ความเข้มข้นของสารกันเสียในครีมรอบดวงตา
คำถาม
ต้องการลดปริมาณสารกันเสียในสูตรครีมรอบดวงตา สามารถลดลงเหลือ 0.5-0.75% แทนที่จะใช้ 1-1.5% ตามปกติสำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตาได้หรือไม่? มีปัจจัยใดบ้างที่ช่วยให้สามารถลดปริมาณสารกันเสียลงได้ในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดภัยจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผิวที่บอบบางรอบดวงตา? มีสารกันเสียหรือส่วนผสมเฉพาะ (เช่น กลุ่มไกลคอล เช่น Propylene Glycol, Ethoxydiglycol, หรือ Pentylene Glycol) ที่สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือไม่?
คำตอบ
การใช้สารกันเสียในครีมรอบดวงตา
การลดปริมาณสารกันเสียในครีมรอบดวงตาลงเหลือ 0.5-0.75% จากปกติที่ใช้ 1-1.5% ถือเป็นแนวทางที่ยอมรับได้ เนื่องจากผิวรอบดวงตามีความบอบบางมากและมีแนวโน้มที่จะเกิดการระคายเคืองได้ง่ายจากสารกันเสียในความเข้มข้นที่สูงกว่า
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สามารถลดความเข้มข้นของสารกันเสียลงได้ ในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดภัยจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ได้แก่:
- บรรจุภัณฑ์: การใช้บรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด เช่น ขวดปั๊มแบบ Airless Pump ช่วยลดโอกาสการปนเปื้อนจากเชื้อโรคได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับการใช้บรรจุภัณฑ์แบบกระปุกที่ต้องใช้นิ้วสัมผัสโดยตรง
- สารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย (Preservative Boosters): การเพิ่มส่วนผสมในกลุ่มไกลคอล เช่น Propylene Glycol, Ethoxydiglycol, หรือ Pentylene Glycol สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบสารกันเสีย ทำให้สามารถใช้สารกันเสียหลักในปริมาณที่น้อยลงได้
- การเลือกใช้สารกันเสียที่เหมาะสม: ควรเลือกใช้สารกันเสียที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับบริเวณที่บอบบางโดยเฉพาะ เช่น Eye Preserved™ (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB) ซึ่งเป็นสารกันเสียที่พัฒนาขึ้นสำหรับน้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ จึงมีความอ่อนโยนเพียงพอสำหรับผิวรอบดวงตา
แม้ว่าการลดปริมาณสารกันเสียจะเป็นประโยชน์ในการลดการระคายเคือง แต่สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่าสูตรตำรับยังคงได้รับการปกป้องจากการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ การทดสอบ Challenge Test เป็นสิ่งที่แนะนำเสมอเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของระบบสารกันเสียในสูตรตำรับและบรรจุภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Propylene Glycol

Eye Preserved™ (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB)
