ครีมสั่งทำสำหรับผิวผสม (แก้มแห้ง, T-zone มัน) และลำดับการใช้
คำถาม
ต้องการสั่งทำครีม ready to use โดยใช้ Aloe Vera Jel เป็นเบส และมีส่วนผสมดังนี้ค่ะ:
- Glucosamine
- Vit B3
- Vit B5
- Centella Asiatica
- Sea Kelp
- Allantoin
- Phenoxyethanol
สูตรนี้จะเหมาะสมกับสภาพผิวผสมของดิฉันไหมคะ ที่บริเวณโหนกแก้มแห้งเป็นขุยมาก แต่ T-zone มัน มีรูขุมขนอุดตันและรอยแดงค่ะ และควรใช้ครีมนี้ในลำดับใดคะ หากปัจจุบันใช้ Differin + BHA อยู่แล้ว?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ รับทราบข้อมูลและสูตรที่คุณลูกค้าต้องการสั่งทำครีม ready to use แล้วนะคะ
สำหรับสูตรที่คุณลูกค้าให้มา โดยใช้ Aloe Vera Jel เป็นเบส และมีส่วนผสมของ Glucosamine, Vit B3, Vit B5, Centella Asiatica, Sea Kelp, Allantoin และ Phenoxyethanol นั้น ดูเป็นสูตรที่น่าสนใจและเหมาะสมกับสภาพผิวแบบผสมของคุณลูกค้าค่ะ
ส่วนผสมต่างๆ ในสูตรนี้มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวหลายด้าน เช่น:
- Vit B3 (Niacinamide): ช่วยควบคุมความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และช่วยให้รอยแดงดูจางลงได้
- Vit B5 (Panthenol): ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยปลอบประโลม และเสริมการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
- Centella Asiatica (สารสกัดใบบัวบก): ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน
- Glucosamine, Sea Kelp, Allantoin: ช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้น การปลอบประโลม และบำรุงผิวโดยรวม
สูตรนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และช่วยดูแลเรื่องรูขุมขนและความมันในบริเวณ T-zone ได้ดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม เหมือนที่คุณเจ้าหน้าที่ท่านก่อนหน้านี้ได้แจ้งไว้ สิ่งที่อาจจะต้องสังเกตคือเรื่องความชุ่มชื้นสำหรับบริเวณโหนกแก้มที่แห้งเป็นขุยมากนะคะ แม้ว่าส่วนผสมหลายตัวในสูตรจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้น แต่เบส Aloe Vera Jel อาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกเคลือบผิวหรือกักเก็บความชุ่มชื้นได้เท่าเบสครีมทั่วไป หากใช้แล้วยังรู้สึกว่าบริเวณที่แห้งยังคงแห้งอยู่ อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้น หรือเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำในภายหลังได้ค่ะ
ลำดับการใช้ สามารถใช้ครีมสูตรนี้หลังจากลง Differin + BHA ได้เลยค่ะ
ลองใช้สูตรนี้ดูดูก่อนนะคะ แล้วสังเกตผลลัพธ์บนผิว หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้เลยค่ะ