ความปลอดภัยของส่วนผสมสกินแคร์สำหรับฝ้า ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร
คำถาม
รบกวนช่วยดูสารแต่ละตัวหน่อยคะ ว่าคนท้องหรือให้นมบุตรใช้ได้ไหม
ผิวมีฝ้าจากฮอร์โมนหลังน้องคนแรกเกิด หลังจากนั้นได้ใช้ส่วนประกอบพวกนี้เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ท้องคนที่ 2 แล้ว เลยอยากรู้ว่าสามารถใช้ต่อได้ไหม
ที่แน่ๆ พวกตระกูลวิตามิน A เรตินอล ห้ามใช้ใช่ไหมคะ
ที่ใช้อยู่:
- Glycolic Acid (AHA) 100% Powder (ใช้ทำโทนเนอร์เช็ดหน้าใช้แค่ 5%)
- D-Alpha Tocopherol natural Vitamin E
- Ferulic Acid
- Panthenol
- Hyaluronic Acid
- L-ascorbic acid
- Trans-Resveratrol (poder,98%)
- Aloe Vera Extract
- Protec SQ
- Safe-B3
- Dimethyl Isosorbide (DMI)
- Odor-Kill
- Repair Activator
- beta glucan
- DMAE
แล้วอย่างพวกตัวทำละลาย ตัวประสาน ทำให้สัมผัสดี ห้ามใช้ไหมคะ
- Ethoxydiglycol
- Laureth-23
- Triethanolamine
ที่แน่ๆ พวกตระกูลวิตามินเอ เรตินอล ห้ามใช้ใช่ไหมคะ เพราะมันซึมเข้าผิวใช่ไหม ไม่แน่ใจในหลักการนะคะ
แล้วมีตัวไหนห้ามอีกคะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบคะ
คำตอบ
ส่วนผสมในสกินแคร์ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร
เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณได้ตรวจสอบส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณอีกครั้งเมื่อทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ คุณเข้าใจถูกต้องแล้วว่าอนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น เรตินอล และเรตินอยด์อื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้
นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมที่คุณใช้อยู่และความปลอดภัยโดยทั่วไปสำหรับการใช้ภายนอกในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร โปรดทราบว่านี่เป็นข้อมูลทั่วไป และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของคุณโดยเฉพาะ
ส่วนผสมที่โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก:
ส่วนผสมหลายชนิดในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอกระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมีน้อย จากรายการส่วนผสมที่คุณระบุและแนวทางทั่วไป ส่วนผสมต่อไปนี้มักถือว่าปลอดภัย:
- Glycolic Acid (AHA): การใช้ที่ความเข้มข้น 5% ในโทนเนอร์ ถือเป็นความเข้มข้นที่ค่อนข้างต่ำสำหรับ AHA แม้ว่าควรหลีกเลี่ยงความเข้มข้นสูงที่ใช้ในการทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว แต่การใช้ภายนอกที่ความเข้มข้นต่ำมักถือว่ายอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางท่านยังคงแนะนำให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้
- Vitamin E (D-Alpha Tocopherol และ Tocopheryl Acetate): วิตามินอีทั้งสองรูปแบบนี้โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
- Ferulic Acid: สารต้านอนุมูลอิสระนี้โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
- Panthenol (Vitamin B5): แพนทีนอลถือว่าปลอดภัยและเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- Hyaluronic Acid: เป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวชั้นนอกเป็นหลัก Hyaluronic Acid ถือว่าปลอดภัยมาก
- L-ascorbic acid (Vitamin C): วิตามินซีสำหรับการใช้ภายนอกโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยและมีประโยชน์ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- Trans-Resveratrol: สารต้านอนุมูลอิสระนี้โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
- Aloe Vera Extract: สารสกัดจากว่านหางจระเข้เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติปลอบประโลมผิว และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย
- Safe-B3 (Niacinamide/Vitamin B3): Niacinamide ถือว่าปลอดภัยและมักถูกแนะนำให้ใช้เป็นทางเลือกแทนเรตินอยด์ในการจัดการปัญหาฝ้าและรอยดำ
- Beta Glucan: ส่วนผสมนี้เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและเสริมสร้างผิว และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย
- Repair Activator (Bifida Ferment Lysate): ส่วนผสมที่ได้จากการหมักของแบคทีเรีย เช่น Bifida Ferment Lysate โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
ส่วนผสมที่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังหรือปรึกษาแพทย์:
- DMAE: แม้ว่าจะใช้เพื่อช่วยให้ผิวกระชับขึ้น แต่ยังมีข้อมูลด้านความปลอดภัยสำหรับการใช้ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรน้อยกว่าส่วนผสมอื่นๆ นอกจากนี้ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ยังระบุว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ที่ความเข้มข้นสูง จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ต่อเนื่อง
- Protec SQ (Ethylhexyl Methoxycrylene): ส่วนผสมนี้เป็นสารช่วยคงตัวของสารกันแดด (UV stabilizer) แม้จะถือว่าปลอดภัยในเครื่องสำอางโดยทั่วไป แต่ก็มีข้อมูลเฉพาะสำหรับการใช้ในระหว่างตั้งครรภ์น้อยกว่าส่วนผสมเก่าๆ ที่มีการใช้มานาน การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งที่ควรทำ
สารทำละลาย สารประสาน และสารปรับเนื้อสัมผัส:
คุณยังได้สอบถามเกี่ยวกับส่วนผสม เช่น สารทำละลาย สารประสาน และสารปรับเนื้อสัมผัส:
- Dimethyl Isosorbide (DMI) และ Ethoxydiglycol: เป็นสารทำละลายและสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว การใช้ที่ความเข้มข้นปกติในเครื่องสำอางและอยู่ภายใต้ข้อกำหนด ถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก ข้อควรพิจารณาหลักคือความปลอดภัยของ สารออกฤทธิ์ ที่สารเหล่านี้ช่วยนำพาเข้าสู่ผิว เนื่องจากสารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ของคุณโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย การใช้สารช่วยนำพาเหล่านี้ในปริมาณที่แนะนำจึงมักยอมรับได้ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้กล่าวถึงข้อกำหนดการใช้จาก อย. ซึ่งควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- Laureth-23: เป็นสารประสาน (emulsifier) สารประสานเป็นส่วนผสมทั่วไปในเครื่องสำอางและโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
- Triethanolamine: ใช้เป็นสารปรับค่า pH โดยทั่วไปใช้ในความเข้มข้นต่ำ การใช้ภายในข้อกำหนด (รายละเอียดผลิตภัณฑ์ระบุว่าไม่เกิน 2.5%) โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอกในเครื่องสำอาง
- Odor-Kill: เป็นส่วนผสมที่ช่วยดูดซับกลิ่น โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอก
โดยสรุป ส่วนผสมหลายชนิดที่คุณใช้อยู่มีแนวโน้มที่จะปลอดภัยสำหรับการใช้ภายนอกระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงเรตินอยด์ และปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลของคุณเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Glycolic Acid, DMAE และ Protec SQ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อกังวลอื่นๆ ที่คุณอาจมี แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องที่สุดตามประวัติสุขภาพส่วนบุคคลของคุณได้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Pure-Ferulic Acid™

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Triethanolamine 99%

Laureth-23

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)

Double Hyaluron Liquid

DMAE (SkinTight MD™) Liquid

Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)

Trans-Resveratrol (Powder, 98%)

Protec™ SQ

Odor-Kill™
