ข้อเท็จจริงเรื่องแว็กซ์ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและลิปสติก และการทดสอบความไวของผิว

ถามโดย: donotgiveup12345601 เมื่อ: April 01, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

# คำถามเกี่ยวกับแว็กซ์และการทดสอบความไวของผิว

ฉันมีคำถามสองสามข้อเกี่ยวกับแว็กซ์และการทดสอบผิวค่ะ:

1. จริงหรือไม่ที่ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเคลือบด้วยแว็กซ์ที่สามารถละลายและสะสมในร่างกายได้?
2. แว็กซ์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทาปาก เช่น ลิปสติกและลิปบาล์ม เป็นอันตรายหรือไม่หากกลืนเข้าไป และมันจะสะสมในกระเพาะอาหารจนต้องผ่าตัดนำออกหรือไม่?
3. ฉันควรทดสอบความไวของผิวหรือการแพ้ต่อส่วนผสมอย่างไรก่อนนำไปใช้ในสูตร? ฉันวางแผนจะทดสอบความเข้มข้น 1% ของส่วนผสม เช่น สารสกัดชะเอมเทศ
4. เมื่อทำการทดสอบแบบ Patch Test ควรหลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่ทดสอบหรือไม่?

คำตอบ

คำชี้แจงเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและแว็กซ์ และการทดสอบความไวของผิว

มาตอบคำถามของคุณเกี่ยวกับแว็กซ์ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ทาปาก รวมถึงวิธีการทดสอบความไวของผิวกันค่ะ

ข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและแว็กซ์

ข้อกล่าวอ้างที่ว่าถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเคลือบด้วยแว็กซ์ที่ละลายและสะสมในร่างกายนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด ถ้วยกระดาษที่ออกแบบมาสำหรับอาหารร้อนมักจะเคลือบด้วยพลาสติกเกรดอาหาร (เช่น โพลีเอทิลีน) ซึ่งสามารถทนความร้อนสูงได้โดยไม่ละลายหรือปล่อยสารอันตรายออกมา ส่วนเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเองมักจะผ่านการทอดในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้มีเนื้อสัมผัสและช่วยในการถนอมอาหาร ไม่ได้เคลือบด้วยแว็กซ์ที่ย่อยไม่ได้

สำหรับเรื่องแว็กซ์เคลือบผนังกระเพาะอาหารนั้นก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน ระบบย่อยอาหารของมนุษย์สามารถย่อยไขมันและน้ำมันได้ แม้ว่าแว็กซ์จะมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับไขมัน แต่ความสามารถในการย่อยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของแว็กซ์ แว็กซ์หลายชนิดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเป็นเกรดอาหารและถือว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภค ซึ่งจะถูกย่อยและดูดซึมบางส่วน หรือผ่านระบบย่อยอาหารไปโดยไม่ถูกดูดซึม คล้ายกับใยอาหาร และจะถูกขับออกจากร่างกายไป

แว็กซ์เกรดอาหาร เช่น ขี้ผึ้งบางชนิด หรือ Carnauba Wax ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เคลือบลูกอมหรือผลไม้เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นหรือปรับปรุงรูปลักษณ์ การใช้งานเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย

แว็กซ์ในผลิตภัณฑ์ทาปาก

ผลิตภัณฑ์ทาปาก เช่น ลิปสติกและลิปบาล์ม มักมีส่วนประกอบของแว็กซ์ เช่น ขี้ผึ้ง (Beeswax), Carnauba Wax, Tribehenin, Sunflower Wax และ Microcrystalline Wax แว็กซ์เหล่านี้มีความสำคัญในการให้โครงสร้าง เนื้อสัมผัส ความคงตัว และช่วยให้ผลิตภัณฑ์ติดทนบนริมฝีปาก แม้ว่าคุณจะกลืนผลิตภัณฑ์ทาปากเข้าไปในปริมาณเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป แต่แว็กซ์ที่ใช้ในสูตรเหล่านี้โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการสัมผัสโดยบังเอิญนี้ แว็กซ์เกรดเครื่องสำอางหลายชนิดก็ใช้ในอาหารได้เช่นกัน หรือมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับสารเกรดอาหาร ร่างกายไม่ได้สะสมแว็กซ์เหล่านี้ในลักษณะที่เป็นอันตรายและไม่จำเป็นต้องผ่าตัดนำออกจากกระเพาะอาหาร

การทดสอบความไวของผิว (การระคายเคือง vs. การแพ้)

เป็นสิ่งที่ดีที่คุณคิดจะทดสอบปฏิกิริยาของผิวก่อนนำส่วนผสมไปใช้ในสูตรของคุณ มีความแตกต่างระหว่างการระคายเคืองและการแพ้:

  • การระคายเคือง (Irritation): เป็นปฏิกิริยาโดยตรงที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันต่อสารที่ทำลายผิว มักทำให้เกิดรอยแดง แสบร้อน หรือคันหลังจากสัมผัสไม่นาน ส่วนผสมบางชนิดเป็นที่ทราบกันดีว่าก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูง และศักยภาพในการระคายเคืองมักจะคาดการณ์ได้
  • การแพ้ (Allergy / Contact Dermatitis): เป็นปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันที่ร่างกายของคุณตอบสนองต่อสารที่มองว่าเป็นภัยคุกคาม อาจทำให้เกิดรอยแดง คัน บวม ผื่น หรือตุ่มน้ำ การแพ้เป็นปฏิกิริยาเฉพาะบุคคลและอาจเกิดขึ้นได้แม้ที่ความเข้มข้นต่ำมากหลังจากที่ระบบภูมิคุ้มกันของคุณมีความไวต่อส่วนผสมนั้นแล้ว บางครั้งปฏิกิริยาอาจล่าช้าไป 24-48 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น

สำหรับการทดสอบที่บ้าน คุณกำลังทดสอบปฏิกิริยาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นหรือความไวโดยรวมต่อสูตรเฉพาะของคุณ หรือต่อส่วนผสมที่มีความเข้มข้นสูง วิธีที่คุณอธิบายมานั้นเหมาะสมสำหรับการทำ Patch Test:

  1. เตรียมส่วนผสมที่ความเข้มข้นที่คุณวางแผนจะใช้ในสูตรสุดท้ายของคุณ หากเป็นส่วนผสมเดี่ยว คุณสามารถผสมกับเบสที่เป็นกลาง เช่น น้ำ หรือครีมเบสธรรมดาหากไม่ละลายน้ำ ในเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ (เช่น สารสกัดชะเอมเทศ 1% ในน้ำหรือครีมเบส)
  2. ทาส่วนผสมเล็กน้อยลงบนบริเวณผิวที่ไม่เด่นและมีความบอบบาง เช่น ข้อพับแขนด้านใน หรือหลังใบหู
  3. สังเกตบริเวณดังกล่าวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าปฏิกิริยาบางอย่างอาจปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปฏิกิริยาการแพ้แบบล่าช้าอาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง หรือนานถึง 7 วันจึงจะแสดงอาการ ขอแนะนำให้สังเกตบริเวณดังกล่าวอย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือนานถึง 7 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทดสอบส่วนผสมใหม่หรือที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้
  4. ห้ามเกาบริเวณที่ทดสอบ การเกาอาจทำให้เกิดการระคายเคืองทางกายภาพ ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นปฏิกิริยาต่อสาร หรืออาจทำให้อาการแพ้เล็กน้อยแย่ลง ทำให้ยากต่อการตีความผลลัพธ์

หากคุณพบรอยแดง คัน บวม หรือผื่นในบริเวณที่ทดสอบ แสดงว่าอาจมีความไวหรือแพ้ต่อส่วนผสมหรือส่วนผสมนั้นๆ และคุณควรหลีกเลี่ยงการใช้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Tribehenin (Soft Wax, USA)
Tribehenin (Soft Wax, USA)
เครื่องสำอาง
Sunflower Wax
Sunflower Wax
เครื่องสำอาง
Yellow Beeswax
Yellow Beeswax
เครื่องสำอาง
Yellow Beeswax (Food Grade, Melting Point 62-67C)
Yellow Beeswax (Food Grade, Melting Point 62-67C)
เครื่องสำอาง
Microcrystalline Wax (Melting Point 86C, Medium)
Microcrystalline Wax (Melting Point 86C, Medium)
เครื่องสำอาง
Microcrystalline Wax (Melting Point 78C, Soft)
Microcrystalline Wax (Melting Point 78C, Soft)
เครื่องสำอาง
Microcrystalline Wax (Melting Point 73C, Very Soft)
Microcrystalline Wax (Melting Point 73C, Very Soft)
เครื่องสำอาง
Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract)
Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract)
เครื่องสำอาง