ความเข้ากันได้ของ Tranexamic Acid และ L-Ascorbic Acid ในสูตรตำรับ
คำถาม
สวัสดีครับ
ขอสอบถามหน่อยค่ะว่า [url=http://www.myskinrecipes.com/shop/whitening-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7/1140-tranexamic-acid-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%94.html:2vpf5h1f]Tranexamic Acid[/url:2vpf5h1f] + [url=http://www.myskinrecipes.com/shop/whitening-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7/133-vitamin-c-l-ascorbic-acid-ultra-fine-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5.html:2vpf5h1f]L-ascorbic acid[/url:2vpf5h1f] สามารถอยู่ในสูตรเดียวกันได้มั้ยคะ
คำตอบ
ความเข้ากันได้ของ Tranexamic Acid และ L-Ascorbic Acid ในสูตรตำรับ
ใช่ค่ะ Tranexamic Acid และ L-ascorbic acid สามารถใช้ร่วมกันในสูตรเครื่องสำอางเดียวกันได้
ส่วนประกอบทั้งสองชนิดสามารถละลายน้ำได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เข้ากันได้สำหรับการพัฒนาสูตร อย่างไรก็ตาม ข้อควรพิจารณาที่สำคัญคือระดับ pH ที่จำเป็นสำหรับ L-ascorbic acid
L-ascorbic acid มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในสูตรที่มี pH ต่ำ โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2.0 ถึง 4.0 อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับผิวต้องมี pH อย่างน้อย 3.5 ดังนั้น สูตรที่มี L-ascorbic acid มักจะถูกพัฒนาให้อยู่ในช่วง pH 3.5-4.0
Tranexamic Acid มีความเสถียรในช่วง pH ที่กว้างกว่า คือตั้งแต่ 3 ถึง 8 ซึ่ง pH ต่ำที่จำเป็นสำหรับ L-ascorbic acid นั้นอยู่ในช่วงที่ Tranexamic Acid มีความเสถียร
ในการพัฒนาสูตร ควรพิจารณาถึงความไม่เสถียรโดยธรรมชาติของ L-ascorbic acid ในสารละลายที่เป็นน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเกิดออกซิเดชัน เทคนิคการผสมที่เหมาะสม เช่น การผสม L-ascorbic acid ในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30°C และอาจใช้สารต้านอนุมูลอิสระหรือสารคีเลต เช่น Disodium EDTA เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของ L-ascorbic acid
สามารถใช้ได้ทั้ง Tranexamic Acid แบบผงมาตรฐาน และ Nano-TXA™ (Tranexamic Acid ในรูปแบบนาโนอิมัลชัน) ในทำนองเดียวกัน L-ascorbic acid ก็มีหลายเกรด (Standard, Fine, Ultra-Fine) ซึ่งแตกต่างกันหลักๆ ที่ขนาดอนุภาคและความง่ายในการกระจายตัว
สรุปคือ แม้ว่าจะเข้ากันได้ในแง่ของช่วง pH แต่การพัฒนาสูตรให้ประสบความสำเร็จต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับข้อกำหนดด้านความเสถียรของ L-ascorbic acid
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
