การใช้ Soy Lecithin และสารประสานอื่นๆ ในสูตรครีมและกันแดด

ถามโดย: celebbyh เมื่อ: December 24, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังลองพัฒนาสูตรเครื่องสำอางและพบปัญหาในการใช้ Soy Lecithin เป็นสารประสานค่ะ ทีมงานแจ้งว่า Soy Lecithin เหมาะที่สุดเมื่อวัฏภาคน้ำมันเป็น 70-80% ของสูตร ฉันมีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับสูตรและการพัฒนาสูตรโดยทั่วไปค่ะ:

  1. สูตรแรก: ฉันลองทำครีมโดยใช้สูตรดังนี้:

    • Water 71%
    • Safe-B3 8%
    • Panthenol 3%
    • Soy Lecithin 10%
    • Yeast Radiance 3%
    • Silicone Quick-Cond 2%
    • GlucoBright 4%
    • Phenoxyethanol SA 1%
      ทำไม Soy Lecithin ถึงไม่ทำงานในสูตรนี้คะ?
  2. การใช้ Soy Lecithin: Soy Lecithin จำเป็นต้องละลายผสมกับน้ำมันเท่านั้นใช่ไหมคะ จึงจะทำงานเป็นสารประสานได้?

  3. การแต่งกลิ่น: หากต้องการแต่งกลิ่นเพิ่ม ต้องใส่สารประสานอะไรเพิ่มไหมคะ?

  4. การแทนที่ส่วนผสม: หากเปลี่ยนจาก Soy Lecithin เป็น Shea Butter ในสูตรแรกจะได้ไหมคะ?

  5. การเติมส่วนผสม: ส่วนผสมที่ละลายในน้ำได้และทนความร้อน สามารถใส่หลังจากผสมส่วนที่เป็นน้ำมันแล้วทิ้งไว้ให้อุณหภูมิลดลงแล้ว ได้ไหมคะ?

  6. การปรับค่า pH: เมื่อผสมทั้งหมดเสร็จแล้ว จึงวัดค่า pH เป็นขั้นตอนสุดท้าย หากค่ามากไปหรือน้อยไปค่อยปรับ ถูกไหมคะ?

  7. สูตรที่สองและขั้นตอนการผสม: ฉันลองสูตรและขั้นตอนการผสมอีกแบบ:

    • Water 68%
    • Soy Lecithin 9%
    • Shea butter ultra soft 5%
    • Safe-B3 8%
    • Yeast Radiance 3%
    • GlucoBright 4%
    • Phenoxyethanol SA 1%
    • Silicone Quick-Cond 2%
      ขั้นตอนการผสมที่ฉันเสนอคือ: ส่วน A (Soy Lecithin + Shea Butter ที่ 80C), ส่วน B (น้ำ + ส่วนผสมอื่นๆ), จากนั้นนำ B+A. ทำไมวิธีนี้ถึงไม่สำเร็จ และขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับส่วนผสมที่แนะนำ เช่น Milk Lotion Maker (3%) และ Pro Polymer (0.5-1.0%) ควรทำอย่างไรคะ?
  8. Pro Polymer และสารทางเลือก: Pro Polymer มีสารเคมีไหมคะ? ถ้าต้องการเลี่ยงสารเคมี ใช้ Xanthan Gum แทนได้ไหมคะ?

  9. การใช้ Soy Lecithin ที่ซื้อมา: ฉันจะใช้ Soy Lecithin ที่ซื้อมาได้อย่างไร ในเมื่อมันต้องการวัฏภาคน้ำมันสูง?

  10. สูตรกันแดด: Soy Lecithin ใช้ในสูตรกันแดดได้ไหมคะ? สำหรับสูตรกันแดดที่ทีมงานแนะนำ (Water 62%, Zinc Oxide Liquid 10%, Titanium Dioxide Liquid 20%, Milk Lotion Maker 3%, LipidSoft 3%, Strawberry Flavor 2%) สามารถคนด้วยมือโดยไม่ใช้เครื่องปั่นได้ไหมคะ?

คำตอบ

Subject: สอบถามค่ะ สารตั้งต้น soy lecithin กับสูตรครีม

สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรครีมและ Soy Lecithin ค่ะ ดิฉันจะตอบคำถามแต่ละข้อตามข้อมูลที่ได้รับค่ะ

  1. เกี่ยวกับสูตรแรกของคุณ (Water 71%, Safe-B3 8%, Panthenol 3%, Soy Lecithin 10%, Yeast Radiance 3%, Silicone Quick-Cond 2%, GlucoBright 4%, Phenoxyethanol SA 1%): สูตรนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยส่วนผสมที่ละลายในน้ำและมีปริมาณน้ำสูง (71%) ตามที่ทีมงานได้แจ้งไป Soy Lecithin เป็นสารประสานที่ทำงานได้ดีที่สุดในสูตรที่มีส่วนประกอบของน้ำมันสูงมาก (โดยทั่วไปคือ 70-80% ของสูตร) ในสูตรที่มีน้ำสูงเช่นนี้ Soy Lecithin เพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างเนื้อครีมหรือโลชั่นที่คงตัวได้ค่ะ สูตรอาจจะเหลวหรือแยกชั้น หากต้องการสร้างเนื้อเจลน้ำด้วยส่วนผสมที่ละลายน้ำเหล่านี้ คุณจะต้องใช้สารสร้างเนื้อเจลในส่วนของน้ำ เช่น Pro Polymer หรือ AnyGel และตัด Soy Lecithin ออก หากสูตรไม่มีส่วนของน้ำมันค่ะ

  2. Soy Lecithin ต้องละลายผสมกับน้ำมันเท่านั้น ใช่ไหมคะ: Soy Lecithin ละลายได้ในน้ำมัน และทำหน้าที่เป็นสารประสานสำหรับสูตรแบบน้ำในน้ำมัน (W/O) หรือน้ำมันในน้ำ (O/W) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสูตรที่มีวัฏภาคน้ำมันสูง (70-80%) แม้ว่าจะละลายในน้ำมัน แต่ทีมงานกล่าวว่าบางครั้งสามารถเติมในขั้นตอนสุดท้ายและปั่นให้เข้ากันได้ แต่หน้าที่หลักในการเป็นสารประสานนั้นขึ้นอยู่กับการรวมตัวในวัฏภาคน้ำมันเมื่อสร้างอิมัลชันที่มีส่วนประกอบของน้ำมันจำนวนมาก สำหรับสูตรที่มีน้ำสูง Soy Lecithin ไม่ใช่สารประสานที่เหมาะสมค่ะ

  3. หากต้องการแต่งกลิ่นเพิ่ม ต้องใส่สารประสานอะไรเพิ่มไหมคะ: ใช่ค่ะ การเติมน้ำหอม (ซึ่งโดยทั่วไปเป็นน้ำมัน) ลงในสูตรที่เป็นน้ำหรือสูตรอิมัลชัน มักจะต้องใช้ส่วนผสมที่ช่วยกระจายตัวและรวมน้ำหอมให้เข้ากับสูตรได้อย่างสม่ำเสมอ สารประสาน (Emulsifiers) หรือสารสร้างเนื้อเจล (Thickeners/Gel formers) เช่น Pro Polymer, AnyGel หรือ Milk Lotion Maker สามารถช่วยให้สูตรคงตัวและรวมน้ำหอมเข้ากับสูตรได้ค่ะ ทีมงานยังแนะนำให้ใช้น้ำหอม (Fragrance Oil) ที่ออกแบบมาสำหรับผลิตภัณฑ์ทาผิวโดยเฉพาะ แทนที่จะใช้ Flavor Oil ค่ะ

  4. หากเปลี่ยนจาก Soy Lecithin เป็น Shea butter ในสูตรแรกจะได้ไหมคะ: Shea Butter เป็นสารให้ความนุ่มลื่น (Emollient) ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของน้ำมัน/ไขมัน ที่ให้คุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและช่วยปรับเนื้อสัมผัสของครีม แต่ไม่ใช่สารประสาน (Emulsifier) ค่ะ ไม่สามารถทำหน้าที่เชื่อมน้ำกับน้ำมันเข้าด้วยกันแทน Soy Lecithin ได้ หากต้องการใช้ Shea Butter ในครีม คุณจะต้องรวม Shea Butter ไว้ในวัฏภาคน้ำมัน และใช้สารประสานที่เหมาะสม (เช่น Milk Lotion Maker) เพื่อสร้างอิมัลชันที่คงตัวกับวัฏภาคน้ำค่ะ Shea Butter ยังต้องใช้ความร้อนในการหลอมเหลวก่อนนำไปผสมด้วยค่ะ

  5. ส่วนผสมที่ละลายในน้ำได้และทนความร้อน ใส่หลังจากผสมส่วนที่เป็นน้ำมันแล้วทิ้งไว้ให้อุณหภูมิลดลงแล้ว ได้ไหมคะ: สำหรับสูตรแรกที่คุณให้มา ทีมงานระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนใดๆ เนื่องจากส่วนผสมทั้งหมดละลายได้ที่อุณหภูมิห้อง อย่างไรก็ตาม โดยหลักการทั่วไปในการทำเครื่องสำอาง ส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อน (ไม่ว่าจะละลายในน้ำหรือน้ำมัน) ควรเติมหลังจากที่อิมัลชันหลักก่อตัวขึ้นและเย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม (โดยปกติคือต่ำกว่า 40-50°C) เพื่อรักษาสรรพคุณของส่วนผสมนั้นๆ ส่วนผสมที่ละลายในน้ำและทนความร้อน สามารถ เติมลงในวัฏภาคน้ำก่อนให้ความร้อน (หากจำเป็นต้องให้ความร้อน) หรือเติมหลังจากเย็นลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและกระบวนการเฉพาะค่ะ

  6. เมื่อผสมทั้งหมดเสร็จแล้ว จึงวัดค่า pH เป็นขั้นตอนสุดท้าย หากค่ามากไปหรือน้อยไปค่อยปรับ ถูกไหมคะ: สำหรับส่วนผสมเฉพาะในสูตรแรกของคุณ ทีมงานระบุว่าไม่จำเป็นต้องวัดค่า pH หรือปรับค่า pH เนื่องจากส่วนผสมโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นกลาง หรือเป็นกรดอ่อนๆ/ด่างอ่อนๆ เมื่อผสมออกมาแล้ว สูตรจะมีค่า pH กลางๆ ซึ่งไม่มีปัญหากับผิวค่ะ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปในการทำเครื่องสำอาง การปรับค่า pH มักจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายหรือเกือบสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ส่วนผสมที่ไวต่อค่า pH หรือเมื่อต้องการค่า pH ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อประสิทธิภาพ ความคงตัว หรือความเข้ากันได้กับผิว คุณจะต้องวัดค่า pH แล้วจึงปรับขึ้นหรือลงโดยใช้สารละลายกรดหรือด่างที่เหมาะสมหากจำเป็นค่ะ

เกี่ยวกับสูตรที่สองของคุณ (Water 68%, Soy Lecithin 9%, Shea butter ultra soft 5%, Safe-B3 8%, Yeast Radiance 3%, GlucoBright 4%, Phenoxyethanol SA 1%, Silicone Quick-Cond 2%) และขั้นตอนการผสม:

ตามที่ทีมงานได้อธิบาย สูตรนี้ยังมีปริมาณน้ำสูง (68%) เมื่อเทียบกับวัฏภาคน้ำมัน (Shea Butter 5% + Silicone Quick-Cond 2% = 7%) Soy Lecithin ที่ 9% เหมาะสำหรับสูตรที่มีวัฏภาคน้ำมันสูงกว่ามาก (70-80%) ดังนั้น Soy Lecithin จึงไม่เหมาะที่จะเป็นสารประสานหลักในสูตรนี้ และสูตรนี้อาจไม่สามารถสร้างเนื้อครีมที่คงตัวได้โดยใช้ Soy Lecithin เพียงอย่างเดียวค่ะ

ทีมงานแนะนำให้ใช้ Milk Lotion Maker (3%) ร่วมกับ Pro Polymer (0.5-1.0% เพื่อเพิ่มความข้นหนืด) แทน Soy Lecithin สำหรับสูตรนี้ เพื่อสร้างเนื้อครีมที่คงตัวค่ะ

ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอ (ส่วน A: Soy Lecithin + Shea Butter ที่ 80C, ส่วน B: น้ำ + ส่วนผสมอื่นๆ, จากนั้นนำ B+A) ไม่ถูกต้องสำหรับสูตรนี้และสารประสานที่แนะนำค่ะ หากใช้ Milk Lotion Maker และ Pro Polymer ตามที่ทีมงานแนะนำ กระบวนการจะเกี่ยวข้องกับการให้ความร้อนแก่วัฏภาคน้ำมัน (Shea Butter, Milk Lotion Maker, Silicone Quick-Cond) และวัฏภาคน้ำแยกกัน จากนั้นนำมาผสมกันขณะปั่น และเติมส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อนและ Pro Polymer (ซึ่งมักเติมในวัฏภาคน้ำหรือหลังจากการก่อตัวของอิมัลชัน ขึ้นอยู่กับประเภท) ในระหว่างหรือหลังการเย็นตัวค่ะ

เกี่ยวกับคำถามเพิ่มเติมของคุณ:

  • Pro Polymer มีสารเคมีไหมคะ: ใช่ค่ะ Pro Polymer (Acrylate Crosspolymer) เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นและสารคงตัวในเครื่องสำอางค่ะ
  • ถ้าต้องการเลี่ยงสารเคมี ใช้ Xanthan Gum แทนได้ไหมคะ: Xanthan Gum เป็นกัมธรรมชาติที่ใช้เป็นสารเพิ่มความข้น แต่ไม่ใช่สารประสาน และไม่สามารถเชื่อมน้ำกับน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือน Soy Lecithin หรือ Milk Lotion Maker ค่ะ สามารถเพิ่มความหนืดของวัฏภาคน้ำได้ แต่จะไม่สร้างอิมัลชันที่คงตัวหากสูตรมีวัฏภาคน้ำมันค่ะ
  • หากต้องการให้ครีมมีส่วนผสมของ Soy Lecithin ต้องทำอย่างไรคะ เพราะสั่งมาแล้ว: Soy Lecithin เหมาะที่สุดสำหรับสูตรที่วัฏภาคน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ (70-80%) เช่น ครีมเข้มข้น บาล์ม หรือโลชั่นที่มีน้ำมันเป็นหลัก คุณจะต้องปรับสูตรให้มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงกว่าสูตรที่คุณลองทำอย่างมาก เพื่อให้ Soy Lecithin ทำงานเป็นสารประสานหลักได้อย่างถูกต้องค่ะ ทีมงานกล่าวว่าสามารถเติมในขั้นตอนสุดท้ายและปั่นให้เข้ากันได้สำหรับสูตรที่เหมาะสมค่ะ

  • Soy Lecithin ใช้ในสูตรกันแดดได้ไหมคะ: ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ Soy Lecithin ต้องการวัฏภาคน้ำมันที่สูงมาก (70-80%) เพื่อประสานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูตรกันแดดมักจะมีวัฏภาคน้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นโลชั่นหรือครีม ดังนั้น Soy Lecithin โดยทั่วไปจึงไม่เหมาะที่จะเป็นสารประสานหลักสำหรับครีม/โลชั่นกันแดดทั่วไปที่มีน้ำสูงค่ะ สำหรับสูตรกันแดดที่คุณให้มา (Water 62%, Zinc Oxide Liquid 10%, Titanium Dioxide Liquid 20%, Milk Lotion Maker 3%, LipidSoft 3%, Strawberry Flavor 2%) ทีมงานแนะนำ Milk Lotion Maker (3%) + Pro Polymer (0.5-1.0%) สำหรับการประสานและเพิ่มความข้นหนืด ซึ่งเหมาะสมสำหรับสูตรที่มีวัฏภาคน้ำจำนวนมากและมีสารกันแดดแบบ Physical ที่กระจายตัวอยู่ค่ะ

  • สามารถคนโดยไม่ใช้เครื่องปั่นได้ไหมคะ: ขั้นตอนการผสมที่ทีมงานให้มาสำหรับสูตรกันแดดเกี่ยวข้องกับการให้ความร้อนและการปั่นวัฏภาคน้ำมันและน้ำแยกกัน จากนั้นค่อยๆ เติมวัฏภาคน้ำลงในวัฏภาคน้ำมันขณะปั่นแรงๆ และปั่นต่อเนื่องขณะเย็นตัว กระบวนการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสารกันแดดแบบ Physical (Zinc Oxide, Titanium Dioxide) และสารประสานที่ต้องใช้ความร้อน มักจะต้องใช้เครื่องปั่น (เช่น เครื่อง Homogenizer หรือเครื่องปั่นความเร็วสูง) เพื่อให้แน่ใจว่าผงกระจายตัวได้ดีและเกิดอิมัลชันที่คงตัว การคนด้วยมือเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะทำให้ได้อิมัลชันกันแดดที่คงตัว เรียบเนียน และมีประสิทธิภาพค่ะ

สรุปคือ สูตรแรกของคุณไม่เหมาะสำหรับ Soy Lecithin เนื่องจากมีน้ำสูง Soy Lecithin เหมาะสำหรับสูตรที่มีน้ำมันสูง สำหรับสูตรครีมและกันแดดที่คุณเสนอซึ่งมีวัฏภาคน้ำจำนวนมาก สารประสานเช่น Milk Lotion Maker ซึ่งมักใช้ร่วมกับสารเพิ่มความข้นเช่น Pro Polymer จะเหมาะสมกว่าค่ะ กระบวนการผสมที่เกี่ยวข้องกับวัฏภาคน้ำมันและน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสารกันแดดแบบ Physical มักจะต้องใช้ความร้อนและการปั่นด้วยเครื่องมือค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Ultra Soft)
Shea Butter (Ultra Soft)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Soy Lecithin (Natural Emulsifier)
Soy Lecithin (Natural Emulsifier)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide 15nm Liquid (Gloss)
Titanium Dioxide 15nm Liquid (Gloss)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 35nm Liquid
Zinc Oxide 35nm Liquid
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Silicone Quick-Cond (PEG-12 Dimethicone)
Silicone Quick-Cond (PEG-12 Dimethicone)
เครื่องสำอาง
Milk Lotion Maker™
Milk Lotion Maker™
เครื่องสำอาง
Yeast Radiance™
Yeast Radiance™
เครื่องสำอาง
AnyGel™
AnyGel™
เครื่องสำอาง