ความเสถียรของน้ำมันและการใช้วิตามิน E ในการป้องกันการเหม็นหืนในลิปบาล์ม

ถามโดย: oat_tvdr เมื่อ: November 14, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากน้ำมันทั้ง 5 ชนิดนี้ หากเปิดขวดใช้แล้ว เก็บในอุณหภูมิห้อง ไม่โดนแสง อยากทราบลำดับอายุการใช้งานจากยาวสุดไปสั้นสุด ดังนี้ถูกต้องหรือไม่คะ:

  • น้ำมันงา
  • น้ำมันสวีตอัลมอนด์
  • น้ำมันมะกอก
  • น้ำมันเมล็ดองุ่น
  • น้ำมันมะพร้าว

การใส่วิตามิน E เพื่อชะลอการ oxidation จะช่วยให้อายุยืนยาวขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ?

คำตอบ

คำถามเกี่ยวกับการทำลิปบาล์ม

คำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำลิปบาล์มมีดังนี้ค่ะ:

Phenoxyethanol ในลิปบาล์ม

โดยทั่วไปแล้ว สูตรลิปบาล์มหรือลิปสติกที่ดีไม่ควรมีน้ำเป็นส่วนผสม ซึ่งหากไม่มีน้ำเป็นส่วนผสม ก็ไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสียค่ะ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สารกันเสียในผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก หากสามารถทำได้ แม้ว่าสารกันเสียบางชนิดจะได้รับการอนุญาตจาก อย. ให้ใช้ได้ก็ตามค่ะ

การป้องกันการเหม็นหืน (Oxidation)

ลักษณะที่น้ำมัน เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น และน้ำมันสวีตอัลมอนด์ เหม็นหืนในเวลาไม่กี่เดือนนั้น ไม่ได้เกิดจากการเสียด้วยเชื้อโรค แต่เกิดจากการเกิดอนุมูลอิสระ (oxidation) ของส่วนผสมธรรมชาติค่ะ วิธีการยืดอายุและป้องกันการเหม็นหืนสามารถทำได้โดย:

  1. เติมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Vitamin E (เช่น Vitamin E Acetate หรือ dl-alpha tocopherol) และ Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูงในการผสม เนื่องจากความร้อนจะเร่งให้น้ำมันธรรมชาติเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นมาก
  3. เลือกใช้น้ำมันธรรมชาติชนิดที่มีความเสถียรสูง อายุยืนยาว เช่น Jojoba Oil และหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณน้ำมันที่เสียเร็ว เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น

ประสิทธิภาพของ Vitamin E ในการชะลอ Oxidation

การใส่วิตามิน E ช่วยชะลอการเกิด oxidation ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ชัดเจนได้ว่าจะช่วยยืดอายุได้นานขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของน้ำมัน ชนิดของ Vitamin E และระดับของการเกิด oxidation ที่เกิดขึ้นไปแล้วในน้ำมันก่อนที่จะเติม Vitamin E ค่ะ โดยทั่วไปอาจคาดหวังได้ว่าจะช่วยยืดอายุได้ประมาณ 3 เดือน สำหรับน้ำมันที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน และอาจยืดได้นานขึ้นหากน้ำมันนั้นมีอายุยาวนานกว่านี้ด้วยตัวเองค่ะ ยิ่งเติมได้เร็วเท่าไหร่ (คือระดับการเกิด oxidation ในน้ำมันยังมีปริมาณต่ำ) ก็ยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าเกิด oxidation มากแล้ว Vitamin E ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เนื่องจากกระบวนการ oxidation เป็นเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดขึ้นได้มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

ลำดับความเสถียรของน้ำมันเบส

ลำดับความเสถียรของน้ำมันที่คุณเรียงมา (น้ำมันงา > น้ำมันสวีตอัลมอนด์ > น้ำมันมะกอก > น้ำมันเมล็ดองุ่น > น้ำมันมะพร้าว) เมื่อเก็บในอุณหภูมิห้องและไม่โดนแสง โดยเฉลี่ยแล้วน่าจะใกล้เคียงกับที่เรียงมาค่ะ อย่างไรก็ตาม หากทดสอบจริง การวัดผลจะทำได้ยากมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นธรรมชาติ แต่ละล็อตมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ กระบวนการผลิต (เช่น การสกัดเย็น หรือการกลั่น) และกระบวนการลำเลียง การขนส่งต่างๆ มีผลอย่างมากต่ออายุของน้ำมันธรรมชาติค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
เครื่องสำอาง