ครีมแยกชั้นและสีเปลี่ยนหลังเติมวิตามินซี
คำถาม
ได้ซื้อเซตทำครีมลดริ้วรอยทาหน้า ในสูตรมีส่วนประกอบของซิลิโคนอ่อนๆ (Tween 60, 80, 85), เบสครีม, สารกันเสีย, Hyaluronic Acid, pancratium maritimum extract และอิมัลชันอีกหลายตัว
ครั้งแรกได้ซื้อสารป้องกันริ้วรอยเติมไปตามสัดส่วน ครีมปกติดีในอุณหภูมิห้อง
ครั้งที่สอง ได้ซื้อสารสกัดไปเติมอีกหลายตัว คือ:
- วิตามินซี ชนิดอัลตร้าไฟน์ (L-Ascorbic Acid)
- สารสกัดเมือกหอยทาก
- สารป้องกันริ้วรอย
- สารสกัดอโรเวร่า
ใส่ตามสัดส่วนที่แนะนำ ปรากฏว่าเมื่อวางไว้ที่อุณหภูมิปกติ 1 กระปุกมีการแยกชั้นของครีมเป็นน้ำลอยกับเนื้อครีม และเนื้อครีมสีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ อมส้ม ส่วนอีกกระปุกเก็บในตู้เย็นสีปกติ แต่ถ้าแบ่งมาเก็บในอุณหภูมิห้อง ก็แยกชั้นและสีเปลี่ยนเช่นกัน
ไม่ทราบว่าเกิดจากสารเคมีตัวไหนที่เติมลงไป เพราะไปเติมเพิ่มหลายตัวตามที่เขียนมาข้างต้นค่ะ
คำตอบ
จากส่วนผสมที่คุณได้เติมเข้าไปในรอบที่สอง สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ทำให้ครีมของคุณแยกชั้นและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ อมส้ม คือ วิตามินซี (L-Ascorbic Acid)
เหตุผลคือ:
- ความไม่เสถียรของ L-Ascorbic Acid: L-Ascorbic Acid เป็นที่ทราบกันดีว่าไม่เสถียร โดยเฉพาะในสูตรที่เป็นเบสน้ำ และเมื่อสัมผัสกับความร้อน แสง และอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ง่าย
- ผลิตภัณฑ์จากการออกซิเดชัน: เมื่อ L-Ascorbic Acid เกิดการออกซิเดชัน จะสลายตัวเป็นสารประกอบที่มีสีเหลืองหรือสีน้ำตาล ซึ่งตรงกับสีที่เปลี่ยนไปที่คุณสังเกตเห็น
- ความเสถียรของสูตร: การเสื่อมสลายของวิตามินซีสามารถรบกวนระบบอิมัลชันของครีมได้ ทำให้เกิดการแยกชั้น (ส่วนที่เป็นน้ำแยกออกจากส่วนที่เป็นเนื้อครีม/น้ำมัน)
- ความไวต่ออุณหภูมิ: การที่ครีมที่เก็บในตู้เย็นยังคงปกติ ในขณะที่ครีมที่วางไว้ในอุณหภูมิห้องเกิดการแยกชั้นและเปลี่ยนสี เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนเป็นสาเหตุ การออกซิเดชันของวิตามินซีจะเร่งขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสมอื่นๆ จะมีอยู่เสมอ แต่วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) เป็นส่วนผสมที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดปัญหาเฉพาะเหล่านี้ (สีเปลี่ยนและการแยกชั้น) ภายใต้สภาวะดังกล่าว สารสกัดเมือกหอยทาก สารป้องกันริ้วรอย และสารสกัดอโรเวร่า โดยทั่วไปแล้วมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความไม่เสถียรและการเปลี่ยนสีที่รุนแรงน้อยกว่าด้วยตัวมันเอง แม้ว่าอาจมีผลต่ออัตราการเสื่อมสลายของวิตามินซี หรือส่งผลต่อความเสถียรของอิมัลชันโดยรวมเมื่อใช้ร่วมกันก็ตาม
ดังนั้น การเติมวิตามินซี (L-Ascorbic Acid) จึงเป็นผู้ต้องสงสัยหลักสำหรับปัญหาที่คุณพบค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
