ความเสถียรของน้ำมันและการใช้วิตามิน E ในการป้องกันการเหม็นหืนในลิปบาล์ม
คำถาม
จากน้ำมันทั้ง 5 ชนิดนี้ หากเปิดขวดใช้แล้ว เก็บในอุณหภูมิห้อง ไม่โดนแสง อยากทราบลำดับอายุการใช้งานจากยาวสุดไปสั้นสุด ดังนี้ถูกต้องหรือไม่คะ:
- น้ำมันงา
- น้ำมันสวีตอัลมอนด์
- น้ำมันมะกอก
- น้ำมันเมล็ดองุ่น
- น้ำมันมะพร้าว
การใส่วิตามิน E เพื่อชะลอการ oxidation จะช่วยให้อายุยืนยาวขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ?
คำตอบ
คำถามเกี่ยวกับการทำลิปบาล์ม
คำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำลิปบาล์มมีดังนี้ค่ะ:
Phenoxyethanol ในลิปบาล์ม
โดยทั่วไปแล้ว สูตรลิปบาล์มหรือลิปสติกที่ดีไม่ควรมีน้ำเป็นส่วนผสม ซึ่งหากไม่มีน้ำเป็นส่วนผสม ก็ไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสียค่ะ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สารกันเสียในผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก หากสามารถทำได้ แม้ว่าสารกันเสียบางชนิดจะได้รับการอนุญาตจาก อย. ให้ใช้ได้ก็ตามค่ะ
การป้องกันการเหม็นหืน (Oxidation)
ลักษณะที่น้ำมัน เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น และน้ำมันสวีตอัลมอนด์ เหม็นหืนในเวลาไม่กี่เดือนนั้น ไม่ได้เกิดจากการเสียด้วยเชื้อโรค แต่เกิดจากการเกิดอนุมูลอิสระ (oxidation) ของส่วนผสมธรรมชาติค่ะ วิธีการยืดอายุและป้องกันการเหม็นหืนสามารถทำได้โดย:
- เติมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Vitamin E (เช่น Vitamin E Acetate หรือ dl-alpha tocopherol) และ Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
- หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูงในการผสม เนื่องจากความร้อนจะเร่งให้น้ำมันธรรมชาติเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นมาก
- เลือกใช้น้ำมันธรรมชาติชนิดที่มีความเสถียรสูง อายุยืนยาว เช่น Jojoba Oil และหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณน้ำมันที่เสียเร็ว เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น
ประสิทธิภาพของ Vitamin E ในการชะลอ Oxidation
การใส่วิตามิน E ช่วยชะลอการเกิด oxidation ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ชัดเจนได้ว่าจะช่วยยืดอายุได้นานขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของน้ำมัน ชนิดของ Vitamin E และระดับของการเกิด oxidation ที่เกิดขึ้นไปแล้วในน้ำมันก่อนที่จะเติม Vitamin E ค่ะ โดยทั่วไปอาจคาดหวังได้ว่าจะช่วยยืดอายุได้ประมาณ 3 เดือน สำหรับน้ำมันที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน และอาจยืดได้นานขึ้นหากน้ำมันนั้นมีอายุยาวนานกว่านี้ด้วยตัวเองค่ะ ยิ่งเติมได้เร็วเท่าไหร่ (คือระดับการเกิด oxidation ในน้ำมันยังมีปริมาณต่ำ) ก็ยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าเกิด oxidation มากแล้ว Vitamin E ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เนื่องจากกระบวนการ oxidation เป็นเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดขึ้นได้มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
ลำดับความเสถียรของน้ำมันเบส
ลำดับความเสถียรของน้ำมันที่คุณเรียงมา (น้ำมันงา > น้ำมันสวีตอัลมอนด์ > น้ำมันมะกอก > น้ำมันเมล็ดองุ่น > น้ำมันมะพร้าว) เมื่อเก็บในอุณหภูมิห้องและไม่โดนแสง โดยเฉลี่ยแล้วน่าจะใกล้เคียงกับที่เรียงมาค่ะ อย่างไรก็ตาม หากทดสอบจริง การวัดผลจะทำได้ยากมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นธรรมชาติ แต่ละล็อตมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ กระบวนการผลิต (เช่น การสกัดเย็น หรือการกลั่น) และกระบวนการลำเลียง การขนส่งต่างๆ มีผลอย่างมากต่ออายุของน้ำมันธรรมชาติค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
