การใส่ผงไมก้าทองคำในสูตรครีมกันแดด/บีบีครีมแบบ Water-in-Oil

ปัญหาที่คุณพบเป็นเรื่องปกติเมื่อเติมผงไมก้าลงในอิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O) โดยเฉพาะสูตรที่มีเม็ดสีขาว เช่น Titanium Dioxide หรือ Zinc Oxide ในระบบ Water-in-Oil เฟสน้ำจะกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมันที่เป็นเฟสภายนอก ผงไมก้าซึ่งโดยทั่วไปละลายน้ำได้ดี มักจะถูกกักเก็บไว้ในหยดน้ำเล็กๆ ที่อยู่ภายในเฟสน้ำมัน

ส่วนเม็ดสีกันแดด เช่น Titanium Dioxide และ Zinc Oxide โดยเฉพาะชนิดที่ผ่านการเคลือบเพื่อใช้ในสูตรน้ำมันหรือ W/O จะกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมันที่เป็นเฟสภายนอก เมื่อทาผลิตภัณฑ์ลงบนผิว เฟสน้ำมัน (ซึ่งมีเม็ดสีกันแดดสีขาวอยู่) จะเคลือบผิว ทำให้มองไม่เห็นหยดน้ำและผงไมก้าที่ถูกกักอยู่ภายใน นั่นคือเหตุผลที่สีทองดูจางหรือไม่ปรากฏสีออกมาเลย

เพื่อให้ผงไมก้าทองคำมองเห็นได้และให้ประกายแวววาวตามที่ต้องการ คุณต้องแน่ใจว่าผงไมก้ากระจายตัวอยู่ใน เฟสน้ำมัน ของสูตร ควบคู่ไปกับเม็ดสีกันแดด

วิธีแก้ไขมีดังนี้:

1. ใส่ผงไมก้าในเฟสน้ำมัน: แทนที่จะใส่ผงไมก้าทองคำในเฟสน้ำ ให้ผสมผงไมก้าเข้ากับเฟสน้ำมันโดยตรง ผงไมก้า เช่น Bright Gold Mica สามารถกระจายตัวได้ดีในน้ำมันและซิลิโคน ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์
2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระจายตัวได้ดี: ก่อนที่จะนำเฟสน้ำมันและเฟสน้ำมาผสมกันเพื่อทำอิมัลชัน (โดยใช้อิมัลซิไฟเออร์ เช่น Water-in-Oil EZ™ หรือ Water-in-Oil Max™) ต้องแน่ใจว่าผงไมก้าทองคำกระจายตัวอย่างทั่วถึงในเฟสน้ำมัน คุณอาจต้องใช้เครื่องผสมหรือเครื่องบดในเฟสน้ำมันที่มีผงไมก้าและเม็ดสีกันแดดเพื่อให้ได้เนื้อที่สม่ำเสมอ
3. พิจารณาขนาดอนุภาคของไมก้า: ขนาดอนุภาคของไมก้ามีผลต่อความเข้มของประกาย ยิ่งอนุภาคใหญ่ (เช่น ขนาด B หรือ D) จะให้ประกายที่ชัดเจนกว่าอนุภาคเล็ก (ขนาด A)

การกระจายผงไมก้าทองคำในเฟสน้ำมัน จะทำให้ผงไมก้าอยู่บนพื้นผิวของหยดอิมัลชันและสัมผัสกับผิวโดยตรงเมื่อทา ทำให้มองเห็นประกายสีทองควบคู่ไปกับเนื้อสีขาวของกันแดดได้ชัดเจนขึ้น แม้ว่าเม็ดสีขาวอาจจะยังส่งผลต่อลักษณะที่ปรากฏเล็กน้อย แต่วิธีนี้จะช่วยให้มองเห็นสีทองได้ดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับการใส่ในเฟสน้ำ