ข้อมูลเกี่ยวกับความเสถียรและการเข้ากันได้ของ Papain

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับ Papain ในสูตรเครื่องสำอาง:

1. Papain ที่เสื่อมสภาพในสูตรสำเร็จ จะทำให้สูตรนั้นเปลี่ยนสี เหมือนกับ Vitamin C ที่ oxidised มั้ยค่ะ?
   การเสื่อมสภาพของ Papain ส่วนใหญ่หมายถึงการสูญเสียประสิทธิภาพของเอนไซม์ ซึ่งแตกต่างจากการออกซิเดชันของ Vitamin C ที่ทำให้เกิดสารที่มีสี (มักจะทำให้เหลืองหรือน้ำตาล) การเสื่อมสภาพของ Papain เองโดยทั่วไปแล้วไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสีที่สังเกตเห็นได้ในสูตรสำเร็จ Papain มักจะเป็นผงสีขาว และการสูญเสียประสิทธิภาพไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างสารประกอบที่มีสี

2. หากทดสอบ stability ของสูตรที่มี Papain ใน Incubator ที่อุณหภูมิเกิน 40 องศา ผลลัพธ์จะเป็นอย่าไรค่ะ จะทำให้สูตรทั้งสูตรไม่ผ่านการทดสอบหรือไม่ทั้งๆที่ส่วนผสมอื่นๆ มีความเสถียรสูง?
   Papain เป็นเอนไซม์ที่ไวต่อความร้อนสูง ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ไม่ควรสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงกว่า 40°C เนื่องจากจะทำให้สูญเสียประสิทธิภาพ หากคุณทำการทดสอบความเสถียรของสูตรที่มี Papain ที่อุณหภูมิเกิน 40°C เอนไซม์ Papain มีแนวโน้มที่จะไม่ทำงาน แม้ว่าส่วนผสมอื่นๆ จะยังคงมีความเสถียรทางกายภาพ แต่สูตรจะล้มเหลวในการทดสอบความเสถียรในด้านประสิทธิภาพ เนื่องจากส่วนผสมหลักที่ออกฤทธิ์ (Papain ซึ่งทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิว) ไม่สามารถทำงานได้ในระดับที่ต้องการอีกต่อไป

3. สามารถใช้ Papain กับ Vitamin C เช่น Ascorbyl Glucoside ได้มั้ยค่ะ?
   ข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับ Papain ไม่ได้ระบุถึงความเข้ากันได้กับ Ascorbyl Glucoside โดยเฉพาะ Papain เป็นเอนไซม์โปรตีเอส (ย่อยสลายโปรตีน) ในขณะที่ Ascorbyl Glucoside เป็นอนุพันธ์ของ Vitamin C ที่ต้องอาศัยการทำงานของเอนไซม์ (เอนไซม์ที่แตกต่างจาก Papain) เพื่อเปลี่ยนเป็น Ascorbic Acid บนผิว จากกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีความขัดแย้งทางเอนไซม์โดยตรงที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม ความเสถียรและประสิทธิภาพของ Papain ขึ้นอยู่กับค่า pH อย่างมาก (โดยทั่วไปมีความเสถียรและทำงานได้ดีในช่วง pH 5.0-7.0) เมื่อผสมสูตรกับ Ascorbyl Glucoside หรือส่วนผสมอื่นๆ จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของสูตรอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพของ Papain เพื่อรักษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์