ความคงตัวของน้ำดอกไม้ในสูตรเครื่องสำอาง
คำถาม
น้ำดอกไม้ เช่น Lavender Water, Rose Water, Camomile Water และอื่นๆ สามารถทนความร้อนได้กี่องศาและในระยะเวลาสูงสุดเท่าไหร่คะ และเรื่องของค่า pH มีผลต่อสูตรเมื่อใช้น้ำดอกไม้เหล่านี้หรือไม่คะ
คำตอบ
ความคงตัวของน้ำดอกไม้ (ลาเวนเดอร์, กุหลาบ, คาโมมายล์)
น้ำดอกไม้ เช่น น้ำลาเวนเดอร์ (Lavender Water), น้ำกุหลาบ (Rose Water), และน้ำคาโมมายล์ (Chamomile Water) ผลิตโดยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความร้อนในกระบวนการสกัด อย่างไรก็ตาม เมื่อนำน้ำดอกไม้เหล่านี้ไปใช้ในสูตรเครื่องสำอาง โดยทั่วไปแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน เพื่อรักษาสารระเหยที่ละเอียดอ่อน (ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องกลิ่นและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์) และประสิทธิภาพของสารกันเสียที่เติมเข้าไป
การทนความร้อน:
แม้ว่าอุณหภูมิสูงสุดและระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และสูตรเฉพาะ แต่คำแนะนำทั่วไปคือให้เติมน้ำดอกไม้ในช่วงที่สูตรเย็นตัวลง โดยปกติเมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 40-45°C ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการต้ม
ค่า pH:
น้ำดอกไม้โดยธรรมชาติมีค่า pH เป็นกรดเล็กน้อย ค่า pH ของสูตรสำเร็จรูปของคุณอาจส่งผลต่อความคงตัวของน้ำดอกไม้และประสิทธิภาพของสารกันเสีย (ที่นิยมใช้คือ Phenoxyethanol) Phenoxyethanol โดยทั่วไปมีประสิทธิภาพในช่วง pH 3 ถึง 8 แต่จะเหมาะสมที่สุดในสภาวะที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงกลาง การรักษาค่า pH ให้อยู่ในช่วงนี้ (เช่น 4.5-6.5) มักจะเหมาะสมสำหรับสูตรที่มีน้ำดอกไม้เหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจในความคงตัวและการป้องกันการเสื่อมสภาพที่เหมาะสม ค่า pH ที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้ส่วนประกอบของน้ำดอกไม้เสื่อมสภาพได้
สรุปคือ ควรเติมน้ำดอกไม้ในช่วงที่สูตรเย็นตัวลง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายเข้ากันได้กับน้ำดอกไม้และสารกันเสีย เพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุด
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Rose Water (Rosa Damascena)

Lavender Water (Lavandula Angustifolia)

Chamomile Water (Anthemis Nobilis)

Rose Petal Water
