ความเข้ากันได้และความคงตัวของสูตร

การรวมส่วนผสมเหล่านี้ (ไฮยาลูรอน, วิตามินซีเสถียร, Matrixyl 3000, และ Bifida Ferment Lysate) เข้าด้วยกันในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเดียวที่มีความคงตัว อาจเป็นเรื่องท้าทาย ส่วนใหญ่เนื่องมาจากค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพของอนุพันธ์วิตามินซีและ Bifida Ferment Lysate ที่แตกต่างกัน

• ไฮยาลูรอน โดยทั่วไปมีความคงตัวในช่วง pH กว้าง (3.0-9.0) ในสูตรที่เป็นเบสน้ำ
• Matrixyl 3000 ละลายน้ำได้และมักจะผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ซึ่งบ่งชี้ว่าเข้ากันได้กับเบสสูตรส่วนใหญ่
• Bifida Ferment Lysate (เช่น Repair Activator™ BG หรือ WS) มักจะมีช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย (ประมาณ 4-5.5) และควรเติมที่อุณหภูมิต่ำเช่นกัน
• วิตามินซีเสถียร มีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีข้อกำหนด pH เฉพาะสำหรับความคงตัว:
  • Ascorbyl Glucoside (AA-2G) มีความคงตัวสูงสุดที่ pH 6.5-6.8
  • Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) มีความคงตัวสูง แต่ต้องอยู่ในสูตรที่มี pH เป็นด่าง (7-9)
  • Ascorbyl Tetraisopalmitate (Perfect-C™) ละลายในน้ำมันและมีความคงตัวที่ pH ประมาณ 5.0-5.5
  • วิตามินซีเสถียรบางชนิดที่เป็นเบสสำเร็จรูป (เช่น Natural-C Glycol™ Serum) ถูกปรับสูตรให้มี pH ต่ำ (2-3) และมักไม่เหมาะสำหรับการเติมส่วนผสมออกฤทธิ์อื่น ๆ เนื่องจากอาจส่งผลต่อความคงตัว

ช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับ Bifida Ferment Lysate (4-5.5) และอนุพันธ์วิตามินซีเสถียรส่วนใหญ่ (6.5-9 สำหรับชนิดที่ละลายน้ำได้) มีความขัดแย้งกัน การสร้างสูตรเดียวที่ส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมดอยู่ในช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุดพร้อมกันนั้นเป็นเรื่องยาก ความไม่เข้ากันนี้อาจนำไปสู่การเสื่อมสภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ประสิทธิภาพและอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์ลดลง

สี

สีของผลิตภัณฑ์สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับรูปแบบและความเข้มข้นของส่วนผสมที่ใช้

• ไฮยาลูรอนและ Matrixyl 3000 มักจะเป็นของเหลวใสหรือขุ่นเล็กน้อย/ทึบแสง หรือผงสีขาวที่ละลายเป็นสารละลายใส/ขุ่นเล็กน้อย
• Bifida Ferment Lysate อาจเป็นของเหลวใสหรือสารละลายทึบแสง (เช่น Bifida Repair Complex™)
• อนุพันธ์วิตามินซีเสถียรมีตั้งแต่ผงสีขาวไปจนถึงของเหลว/น้ำมันใสหรือสีเหลืองอ่อน

สูตรที่รวมส่วนผสมเหล่านี้เข้าด้วยกันน่าจะมีลักษณะใสถึงขุ่นเล็กน้อยหรือทึบแสง และอาจมีสีเหลืองอ่อน ขึ้นอยู่กับชนิดของวิตามินซีที่ใช้และความเข้มข้น การเปลี่ยนสีอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีที่เข้มขึ้น (สีน้ำตาล) เป็นตัวบ่งชี้ทั่วไปของการเสื่อมสภาพของวิตามินซี ซึ่งแสดงถึงความไม่คงตัว

บรรจุภัณฑ์

สำหรับสูตรที่เป็นเซรั่มหรือเจลเนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมเหล่านี้ ขวดปั๊มโดยทั่วไปเหมาะสำหรับการจ่ายผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาความคงตัวของส่วนผสม เช่น วิตามินซี ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ขวดปั๊มแบบทึบแสงและ/หรือแบบ Airless (ไม่มีอากาศเข้า) การสัมผัสกับแสงและอากาศสามารถเร่งการเสื่อมสภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อปัจจัยเหล่านี้ โดยเฉพาะวิตามินซี

สรุป

แม้ว่าในทางเทคนิคจะสามารถผสมส่วนผสมเหล่านี้ได้ แต่การจะได้สูตรที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงนั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงชนิดเฉพาะของส่วนผสมแต่ละชนิด ช่วง pH ที่เหมาะสม และปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากความขัดแย้งของช่วง pH โดยเฉพาะระหว่าง Bifida Ferment Lysate และอนุพันธ์วิตามินซีที่ละลายน้ำได้ส่วนใหญ่ การรักษาความคงตัวและประสิทธิภาพของส่วนประกอบทั้งหมดในสูตรเดียวจึงเป็นเรื่องท้าทาย ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสูตรเครื่องสำอางเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความคงตัว หรือพิจารณาการแยกส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันซึ่งมีระดับ pH ที่เหมาะสม