ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและความเสถียรของ pH ในสูตรเซรั่มเบส Galactomyces
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรเซรั่มโดยใช้ Galactomyces เป็นเบส และมีส่วนผสมเช่น Magnesium Ascorbyl Phosphate, Hi-EGCG, Licochalcone A, และ Zinc PCA ส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้หรือไม่ และสูตรจะมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพหรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงช่วง pH ที่เหมาะสมที่แตกต่างกันของ Magnesium Ascorbyl Phosphate (pH 7-9) และสารออกฤทธิ์อื่นๆ (pH 6-7)?
คำตอบ
สำหรับความเข้ากันได้ของส่วนผสมในสูตรที่คุณเสนอโดยใช้ Galactomyces เป็นเบส:
ส่วนผสมส่วนใหญ่ที่คุณระบุมาโดยทั่วไปสามารถเข้ากันได้ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักอยู่ที่ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP)
- MAP จะมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH ที่เป็นด่างเล็กน้อย (pH 7-9)
- ส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ อีกหลายรายการในสูตรของคุณ เช่น Hi-EGCG, Licochalcone A, Zinc PCA และอื่นๆ มักจะทำงานได้ดีที่สุดและมีความเสถียรมากกว่าในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย (pH 6-7)
การผสมส่วนผสมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันในผลิตภัณฑ์เดียวทำให้ยากที่จะปรับค่า pH ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ ทั้งหมด พร้อมกัน หากคุณปรับ pH ให้เหมาะสมสำหรับ MAP (ด่าง) อาจลดประสิทธิภาพหรือความเสถียรของส่วนผสมอื่นๆ หากคุณปรับ pH ให้เหมาะสมสำหรับส่วนผสมอื่นๆ (กรดเล็กน้อย) MAP อาจไม่เสถียรหรือไม่ทำงานได้ดี
ดังนั้น แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้อาจไม่ทำให้เกิดการตกตะกอนหรือเป็นขุยทันทีเมื่อผสม แต่การที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดตามที่ตั้งใจไว้จากส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมดในสูตรเดียวที่มีการผสมผสานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความขัดแย้งเรื่อง pH กับ Magnesium Ascorbyl Phosphate นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย คุณอาจพิจารณาใช้อนุพันธ์วิตามินซีตัวอื่นที่มีความเสถียรมากกว่าในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย หรือแยกส่วนผสมเหล่านี้ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์คนละตัวกัน
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Zinc PCA

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)

Atopi-Telmesteine™

Vitamin B12 (Methylcobalamin 1%) วิตามินบี 12

Glycosaminoglycans Complex

Pisum Sativum Extract (Pea-Ex™)

L-Carnosine

Quick-Coll®

Pro-Cysteine

Magnesium Ascorbyl Phosphate
