ความเข้ากันได้ของส่วนผสมกับค่า pH ในสูตรครีมที่มีค่า pH ต่ำ
คำถาม
ดิฉันกำลังพัฒนาสูตรครีมที่ต้องการค่า pH ต่ำ (ไม่เกิน 3.5) เพื่อให้ AHA, BHA, หรือ วิตามิน C ที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิวออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จากความเข้าใจของดิฉัน:
- สารที่ละลายในน้ำมันหรืออยู่ในรูปน้ำมันไม่มีค่า pH ที่วัดได้ในทางปฏิบัติ และสามารถใส่ในสูตรที่มีค่า pH ใดก็ได้
- สารที่ละลายในน้ำส่วนใหญ่จะมีค่า pH ในตัวเองและมีช่วง pH ที่คงตัว (stable pH range)
ดิฉันสนใจใช้ส่วนผสมกลุ่ม Moisturizer ประมาณ 17 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่ละลายในน้ำ แต่ผู้ผลิตไม่ได้ระบุช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับการคงตัวไว้ ดิฉันกังวลว่าสารเหล่านี้จะสามารถใส่ลงในสูตรครีมที่มีค่า pH 3.5 ได้หรือไม่
นอกจากนี้ Hydro-Urea® (Hydroxyethyl Urea) เหมือนกับ Urea ธรรมดาหรือไม่
สุดท้าย ดิฉันเข้าใจว่าการทำเบสครีมที่เข้มข้นแบบ occlusive cream ให้คงตัวในค่า pH ต่ำเป็นเรื่องท้าทาย มีข้อควรพิจารณาอะไรบ้างในการรักษาความเสถียรของอิมัลชันและป้องกันการแยกชั้นในสูตรลักษณะนี้
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำถามและข้อมูลที่ละเอียดมากค่ะ เข้าใจเลยว่ากำลังให้ความสำคัญกับการเลือกส่วนผสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและมีความเสถียรนะคะ
ขออนุญาตยืนยันความเข้าใจเกี่ยวกับค่า pH ตามที่ทีมงานเคยแจ้งไปค่ะ
- สารที่ละลายในน้ำมัน (Oil-soluble) หรืออยู่ในรูปน้ำมัน: โดยทั่วไปแล้ว สารเหล่านี้จะไม่มีค่า pH ที่สามารถวัดได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากค่า pH เป็นการวัดความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออนในสารละลายน้ำ ดังนั้น ความเข้าใจที่ว่าสารกลุ่มนี้ไม่มีค่า pH และสามารถผสมในสูตรที่มี pH สูงหรือต่ำได้นั้น ถูกต้องค่ะ
- สารที่ละลายในน้ำ (Water-soluble): สารกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีค่า pH ในตัวเองและมีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับการคงตัว (stable pH range) ความเข้าใจนี้ ถูกต้องค่ะ หากสารละลายน้ำอยู่นอกช่วง pH ที่เหมาะสม อาจทำให้สารเสื่อมสภาพ ประสิทธิภาพลดลง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพได้
สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับสารกลุ่ม Moisturizer 17 รายการที่คุณลูกค้าสนใจ ซึ่งหลายตัวไม่ได้ระบุช่วง pH ที่เหมาะสมไว้:
ตามหลักการทั่วไปที่ทีมงานเคยแจ้งไว้ สำหรับสารที่ผู้ผลิตไม่ได้ระบุช่วง pH ที่เหมาะสมไว้โดยเฉพาะ ให้ใช้เกณฑ์ช่วง pH 3.5-7 เป็นช่วงมาตรฐานที่สารส่วนใหญ่สามารถคงตัวอยู่ได้ค่ะ
ดังนั้น สาร Moisturizer ทั้ง 17 รายการที่คุณลูกค้าสอบถามมา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุช่วง pH ไว้ (ยกเว้น Natural Moisturizing Amino Acids ที่ระบุ pH ของตัวสารเองคือ 6-7 แต่ไม่ได้ระบุช่วงที่คงตัว) ควรจะสามารถใช้ได้ในสูตรครีมที่มีค่า pH 3.5 ได้ค่ะ เนื่องจาก pH 3.5 ยังอยู่ในช่วงมาตรฐาน 3.5-7 อย่างไรก็ตาม หากต้องการปรับ pH ของสูตรให้ ต่ำกว่า 3.5 อาจจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตส่วนผสมแต่ละตัว หรือทำการทดสอบความคงตัวของสูตรด้วยตัวเองค่ะ
สำหรับคำถามที่ว่า Hydro-Urea® (Hydroxyethyl Urea) เหมือนกับ Urea ธรรมดาหรือไม่: Hydroxyethyl Urea เป็นอนุพันธ์ของ Urea ค่ะ มักถูกพัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ลดความเหนอะหนะ ให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นบนผิว หรือเพิ่มความคงตัวในบางสภาวะ แต่ทั้งสองตัวก็ยังคงมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นคล้ายคลึงกันค่ะ
สุดท้ายนี้ การพัฒนาสูตรครีมที่มีค่า pH ต่ำ โดยเฉพาะสูตรที่เข้มข้นแบบ occlusive cream อาจมีความท้าทายในการทำให้เนื้อครีมคงตัวและไม่แยกชั้นได้ค่ะ อาจต้องพิจารณาเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์และสารสร้างเนื้อที่เหมาะสมกับสภาวะที่เป็นกรดด้วยค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับคำชมเชยที่มอบให้กับทีมงาน MyskinRecipes ค่ะ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันความรู้และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของคุณลูกค้าค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ceramide Complex (CeraTouch™, Cream)

Sea Kelp Extract

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค

Sodium PCA 50%

Natural Betaine (Crystal)

TreMoisture™ (Trehalose)

Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)

Hydro Protein (Soy, Oat, Wheat, Maize Protein)

Goat Milk Powder (Preservative-Free)

Hydro Gel (Biosaccharide Gum-1)

HYDRO-UREA® Liquid

Creatine 100

Atopi-Telmesteine™

Hydrolyzed Milk (Casein) Protein

Water-Film™ (Galactoarabinan)
