ความเข้ากันได้ของส่วนผสม, การเปรียบเทียบแพลงก์ตอน และการยืนยันสารกันเสีย
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตรเครื่องสำอางครับ:
Pure-Succinic™ (Succinic Acid, High-Purity)
2% (ใช้เพื่อเป็นสารกันเสีย
ป้องกันและลดสิว) สามารถใช้ร่วมกันกับส่วนผสมต่อไปนี้ในเปอร์เซ็นต์ที่แนะนำได้ปกติโดยไม่มีผลเสียอะไรใช่ไหมครับ?Plankton Artemia Extract
Marine Plankton (Lifting, Tightening)
Palmaria Palmata Extract
B3
Copper PCA
Disodium EDTA
ขออนุญาตสอบถามความเห็นส่วนตัวเจ้าหน้าที่ครับว่าระหว่างแพลงตอนสองตัวที่มีจำหน่าย (
Plankton Artemia Extract
และMarine Plankton (Lifting, Tightening)
) หากจำเป็นต้องเลือกเพียงตัวเดียว เจ้าหน้าที่แนะนำตัวใดที่อาจจะมีวิจัยมากกว่า หรือเป็นที่นิยมมากกว่า มีผลดีกับผิวในเรื่องความเรียบเนียน ผิวสุขภาพดี ชุ่มชื่น หรืออื่นๆ โดยควร/เหมาะกับเป็นสารสกัดหลักในสูตร ควรเลือกตัวใดดีครับ จากความเข้าใจคือตัวนึงช่วยเรื่องลดริ้วรอย
อีกตัวปกป้องมลภาวะ ตัวใดเมื่อใช้เป็นตัวหลัก น่าจะมีผลลัพธ์ของผิวที่ดีขึ้นหลังใช้มากกว่าครับ ในการใช้งานเท่ากัน ระยะเวลาเท่ากัน รบกวนด้วยครับ (เข้าใจว่าอาจจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย แต่หากเป็นความเห็นส่วนตัว เจ้าหน้าที่แนะนำตัวใดดีครับ)Natural Moisturizing Amino Acids
ปัจจุบันยังมีเมทิลพาราเบนและโพรพิลพาราเบนผสมอยู่ไหมครับ พอดีได้รับเอกสารยังมีอยู่ แต่หน้าเว็บสินค้าแจ้งว่าสารกันเสีย
เป็นฟีนอคซี่แล้ว
คำตอบ
คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมสูตรเครื่องสำอาง:
1. ความเข้ากันได้ของส่วนผสม
จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ การใช้ Pure-Succinic™ ที่ 2% ร่วมกับ Plankton Artemia Extract, Marine Plankton (Lifting, Tightening), Palmaria Palmata Extract, Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide), Copper PCA และ Disodium EDTA ในอัตราส่วนที่แนะนำ สามารถใช้ร่วมกันได้โดยทั่วไป
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญสำหรับการผสมสูตรให้ประสบความสำเร็จ:
- ช่วง pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH ของสูตรสุดท้ายอยู่ในช่วงที่เข้ากันได้สำหรับส่วนผสมทั้งหมด ค่า pH ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 ดูเหมือนจะเหมาะสมสำหรับส่วนผสมส่วนใหญ่เหล่านี้ แม้ว่าบางชนิดจะมีช่วงที่กว้างกว่าก็ตาม
- วิธีการผสม: ควรเติม Disodium EDTA ลงในส่วนของน้ำก่อนส่วนผสมอื่นๆ ส่วนผสมส่วนใหญ่สามารถเติมลงในส่วนของน้ำได้เช่นกัน
- ความไวต่อความร้อน: หลีกเลี่ยงความร้อนที่สูงเกินไปหรือเป็นเวลานานในระหว่างกระบวนการผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสารสกัดจากแพลงก์ตอน, Palmaria Palmata Extract, Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) และ Copper PCA
2. การเปรียบเทียบสารสกัดจากแพลงก์ตอน
ในการเลือกระหว่าง Plankton Artemia Extract และ Marine Plankton (Lifting, Tightening) เพื่อใช้เป็นส่วนผสมหลักในการปรับปรุงผิวให้เรียบเนียน สุขภาพดี และชุ่มชื้น จากคำอธิบายที่มีอยู่:
- Plankton Artemia Extract เน้นการปกป้องผิวจากความเครียดจากสิ่งแวดล้อม (Anti-Pollution) และส่งเสริมส่วนประกอบพื้นฐานของผิว เช่น คอลลาเจนและเคราติน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีผลต่อการเผาผลาญของเซลล์และลดความเสียหายจากรังสียูวี
- Marine Plankton (Lifting, Tightening) เน้นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในทันทีและในระยะยาวในด้านการยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะริ้วรอยที่ชั้นหนังกำพร้า
สำหรับประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพผิวโดยรวม ความเรียบเนียน และความชุ่มชื้น ในฐานะส่วนผสมหลัก Plankton Artemia Extract ดูเหมือนจะมีประโยชน์พื้นฐานที่หลากหลายกว่าซึ่งสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ แม้ว่า Marine Plankton จะให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่มองเห็นได้ แต่ผลกระทบของ Artemia Extract ต่อสุขภาพเซลล์ การผลิตคอลลาเจนและเคราติน ดูเหมือนจะสอดคล้องโดยตรงกับการปรับปรุงสุขภาพและเนื้อสัมผัสพื้นฐานของผิว เพื่อความเรียบเนียนและความชุ่มชื้นที่ยาวนาน
3. สารกันเสียใน Natural Moisturizing Amino Acids
เกี่ยวกับสารกันเสียที่ใช้ใน Natural Moisturizing Amino Acids คำอธิบายผลิตภัณฑ์ปัจจุบันระบุว่าใช้ Phenoxyethanol 0.5% เป็นสารกันเสีย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลบนหน้าเว็บผลิตภัณฑ์ และแสดงว่าไม่ได้ใช้ Methylparaben และ Propylparaben ในผลิตภัณฑ์นี้ในปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Disodium EDTA

Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)

Plankton Artemia Extract

Marine Plankton (Lifting, Tightening)

Palmaria Palmata Extract

Copper PCA
