ความเข้ากันได้และความเสถียรของ Stabilized Protease Enzyme ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดน้ำ

ถามโดย: tanap22 เมื่อ: October 07, 2025 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ข้อกังวลด้านความเสถียรสำหรับสูตรเอนไซม์ชนิดน้ำ (อายุ 1 ปี)

รบกวนสอบถามคะ พอดีได้รับการวิเคราะห์มาว่า การเติม Stabilized Protease Enzyme มีข้อจำกัด ในกลุ่มน้ำยาของเหลว อายุ 1 ปี หากผสมกับส่วนผสมต่อไปนี้:

  1. ความเข้ากันได้กับสารลดแรงตึงผิว: สารลดแรงตึงผิว 4 ตัวนี้ ทำให้ Stabilized Protease Enzyme “denature” หรือเสียรูปร่างสามมิติ → เอนไซม์ไม่ทำงานหรือไม่คะ
    • Decyl Glucoside
    • Sodium Lauroamphoacetate
    • Cocamidopropyl Betaine
    • Phenoxyethanol
  2. ปฏิกิริยากับ Zinc Ricinoleate: สาร Zinc Ricinoleate ตัวนี้ (โดยที่ $\text{Zn}^{2+}$ จะ complex กับหมู่ amino acid ของเอนไซม์) ส่งผลให้ Stabilized Protease Enzyme → ลด activity ลงไหมคะ
  3. ทางเลือกอื่น: หากว่ามีผลกระทบ เราจะใช้ตัวไหนทดแทน Stabilized Protease Enzyme ได้บ้าง หรือใช้สารอื่นตามรายการข้างต้นทดแทน เพื่อให้เข้ากับ Stabilized Protease Enzyme

คำตอบ

ความเข้ากันได้ของ Stabilized Protease Enzyme (ID: 33848)

การวิเคราะห์ของคุณเกี่ยวกับโอกาสที่ส่วนผสมจะไม่เข้ากันนั้นมีความละเอียดและเป็นประเด็นที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการอายุการเก็บรักษา 1 ปีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว

1. สารลดแรงตึงผิว (Surfactants) และ Phenoxyethanol

ความกังวลที่ว่าสารลดแรงตึงผิวอาจทำให้เอนไซม์ เสียสภาพ (denaturation) นั้นถูกต้องตามหลักการ เนื่องจากเอนไซม์คือโปรตีน อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมที่คุณระบุมานั้นโดยทั่วไปถือว่าเป็นชนิดอ่อนโยน:

  • Decyl Glucoside (Non-ionic): สารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (Non-ionic) มักจะเข้ากันได้ดีกับเอนไซม์มากที่สุด และนิยมใช้ในสูตรน้ำยาซักผ้าที่มีเอนไซม์
  • Sodium Lauroamphoacetate (Amphoteric): สารลดแรงตึงผิวชนิดแอมโฟเทอริก (Amphoteric) ที่อ่อนโยน มักจะรุนแรงต่อโปรตีนน้อยกว่าสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบที่รุนแรง (เช่น SLS/SLES)
  • Cocamidopropyl Betaine (Amphoteric): เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดแอมโฟเทอริกที่อ่อนโยนอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กันทั่วไปในสูตรที่มีเอนไซม์
  • Phenoxyethanol (สารกันเสีย): เป็นสารกันเสีย/ตัวทำละลายชนิดไม่มีประจุ ซึ่งโดยทั่วไปเข้ากันได้กับเอนไซม์ที่ความเข้มข้นที่ใช้ปกติ (0.5-1.0%)

ข้อสรุป: แม้ว่าสารลดแรงตึงผิวเหล่านี้จะอ่อนโยน แต่ความท้าทายหลักคือ ความเสถียรในระยะยาว (1 ปี) ในสูตรที่เป็นของเหลว ความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียสภาพนั้นต่ำกว่าการใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบที่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้เป็นศูนย์ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความเสถียรของเอนไซม์คือ:

  1. ค่า pH: เอนไซม์ Protease มักจะมีช่วง pH ที่เหมาะสม (มักจะเป็นกรดอ่อนๆ ถึงกลาง หรือเป็นด่างสำหรับน้ำยาซักผ้า) โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของสูตรอยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเอนไซม์
  2. สภาพแวดล้อมของสูตร: แม้แต่สารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนก็อาจส่งผลกระทบต่อเอนไซม์อย่างช้าๆ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปี ดังนั้น การทดสอบความเสถียรแบบเรียลไทม์ (การวัดกิจกรรมของเอนไซม์ตลอด 12 เดือน) จึงเป็นสิ่งจำเป็น

2. Zinc Ricinoleate และกิจกรรมของเอนไซม์

การวิเคราะห์ของคุณเกี่ยวกับ Zinc Ricinoleate นั้นเป็น ประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งและมีโอกาสเกิดขึ้นสูง

  • กลไก: Zinc Ricinoleate มีไอออน $\text{Zn}^{2+}$ ไอออนของโลหะ โดยเฉพาะไอออนบวกที่มีประจุสอง (divalent cations) เช่น $\text{Zn}^{2+}$ เป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับหมู่กรดอะมิโน (เช่น หมู่คาร์บอกซิเลตหรือเอมีน) ของโปรตีน ซึ่งรวมถึงเอนไซม์ด้วย
  • ผลกระทบ: ปฏิกิริยานี้อาจนำไปสู่:
    • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง (Denaturation): การจับตัวของ $\text{Zn}^{2+}$ สามารถเปลี่ยนโครงสร้าง 3 มิติของเอนไซม์ ซึ่งนำไปสู่การลดลงหรือสูญเสียกิจกรรมโดยสิ้นเชิง
    • การปิดกั้นตำแหน่งออกฤทธิ์ (Active Site Blockage): ไอออนของโลหะอาจจับตัวใกล้หรือที่ตำแหน่งออกฤทธิ์ ทำให้เอนไซม์ไม่สามารถย่อยสลายคราบโปรตีนได้

ข้อสรุป: มีความเป็นไปได้สูงมากที่ Zinc Ricinoleate จะลดกิจกรรมและความเสถียรในระยะยาว ของ Stabilized Protease Enzyme อย่างมีนัยสำคัญ

3. ทางเลือกและการทดแทน

A. การทดแทน Stabilized Protease Enzyme:
หากเป้าหมายคือการขจัดคราบโปรตีน (อุจจาระ, เลือด, นม) จะ ไม่มีสารอื่นที่ไม่ใช่เอนไซม์ที่สามารถทดแทนได้โดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่จำเพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพเท่ากัน เอนไซม์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความจำเพาะสูง หากคุณจำเป็นต้องนำเอนไซม์ออก คุณจะต้องพึ่งพาสารทำความสะอาดที่รุนแรงกว่าและไม่จำเพาะเจาะจง (เช่น สารลดแรงตึงผิวที่มีความเข้มข้นสูงขึ้น, สารคีเลต, หรือตัวทำละลายเฉพาะ) แต่ประสิทธิภาพในการขจัดคราบโปรตีนน่าจะด้อยกว่า

B. การทดแทนส่วนผสมที่ไม่เข้ากัน:
เพื่อให้มั่นใจในความเสถียร 1 ปีของ Stabilized Protease Enzyme ให้เน้นไปที่การแทนที่ส่วนผสมที่มีปัญหามากที่สุด:

  • แทนที่ Zinc Ricinoleate: นี่คือสิ่งสำคัญอันดับแรก ให้แทนที่ด้วยสารดูดซับกลิ่นที่ไม่ใช่โลหะ เช่น:

    • Cyclodextrins: เป็นโมเลกุลรูปโดนัทที่ไม่ใช่โลหะ ซึ่งสามารถดักจับโมเลกุลของกลิ่นได้
    • สารคีเลตที่ไม่ใช่โลหะ (หากจำเป็นสำหรับความกระด้างของน้ำ): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารคีเลตที่ใช้เข้ากันได้กับเอนไซม์
  • กลยุทธ์สารลดแรงตึงผิว: การเลือกสารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนในปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากปัญหาสภาพคงตัวยังคงมีอยู่ คุณอาจต้องเพิ่มสัดส่วนของสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (Decyl Glucoside) และลดการใช้สารแอมโฟเทอริก หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบสารลดแรงตึงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของเอนไซม์โดยเฉพาะ

ข้อแนะนำ: ให้ทดสอบสูตรของคุณโดยการนำ Zinc Ricinoleate ออกก่อน หากความเสถียรยังคงเป็นปัญหา ให้ตรวจสอบค่า pH ของสูตร และพิจารณาการเพิ่มสารช่วยรักษาเสถียรภาพของเอนไซม์โดยเฉพาะ (หากผลิตภัณฑ์ "Stabilized Protease Enzyme" ยังไม่มีส่วนผสมนี้เพียงพอ)

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง