำหอมโดยเฉพาะค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
ฝา Flip ขาว 20มม
ฝา Flip ขาว 20มม
เครื่องสำอาง
IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate)
IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate)
เครื่องสำอาง
Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%)
Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%)
เครื่องสำอาง