ขั้นตอนการผสมและปรับค่า pH ในสูตรสกินแคร์
คำถาม
รบกวนช่วยตรวจสอบสูตรสกินแคร์และขั้นตอนการผสมที่เสนอมาด้วยครับ/ค่ะ สูตรประกอบด้วย:
- Vitamin B3 5%
- Glucosamine 4%
- Hydrolyzed collagen 3%
- Phenoxyethanol 1%
- Xanthan Gum 1%
- Oligo GGF (ละลายน้ำได้ดี)
- DMAE Bitartrate (มีฤทธิ์เป็นกรด)
อยากทราบว่าขั้นตอนการผสมถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะการพิจารณาคุณสมบัติของ Oligo GGF และ DMAE Bitartrate
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรและขั้นตอนการผสม
จากสูตรและขั้นตอนการผสมที่คุณให้มา รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมจากการพูดคุยในกระทู้ ขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ
ส่วนประกอบในสูตร
ส่วนประกอบที่คุณใช้ ได้แก่ Vitamin B3, Glucosamine, Hydrolyzed collagen, Phenoxyethanol และ Xanthan Gum เป็นส่วนประกอบที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและมีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้นได้ดี โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้:
- Vitamin B3 (Niacinamide): ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดง เพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ปริมาณ 5% ที่ใช้เป็นปริมาณที่แนะนำและมีประสิทธิภาพ
- Glucosamine (Acetyl Glucosamine): เมื่อใช้ร่วมกับ Vitamin B3 จะช่วยเสริมประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยได้ ปริมาณ 4% ที่ใช้เหมาะสมเมื่อใช้คู่กับ Vitamin B3 5%
- Hydrolyzed collagen: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ปริมาณ 3% เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสูตรนี้
- Phenoxyethanol: เป็นสารกันเสียที่ปลอดภัยและนิยมใช้ในเครื่องสำอาง ปริมาณ 1% อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำสำหรับการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสูตรน้ำ ควรเลือกใช้ชนิดที่เป็น Broad Spectrum หากต้องการครอบคลุมเชื้อราได้ดีขึ้น
- Xanthan Gum: เป็นสารเพิ่มความหนืดที่ช่วยให้เนื้อสูตรมีความคงตัว ปริมาณ 1% จะช่วยให้ได้เนื้อเจลที่เหมาะสม
สำหรับ Oligo GGF และ DMAE Bitartrate ไม่พบข้อมูลในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเรา แต่จากข้อมูลที่คุณให้มา Oligo GGF ละลายน้ำได้ดี ส่วน DMAE Bitartrate มีความเป็นกรด ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาในขั้นตอนการผสม
ขั้นตอนการผสม
ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอมานั้นถูกต้องในแง่ของการละลายส่วนประกอบส่วนใหญ่ในน้ำ แต่มีจุดสำคัญที่ต้องปรับปรุงคือ การปรับค่า pH เนื่องจาก DMAE Bitartrate มีความเป็นกรด การเติมลงในสูตรจะทำให้ค่า pH ของสูตรลดลง ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับผิวและประสิทธิภาพของส่วนประกอบบางชนิด (เช่น Vitamin B3 และ Glucosamine มีช่วง pH ที่เหมาะสม)
ขั้นตอนการผสมที่แนะนำมีดังนี้:
- ในบีกเกอร์/ภาชนะที่สะอาด ค่อยๆ เติม Vitamin B3, Glucosamine, Oligo GGF, และ DMAE Bitartrate ลงใน น้ำกลั่น คนหรือใช้เครื่องปั่นผสมจนส่วนประกอบทั้งหมดละลายเข้ากันดี
- ค่อยๆ โปรย Xanthan Gum ลงในสารละลายน้ำที่กำลังคน/ปั่นอย่างต่อเนื่อง (อาจผสม Xanthan Gum กับ Glycerin เล็กน้อยก่อนเติมลงน้ำเพื่อช่วยให้กระจายตัวได้ดีขึ้นและไม่จับตัวเป็นก้อน) คน/ปั่นต่อไปจน Xanthan Gum ละลายและขึ้นเนื้อเจลเนียนเข้ากันดี
- เติม Hydrolyzed collagen ลงไป คนจนเข้ากัน
- วัดค่า pH ของสูตรที่ได้ หากค่า pH ต่ำกว่าช่วงที่เหมาะสม (โดยทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวควรอยู่ในช่วง 4.0-7.0 และควรพิจารณาช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดของส่วนประกอบแต่ละตัวร่วมด้วย) ให้ค่อยๆ เติมสารปรับค่า pH ที่เป็นด่าง (เช่น Triethanolamine หรือสารละลาย Sodium Hydroxide ความเข้มข้นต่ำ) ทีละน้อย คนให้เข้ากัน แล้ววัดค่า pH ซ้ำ จนกว่าจะได้ค่า pH ที่ต้องการ
- เติม Phenoxyethanol ลงไป คนให้เข้ากันเป็นขั้นตอนสุดท้าย
- พักเนื้อเจลที่ได้ทิ้งไว้สักครู่ (อาจจะ 2-3 ชั่วโมง) เพื่อให้ Xanthan Gum Hydrate เต็มที่และเนื้อเจลมีความใสสม่ำเสมอ
การแช่เย็นหลังผสมเสร็จสามารถทำได้เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ขั้นตอนการแช่เย็นระหว่างผสม (ตามขั้นตอนเดิมข้อ 2 และ 3) อาจไม่จำเป็นสำหรับการละลายส่วนประกอบเหล่านี้
โดยสรุป สูตรที่คุณปรับปรุงมามีส่วนประกอบที่ดีสำหรับการบำรุงผิว แต่ขั้นตอนการผสมจำเป็นต้องมีการปรับค่า pH เพื่อให้สูตรมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อผิวครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Chlorphenesin / Phenoxyethanol (Microcare PHC eq.)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อธรรมดา, 200 Mesh)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)

Collagen HP

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อธรรมดา, กระจายตัวง่าย)

Phenoxyethanol P5

Egg Shell Membrane Collagen

HRC-4000™ (Human Type III Recombinant Collagen)
